ทอท.ปฏิเสธข่าวร้านอาหาร-เครื่องดื่มในสนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ เสียแปะเจี๊ย 25-100 ล้าน จนต้องขายแพง ยันองค์กรภายนอกเคยตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง พร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำผู้ตรวจการขายน้ำดื่มขวดละ 10 บาทแล้ว ส่วนสัญญาเช่ารถเข็นกระเป๋าผู้โดยสาร 7 ปี 879 ล้าน เป็นการเช่า 1 หมื่นกว่าคัน รวมรถลากจูงไฟฟ้า ระบบไอที ค่าซ่อมบำรุง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่ใช่แค่ค่าเช่า 1 พันคันตามข่าว
วันนี้ (13 ม.ค.) ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ทอท.ฉบับที่ 9/2561 ชี้แจงราคาอาหารและเครื่องดื่มในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง มีราคาสูงผิดปกติ และการทำสัญญาเช่ารถเข็นกระเป๋าผู้โดยสารเพิ่มเติม ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นการจัดซื้อจัดจ้างที่แพงเกินจริงหรือไม่
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า จากกระแสวิจารณ์ราคาอาหารและเครื่องดื่มในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) และท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) มีราคาสูงผิดปกติ ทำให้มีผู้ออกมาวิจารณ์ว่าบริษัทเอกชนที่ชนะการประมูลไม่รักษากฎระเบียบตามสัญญา มีการเก็บเงินเพิ่มจากผู้ประกอบการรายย่อยเป็นค่าสิทธิในการประกอบกิจการเพิ่ม ตั้งแต่ 25-100 ล้านบาท จึงทำให้อาหารและเครื่องดื่มภายใน ทสภ.และ ทดม.มีราคาสูงกว่าต่างประเทศหลายเท่าตัว และการทำสัญญาเช่ารถเข็นกระเป๋าผู้โดยสารเพิ่มเติม ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ว่าเป็นการจัดซื้อจัดจ้างที่แพงกว่าความเป็นจริงหรือไม่ นั้น ทอท.ขอชี้แจงประเด็นต่างๆ ดังนี้
1. ประเด็นบริษัทเอกชนที่ชนะการประมูลไม่รักษากฎระเบียบตามสัญญา เนื่องจากมีการเก็บเงินเพิ่มจากผู้ประกอบการรายย่อยเป็นค่าสิทธิในการประกอบกิจการเพิ่ม ตั้งแต่ 25-100 ล้านบาท จึงทำให้อาหารและเครื่องดื่มภายใน ทสภ.และ ทดม.มีราคาสูงกว่าต่างประเทศหลายเท่าตัว ทอท.ขอชี้แจงว่าในอดีตที่ผ่านมา ได้เคยมีองค์กรภายนอกเข้ามาตรวจสอบการดำเนินกิจการของเอกชนที่ได้รับสิทธิประกอบกิจการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มภายในท่าอากาศยานหลายหน่วยงานแล้ว ยังไม่เคยปรากฏหลักฐานตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด
2. ประเด็นที่รักษาการผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้กล่าวถึงการกำหนดราคาสินค้าโดยเทียบเคียงในราคาที่ไม่สูงกว่าห้างสรรพสินค้าชั้นนำประมาณร้อยละ 20-25 แต่มีรายการอาหาร เครื่องดื่มบางประเภทสูงกว่าราคาดังกล่าว รวมทั้งการที่แนะนำให้มีการจำหน่ายน้ำดื่มในราคา 10 บาท แต่ปรากฏว่าได้มีการวางจำหน่ายชั่วคราวและนำน้ำแร่เข้ามาจำหน่ายแทน ทอท.ขอชี้แจงว่า ทอท.ได้เคยมีการประชุมหารือร่วมกับคณะของผู้ตรวจการแผ่นดินที่เข้ามาตรวจสอบและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ณ ทดม.ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2559 และได้ปฏิบัติตามคำแนะนำดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ร้านอาหารและเครื่องดื่มที่จำหน่ายภายใน ทสภ.และ ทดม.มีหลายประเภท ได้แก่ ศูนย์อาหาร ร้านขายปลีก หรือภัตตาคารชั้นนำที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในราคาหลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการ และมีน้ำดื่มราคาไม่เกิน 10 บาทให้ผู้โดยสารเลือกใช้บริการตลอดเส้นทางร้านค้าที่เดินผ่าน อีกทั้งยังมีน้ำดื่มฟรีไว้ให้บริการผู้โดยสารด้วย โดยข้อเท็จจริงดังกล่าวได้ปรากฏตามสื่อต่างๆ ในการตรวจเยี่ยม ทดม.เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2561 ของนายไพรินท์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้ให้ข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงานเพิ่มเติมให้กับ ทอท.เพื่อแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้นกับการให้บริการของ ทอท.ดังนี้
