xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวร้าย “ประยุทธ์” ไหลมาไม่หยุด ลุ้นแค่ว่าจะจบแบบไหน !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง , พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ , พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เมืองไทย 360 องศา


ถ้าใครเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คงเจ็บปวดใจพิลึก กับผลโพลล่าสุด ของ “กรุงเทพโพล” เมื่อสองสามวันก่อนที่ออกมาในทางลบทุกด้านเกี่ยวกับตัวเขา ที่สำคัญที่สุดก็คือ “ความนิยม” หรืออาจจะเรียกว่า “ความศรัทธา” ในตัวเขาลดลงอย่างฮวบฮาบ

เอาเป็นว่าผลที่ออกมา ปรากฏว่า ความนิยมจากประชาชนในเวลานี้ เหลือเพียงแค่ร้อยละ 36 เท่านั้น ลดลงเมื่อเทียบกับเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ถึงร้อยละ 16 เรียกว่าลงแบบฮวบฮาบเลยทีเดียว ขณะเดียวกันผลสำรวจยังต้องการให้นายกฯ มาจากการเลือกตั้ง ถึงร้อยละ 70 ขณะที่ต้องการ “นายกฯคนนอก” เพียงแค่ร้อยละ 29 เท่านั้น
นอกจากนี้ ในเรื่อง “ประชาธิปไตยไทยนิยม” ที่ “บิ๊กตู่” พยายามเสนอไอเดียทีเด็ด ตอกย้ำกันอยู่สองสามวันติดต่อกัน ก็กลายเป็นว่า จากผลสำรวจครั้งนี้ก็แทบไม่มีเสียงตอบรับเท่าที่ควร

ดังนั้น นาทีนี้ถ้าจะสรุปคร่าวๆ กันก่อน ก็พอกล่าวได้แล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังเข้าสู่ภาวะ “ขาลง” เต็มตัวแล้ว ซึ่งอาการแบบนี้แหละ หากยังหาทางสกัดไม่ได้ มันก็จะยิ่ง “ลงเร็ว” และที่น่าเป็นห่วง ก็คือ ภาวะบรรยากาศการทำงานของเขา ที่เรียกว่าเป็น “บรรยากาศเผด็จการ” ที่อยู่ได้ด้วยความศรัทธาเท่านั้น แน่นอนว่าอาจมองว่า มี “บิ๊ก” คนนั้น คนนี้ หรือมีกองทัพทุกเหล่าทัพสนับสนุนอยู่ ก็อาจจะใช่ แต่เอาเข้าจริงในทางการเมือง ในทางความชอบธรรม มันขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นหลักเท่านั้น ว่าจะยังเหลืออยู่แค่ไหน

ที่บอกว่าเป็น “ขาลง” ได้ขนาดนี้ ถือว่าสาหัสไม่น้อยแล้ว เพราะเชื่อว่าหากมีการสำรวจหลังจากนี้ น่าจะหนักกว่าเดิมอีก โดยเฉพาะหลังจากช่วงที่กำลังเกิดปัญหา “นาฬิกาเพื่อน” ของ “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่สังคมกำลังส่งเสียง “ยี้” กันดังลั่น ซึ่งต้องยอมรับว่า กรณีดังกล่าวได้สร้างความ “เสื่อม” ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ลงได้อย่างรุนแรง และเหมือนกับนี่คือภาวะ “ขาลงแรง” มากที่สุด และชัดเจนที่สุด

