“องอาจ” จี้ คสช.ขอให้เป็นอุบายยื้อเลือกตั้งครั้งสุดท้าย “วิรัตน์” วอนเลิกพฤติกรรมแทรกแซงกดดัน “นิพิฏฐ์” ทำนายคว่ำกฎหมาย ส.ว.อีกข้ออ้างยื้อ เชื่อ มวลชนจะออกมากดดันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “วัชระ” ดักคอ คสช.อย่าอ้างเหตุผลป่วนเมือง-ใช้เทคนิคกฎหมายยื้อเลือกตั้งอีก แม้กฎหมาย ส.ว.ไม่ตั้ง กมธ.ร่วม
วันนี้ (28 ม.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ สนช.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ขยายเวลาบังคับใช้ออกไป 90 วัน ว่าถึงแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.จะประกาศว่าไม่ได้ก้าวล่วงกับการแก้ไขกฎหมายเพื่อขยายเวลา แต่คำกล่าวอ้างของ สนช.เพื่อขยายเวลานั้น มาจากคำสั่งที่ 53/2560 ซึ่งเป็นคำสั่งที่ออกโดยนายกฯ เกรงว่าพรรคการเมืองจะดำเนินการตามกฎหมายพรรคการเมืองไม่ทันนั้น เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่า ถ้านายกฯ ไม่ออกคำสั่งดังกล่าว สนช.จะไม่มีข้ออ้างมาขยายเวลา แม้นายกฯ จะบอกว่าไม่ได้ก้าวล่วง สนช. แต่พฤติกรรมต่างๆ ที่แสดงออก พอจะบอกความนัยได้ว่าสมคบคิดกันหรือไม่ ส่วนที่ สนช.บางคนบอกว่า พรรคการเมืองไม่เห็นด้วยกับการขยายเวลา เพราะไม่อยากทำไพรมารีโหวต นั้นไม่เป็นความจริง พรรคพร้อมทำ แต่ควรเป็นไพรมารีโหวตที่ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแท้จริง ไม่ใช่ทำเป็นเพียงแค่พิธีกรรมเท่านั้น การขยายเวลากฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส. ย่อมทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปอีก 90 วัน จะกระทบความเชื่อมั่นของตัวนายกฯ ที่เคยให้สัญญาว่าจะให้เลือกตั้งเดือน พ.ย. 61 หวังว่าการใช้เล่ห์เพทุบายทางกฎหมาย เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมืองของกลุ่มผู้มีอำนาจ จะไม่เกิดขึ้นอีก ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ทางที่ดีที่สุดคือปล่อยให้การปฏิบัติตามกฎหมาย ตามครรลองปกติ แต่ถ้ายังมีการใช้เล่ห์เพทุบายทางกฎหมายกันต่อไป อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาจนยากที่จะแก้ไข
ด้านนายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การกำหนดวันเลือกตั้งเป็นเดือน พ.ย. 61 เป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ให้สัญญาไว้ต่อประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อียู และสหประชาชาติ การขานรับวันเลือกตั้งดูได้จากหุ้นขึ้นติดต่อกันหลายวัน อย่างมีนัยยะสำคัญ แปรความได้ว่า สังคมไทยต้องการให้มีการเลือกตั้ง ตามกำหนดที่หัวหน้า คสช.ให้สัญญาประชาคมไว้กับโลก การที่คสช.ใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งที่ 53/2560 และสนช.มีมติให้เลื่อนวันบังคับใช้กฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.ออกไปอีก 90 วัน ทำให้การเลือกตั้ง น่าจะเลื่อนออกไปอย่างน้อยเป็น มี.ค. 62 และยังไม่มีท่าทีว่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายว่าจะไม่มีการเลือนเพิ่มอีก รวมกับกับสัญญาณในการปิดหูปิดปาก การไปแทรกแซงการทำหน้าที่ของมหาวิทยาลัยเมื่อสองสามวันก่อนเป็นเรื่องที่ขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง การใช้อำนาจรัฐแทรกแซงเป็นการกดดันความรู้สึกของพี่น้องคนไทยที่ คสช.และรัฐบาลจะต้องทบทวนความคิดลักษณะนี้โดยด่วน ความจริง คสช.มีเวลาสามสี่ปีเต็มที่จะแก้ปัญหาคนทุจริต ทั้งในรัฐบาลก่อนหรือรัฐบาลนี้ แต่กลับไม่เอาจริงเอาจัง จนความนิยมน่าเชื่อถือลดลง รัฐบาล คสช.ลองคิดเสียใหม่จะได้กลับทิศทางให้ถูกต้องก่อนที่จะเสียหายไปมากกว่านี้
