“ชาญชัย” เดินหน้าแฉการท่าฯ เปิดช่อง เอกชน แสวงประโยชน์ ปล่อยรายย่อยเช่าพื้นที่กินแปะเจี๊ยะ ต้นตอราคาอาหารสนามบินแพง เผยมีผลประโยชน์ไม่ต่ำกว่า 6 พันล้าน ขณะเดียวกันเตรียมแฉปมรถไฟรางคู่ กำลังจะมีเงินไหลเข้ากระเป๋า 2-3 หมื่นล้านบาท
วันนี้ (17 ม.ค.) นายชาญชัย อิสรเสนารักษ์ อดีต ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ นำเอกสารค่าเช่าที่การท่าอากาศยานฯ เรียกเก็บกับร้านอาหารในสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ว่าไม่ได้แพง แต่มีการปล่อยปละละเลยที่ทำให้มีการเก็บค่าเช่าเกินจริงทำให้อาหารมีราคาแพง เพราะมีการเก็บในลักษณะแปะเจี๊ยะ เก็บเงินนอกสัญญาโดยให้บุคคลภายนอกกับข้าราชการบางกลุ่มเข้าไปฉกฉวยประโยชน์ โดยนำพื้นที่ที่ได้สัมปทานไปปล่อยรายย่อยต่อ โดยมีผลประโยชน์ในการเรียกสิทธิเช่าพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านบาท ถึงขนาดในขณะนี้ธนาคารทหารไทยไม่กล้าสู้ราคา จนต้องถอยออกมามีธนาคารกสิกรไทยเข้าไปแทน เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีเคยเป็นบอร์ดธนาคารทหารไทยมาก่อนควรจะไปสอบถามข้อมูลดูว่าเกิดอะไรขึ้น และอยากตั้งคำถามว่าเงินนี้เข้ากระเป๋าใคร รัฐมนตรีรับทราบบ้างหรือไม่ เพราะสิ่งที่เอกชนทำอยู่ในขณะนี้ทำไม่ได้ แต่การท่าฯ กลับปล่อยปละละเลยให้ดำเนินการไม่มีการระงับแต่อย่างใด ตนพูดเรื่องนี้มาตลอด แต่นายกฯ กลับถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“จึงอยากให้นายกฯ ปฏิรูปตัวเอง เพราะถ้าแก้ปัญหาเรื่องสนามบินไม่ได้ก็ไม่เชื่อว่าจะแก้ปัญหาอื่นได้ และยังมีปัญหาเรื่องรถไฟรางคู่ซึ่งจะมีคนได้เงินสองถึงสามหมื่นล้านบาท เพราะมีลักษณะของการฮั้วกันของบริษัทเอกชน 13 บริษัทที่เคยร้องเรียนเรื่องนี้จนนำไปสู่การปลดผู้ว่าการรถไฟและออกคำสั่งตามมาตรา 44 มาแก้ปัญหา แต่ราคากลางที่มีการทำใหม่ลดลงไปแค่ 2% และมีข้อน่าสังกตว่ามีลักษณะเหมือนฮั้วให้ได้กันคนละช่วง ทำให้เห็นว่าน่าจะมีเงินแปะเจี๊ยะ จึงขอถามดังๆ ไปถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและนายกฯ ว่าที่จะสร้างรถไฟรางคู่ 1.7 แสนล้านนี้ มีส่วนต่างไปเข้ากระเป๋าใครหรือไม่ โดยตนจะนำรายละเอียดมาเปิดเผยอีกครั้ง” นายชาญชัยกล่าว