นอกจากนี้ เมื่อเข้าสู่ภาวะขาลงจากเรื่อง “นาฬิกาเพื่อนพี่ใหญ่” ที่คล้ายกับว่าเป็นจุดแตกหัก หรือฟางเส้นสุดท้ายกับบรรดา “กองหนุน” รุ่นท้ายๆ ที่ยังเหลืออยู่หรือเปล่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เลือกที่จะกระเตงกันต่อไป และที่สำคัญยังเข้าใจว่า เวลานี้มีพวก “สื่อกับนักการเมือง” กำลังรวมหัวล้มเขา ล้มรัฐบาล และล้ม คสช. ซึ่งก็ต้องบอกว่า “อาการหนัก” แล้ว เพราะนี่คืออาการ “หลอน” และย้อนกลับไปพิจารณาเปรียบเทียบกับคนที่มีอำนาจในอดีต ไม่ว่าจะมาแบบไหน แบบเผด็จการหรือมาจากการเลือกตั้ง แทบทั้งหมดหากพูดแบบนี้ก็จะอยู่ไม่ได้นาน

สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่ได้ต่างกัน เพราะจะว่าไปแล้วคนที่ “ล้ม” ก็คือ ตัวเขาเอง หรือในเวลานี้ก็คือ “พี่ใหญ่” หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่นแหละ คำถามก็คือ พฤติกรรมที่ผ่านมาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน กรณีครอบครองนาฬิกาหรู เรื่อง “มาตรฐานทางจริยธรรม” เคยสำเหนียกกันหรือไม่ การที่เคยโจมตีกล่าวร้ายพวกนักการเมืองว่า ใช้ไม่ได้ แล้วกรณีที่เกิดขึ้นมันต่างกันตรงไหน

การที่มีความพยายามในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่สังคมมองว่า นี่คือ การต่ออายุให้ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่เป็นพวกพ้อง เพื่อให้ปกป้องอะไรบางอย่างหรือเปล่า หรือแม้กระทั่งล่าสุดก็มีแนวโน้ม ที่ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แก้ไขกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. ให้มีการยืดเวลาการบังคับใช้ออกไปอีก 90 วัน หรืออาจจะนานไปมากกว่านั้น แบบนี้ต่างหากที่เป็นต้นเหตุในการ “ล้ม” รัฐบาลและ คสช.

ดังนั้น หากให้สรุปให้ชัดก็ต้องย้ำว่า เวลานี้มีไม่กี่เรื่องหรอกที่กำลังล้ม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็คงไม่ใช่ใครอื่น นอกจาก “ตัวเอง” เป็นคนทำตัวเอง ทำลายความศรัทธาจากประชาชนที่เคยมอบให้อย่างเต็มเปี่ยม และแน่นอนว่า เมื่อเข้าสู่ภาวะ “ขาลง” มันก็ย่อมทำให้พวกฝ่ายตรงข้ามที่เคย “ซุ่มซ่อนอยู่ตามพงหญ้าข้างทาง” ก็เริ่มมีความกล้าที่จะออกมาถล่ม ที่พอเป็นตัววัดสัญญาณที่ว่า ก็ต้องโฟกัสไปที่ “เฉลิม อยู่บำรุง” ที่คนแบบนี้แหละถือว่าเป็น “นกรู้” จากเดิมที่เคยเก็บตัวเงียบ เพราะ “หลอน” กับทหารมาก่อน ก็ยังเริ่มโผล่หัวออกมาให้เห็นทางโลกโซเชียลฯ

หากบอกว่า “ขาลง” แบบนี้ก็คงไม่ต้องไปพูดถึงอนาคตที่ต้องไปต่อ เพื่อกลับมาเป็นนายกฯอีกรอบหลังเลือกตั้ง เพราะมันจะยาก ต้องใช้เสียงสนับสนุนจำนวนมาก ตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดเอาไว้ ขณะเดียวกัน ยิ่งเวลาที่เหลืออยู่อีกประมาณเกือบปี มันก็ยิ่งเจอพวกโจทก์เก่าที่ออกมาป่วนหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ สร้างความรำคาญทุกวัน แต่ก็ไม่อาจใช้อำนาจพิเศษตามอำเภอใจเหมือนแต่ก่อนแล้ว ถึงได้บอกว่า “มันจะจบแบบไหน” ต่างหาก !!


กำลังโหลดความคิดเห็น