- ให้ ทอท.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการควบคุมและกำกับการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ทุกท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท.โดยให้มีการตรวจสอบการประกอบกิจการของผู้ประกอบการให้เป็นไปตามเงื่อนไขสัญญารวมทั้งให้ข้อเสนอแนะหรือข้อแก้ไขเพื่อปรับปรุงการให้บริการให้ดีขึ้น
- ให้ ทอท.ดำเนินการประชาสัมพันธ์ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มที่มีราคาถูก รวมทั้งจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจน
3. กรณีเว็บไซต์สปริงนิวส์รายงานว่า ทอท.ทำสัญญาเช่ารถเข็นกระเป๋าผู้โดยสารเพิ่มเติมภายใน ทสภ.จำนวน 1,000 คัน ระยะเวลา 7 ปี มูลค่า 879 ล้านบาท นั้นมีข้อสังเกตว่าเป็นการจัดซื้อจัดจ้างที่แพงกว่าความเป็นจริงหรือไม่ เพราะหากจัดซื้อใหม่ จะมีราคาที่ถูกกว่า ทอท.ขอชี้แจงเป็นประเด็นต่างๆ ดังนี้
- การจัดหารถเข็นกระเป๋าของ ทสภ.ได้กำหนดเงื่อนไขคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับรถเข็นกระเป๋า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มั่นใจว่ารถเข็นกระเป๋าที่ผู้รับจ้างนำเข้าไปให้บริการมีประสิทธิภาพ คงทนแข็งแรง และปลอดภัย และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการให้บริการ ดังนั้น ทอท.กำหนดให้ต้องมีการจัดหารถลากจูงไฟฟ้าเพื่อช่วยในการจัดเก็บและลำเลียงรถเข็นกระเป๋าด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบรถเข็นกระเป๋าในชั้นต้นตามที่ปรากฏในข่าวไม่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขของ ทอท.ดังกล่าวข้างต้น
- การประมาณการค่าใช้จ่ายตามสัญญาจ้างนี้ รถเข็นกระเป๋าขนาดเล็กมีมูลค่า 14,850 บาทต่อคัน และรถเข็นกระเป๋าขนาดกลางมีมูลค่า 25,500 บาทต่อคัน ซึ่งเป็นราคาต่ำที่สุดตามใบเสนอราคา นอกจากนี้ จำนวนรถเข็นกระเป๋าที่ ทอท.จัดหาเพื่อให้บริการ ณ ทสภ.มีจำนวนทั้งสิ้น 10,817 คัน รถลากจูงไฟฟ้าอีกจำนวน 16 คัน ไม่ใช่ 1,000 คันตามที่ถูกนำเสนอในข่าว
- การคำนวณราคาตามที่ปรากฏในข่าวนั้น เป็นการคำนวณที่ไม่ครบถ้วนตามข้อเท็จจริง มูลค่างานจ้างให้บริการรถเข็นกระเป๋าเป็นการจ้างเหมาบริการแบบเบ็ดเสร็จ ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายหลักหลายด้าน เช่น ค่ารถเข็นกระเป๋าและอุปกรณ์หัวลากไฟฟ้า ค่าจ้างแรงงาน ค่าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ค่าซ่อมบำรุง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่มูลค่าการซื้อหรือเช่ารถเข็นกระเป๋าอย่างเดียวตามที่ปรากฏในข่าว และเมื่อสิ้นสุดสัญญารถเข็นกระเป๋าและรถลากจูงไฟฟ้า พร้อมด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ จะตกเป็นทรัพย์สินของ ทอท. ด้วย การคำนวณที่ปรากฏในข่าวจึงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับข้อเท็จจริงของ ทอท.ได้
อนึ่ง ทอท.ในฐานะรัฐวิสาหกิจ และบริษัทมหาชน มุ่งมั่นในการดำเนินงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมทั้งมุ่งมั่นปรับปรุงคุณภาพการให้บริการให้ได้มาตรฐานท่าอากาศยานที่ดี เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2535-5554, 0-2535-6420 โทรสาร 0-2535-4099 อีเมล aot_media@airportthai.co.th