xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ทรุดฮวบโพลชี้ไม่เอาคนนอก-หนุนเป็นนายกฯ เหลือแค่ 36%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (แฟ้มภาพ)
“กรุงเทพโพลล์” เผยล่าสุดความนิยม “ประยุทธ์” ลดฮวบ จากการสอบถามว่าหากมีการเลือกตั้งวันนี้จะหนุนเป็นนายกฯแค่ร้อยละ 36.8 ลดลงจากที่เคยสำรวจเมื่อเดือน พ.ค. ปีที่แล้วถึงร้อยละ 16 ขณะเดียวกัน ร้อยละ 70.6 ยังเห็นว่านายกฯคนต่อไปควรมาจากการเลือกตั้ง มีแค่ร้อยละ 29.4 เท่านั้นที่หนุน “นายกฯคนนอก” รวมทั้งยังเมิน “ประชาธิปไตยไทยนิยม” อีกด้วย

วันนี้ (20 ม.ค.) ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “เส้นทางการเลือกตั้งสู่ประชาธิปไตยไทยนิยม” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,114 คน พบว่า

เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งที่ต้องมีสมาชิกพรรคครบ 500 คน มีทุนประเดิมจำนวน 1 ล้านบาท ประชาชนร้อยละ 43.9 เห็นว่า จะสร้างระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ เน้นพรรคมากกว่าตัวคน รองลงมาร้อยละ 29.6 เห็นว่า จะขาดความหลากหลายของนโยบายการหาเสียง และร้อยละ 29.1 เห็นว่า จะนำไปสู่ระบบผูกขาดทางการเมือง

นอกจากนี้ เมื่อถามต่อว่า คิดอย่างไรกับการเลือกตั้งที่จะมาถึง ในเรื่องการสรรหานายกฯ คนนอก ตามบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญ ส่วนใหญ่ร้อยละ 70.6 เห็นว่า นายกฯ ควรมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น ขณะที่ร้อยละ 29.4 เห็นว่า นายกฯ มาจากคนนอกได้หากไม่สามารถเลือกกันเองได้

ด้านความเห็นต่อการจัดมหรสพ รื่นเริง ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. พบว่า ประชาชนร้อยละ 41.5 เห็นว่า อาจเปิดช่องโกง แสวงหากำไรและผลประโยชน์ รองลงมาร้อยละ 40.5 เห็นว่า พรรคใหญ่ๆ จะได้เปรียบเพราะมีทุนมากกว่า และร้อยละ 37.3 เห็นว่า จะทำให้ประชาชนสนใจการเมือง รับรู้ข่าวสารของผู้สมัครได้ทั่วถึง

ส่วนเมื่อถามว่า “คิดอย่างไรกับแนวคิดประชาธิปไตยไทยนิยม” พบว่า ประชาชนร้อยละ 29.1 เห็นว่า จะไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆ เลย รองลงมาร้อยละ 27.9 เห็นว่า จะทำให้กลายเป็นประชาธิปไตยกึ่งรัฐบาลทหาร และร้อยละ 22.5 เห็นว่า ทำให้คนปรองดองไม่ขัดแย้ง ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย

สุดท้ายเมื่อถามว่า “หากวันนี้ มีสิทธิออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี ท่านจะออกเสียงสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่” พบว่า ประชาชนร้อยละ 36.8 ระบุว่า จะ “สนับสนุน” (ลดลงจากผลสำรวจเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ร้อยละ 16.0) ขณะที่ร้อยละ 34.8 ระบุว่าจะ “ไม่สนับสนุน” ส่วนร้อยละ 28.4 งดออกเสียง


กำลังโหลดความคิดเห็น