อัยการศาลทหารสั่งไม่ฟ้อง ส.ศิวรักษ์ คดีผิด ม.112 กรณีหมิ่นพระนเรศวร และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เหตุหลักฐานไม่เพียงพอ เจ้าตัวเชื่อพ้นคดี เพราะพระบารมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังจากได้ถวายฎีกา ย้ำจุดยืนพูดความจริงต่อไป จะติดคุกก็ยอม เหน็บผู้มีอำนาจทำอะไรก็ได้ ใส่นาฬิกาเรือนละกี่แสนก็ไม่ผิด
วันนี้ (17 ม.ค.) ที่ศาลทหารกรุงเทพ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ได้เดินทางมาพร้อมทนายความ เพื่อมาฟังคำสั่งฟ้อง - ไม่ฟ้อง จากอัยการทหาร ในข้อหาความผิดตามมาตรา 112 (กรณีหมิ่นพระนเรศวร) จากการเป็นวิทยากรในงานเสวนา “ประวัติศาสตร์ว่าด้วยการชำระและการสร้าง” จัดโดยกลุ่มสภาหน้าโดม เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2557 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ หลังจากที่อัยการศาลทหารได้เลื่อนการฟังคำสั่งฟ้อง - ไม่ฟ้อง เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ นาย ส.ศิวรักษ์ เข้าไปภายในศาลทหาร มวลชนเดินทางมาให้กำลังใจ พยายามนำเอกสารที่มีข้อความ “หยุดฟ้องคดีปิดปาก” ออกมาแจกจ่ายให้สื่อมวลชน พร้อมติดป้ายบริเวณหน้าศาลทหาร ทางเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือ และประสานให้กลุ่มมวลชนประมาณ 5 - 6 คน ให้ยุติการดำเนินการดังกล่าว ก่อนที่มวลชนทั้งหมดให้ความร่วมมือและเก็บเอกสารทั้งหมดกลับคืนไป
นายสุลักษณ์ กล่าวภายหลังเข้าพบอัยการศาลทหาร ว่า วันนี้อัยการศาลทหารสั่งไม่ฟ้อง เนื่องด้วยพยานหลักฐานไม่พอฟ้องทั้ง 2 ข้อหา คือ ข้อหาผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ ข้อหาการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ซึ่งวันนี้ตนก็ไม่ต้องเซ็นอะไรทั้งสิ้น และที่ผ่านมา มีการขอร้องให้ตนอยู่เงียบๆ แต่ถ้าตนไม่พูด ไม่เขียน ก็ตายพอดี พร้อมทั้งขอยืนยันว่าจะยืนอยู่บนความถูกต้องและความจริง แม้จะติดคุกก็ยอม แต่ในเมืองนี้คนมีอำนาจทำอะไรก็ไม่มีผิด คนมีนาฬิกาเรือนละกี่แสนก็ไม่ผิด
นายสุลักษณ์ กล่าวอีกว่า ตนยืนยันว่า มนุษย์มีคุณค่า มีเสรีภาพในการแสดงออก เราต่างกับประเทศสิงคโปร์ ที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจ แต่ประเทศเราต้องมีสันติภาพ แม้ว่าตนจะถูกจับก็ต้องสู้กับทรราช เผด็จการ อย่างไรก็ตาม คดีตนยุติได้เชื่อว่าเพราะพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในหลวง รัชกาลที่ 10 หลังจากที่ตนได้ยื่นฎีกาถึงพระองค์ท่าน และด้วยพระมหากรุณาของพระองค์ท่าน คดีตนจึงถึงที่สิ้นสุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.เชิดชัย อังศุสิงห์ หัวหน้าอัยการทหาร เป็นผู้แจ้งต่อ นายสุลักษณ์ ว่า พยานหลักฐานไม่เพียงพอ อัยการทหารจึงสั่งไม่ฟ้องทั้ง 2 ข้อหา แล้วหลังจากนี้ จะทำเรื่องไปยัง สน.ชนะสงคราม เพื่อให้แจ้งต่อ นายสุลักษณ์ อย่างเป็นทางการต่อไป