ส่วนนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นอกจากการเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.ออกไป 90 วัน จะกระทบโรดแม็ปเลือกตั้งออกไปปี 62 แล้ว ยังมีปัจจัยยื้อเวลาอีกหนึ่งข้อที่จะเป็นข้ออ้างการเลื่อนและยื้อเวลาครั้งต่อไปได้อีก คือ มี กรธ.ท่านหนึ่งบอกว่าร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.มีปัญหา เพราะสนช.ไปแก้หลักการ อาทิ ประเด็นการเลือกไขว้ รวมถึงการลดจำนวนกลุ่มการเลือกกันเองจาก 20 กลุ่ม ให้เหลือ 10 กลุ่ม จนน่าจะมีการตั้ง กมธ.ร่วมหรือไม่ ตรงนี้พอ กมธ.หรือ สนช.ออกความเห็นแบบนี้ทีไร มักเป็นไปตามคำพูดเขาทุกครั้ง ตนจึงคิดว่าน่าจะตั้ง กมธ.ร่วมฯ ตามคำพูดของเขา จนระยะเวลาก็ต้องยืดออกไป นอกจากนี้ หากถ้ามติของ กมธ.ร่วม ไม่สอดคล้องกับมติของ สนช.อีก ทีนี้ก็เป็นช่องให้ สนช.อาจคว่ำกฎหมายลูก ส.ว.ได้ จึงกลายเป็นอีกช่องทางหาเหตุในการยื้อโรดแมปออกไปอีกได้
นายนิพิฏฐ์กล่าวถึงการเคลื่อนไหวที่ลานสกายวอล์กสี่แยกปทุมวัน หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพ ของกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย หรือดีอาร์จี เพื่อต่อต้านการสืบอำนาจของ คสช.เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ว่า การเคลื่อนไหวอย่างนี้จะมีมากขึ้น แต่ คสช.อาจจะดำเนินคดีต่อคนที่ออกมาเคลื่อนไหว แล้วบ้านเมืองก็จะมีปัญหาอีก คือถ้าไม่มีการดำเนินคดีกับคนที่ออกมาเคลื่อนไหวเมื่อวานก็จะมีประเด็นว่าเลือกปฏิบัติไหม เพราะก่อนหน้านี้ คสช.ก็ได้จับกุมกลุ่มหนึ่งที่เขามาเดินเพื่อเสรีภาพไปแล้ว แต่ตนคิดว่า คนที่ออกมาชุมนุมเขาคงไม่กลัว ทางออกคือ คสช.ต้องพูดให้ชัดว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯ และหัวหน้า คสช.จะออกมาพูดให้ชัดในเวลานี้คงไม่ทันแล้ว คนคงไม่เชื่อถืออีกต่อไป ความเชื่อถือไม่มีแล้ว พอคนไม่เชื่อ คนก็จะกดดันให้มีการเลือกตั้ง ตนว่าสถานการณ์อย่างนี้ไม่ดีเลยสำหรับรัฐบาล คสช. นายกฯ จึงต้องบอกความจริงกับประชาชนดีกว่า ว่าแท้จริง ต้องการอะไร
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)มีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาบังคับใช้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยเลือกตั้งส.ส.ออกไป 90 วัน ว่า เป็นเจตนาที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลต้องการยื้อเวลาการเลือกตั้ง ซึ่งขัดต่อสิ่งที่รัฐบาลพูดมาตลอดว่าไม่เคยมีการส่งสัญญาณให้กับ สนช. และเพราะเหตุใด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.จึงไม่เคยรักษาคำพูด ขณะเดียวกัน แม้ร่างกฎหมาย ส.ว.จะไม่มีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม แต่เชื่อว่าเมื่อถึงเวลา 90 วัน รัฐบาลก็จะมีเทคนิควิธีการทางกฎหมาย หรือในขณะนั้นมีระเบิดหรือเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น รัฐบาลก็จะนำเหตุผลดังกล่าวมาอ้างเป็นเหตุผลในการเลื่อนเลือกตั้งอีกใช่หรือไม่