คณะรักษาความสงบแห่งชาติ กำลังให้ฝ่ายกฎหมายเช็กคำพิพากษาศาลทหาร ผู้ต้องขังคดีมีอาวุธสงครามปี 57 หลังพ้นโทษแล้วยังเกี่ยวปมทิ้งอาวุธฉะเชิงเทรา หลังสงสัยทำไมพ้นโทษเร็ว
วันนี้ (5 ธ.ค.) มีรายงานจากแหล่งข่าวคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า กำลังให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบคำพิพากษาศาลทหาร ของนายวัฒนา หรือนายศิวะ ทรัพย์วิเชียร ในคดีร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในการสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา ภายหลังพ้นโทษ และเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับอาวุธสงคราม ระเบิดขว้างสังหาร และกระสุนปืนขนาดต่างๆ จำนวนมาก ที่ถูกนำมาทิ้งไว้ภายในริมคลองน้ำข้างนา พื้นที่หมู่ 15 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา
“อยู่ระหว่างการตรวจสอบคำพิพากษาของศาล ต้องไปดูว่าศาลตัดสินจำคุกกี่ปี ระยะเวลานายวัฒนาต้องโทษจริงกี่ปี เพราะเหตุใดถึงพ้นโทษในเวลาอันรวดเร็ว ส่วนคดีที่นายวัฒนามีส่วนเกี่ยวข้องกับอาวุธสงครามที่ จ.ฉะเชิงเทรานั้น ทางพนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาว่าจะต้องขึ้นศาลทหาร หรือศาลพลเรือน เนื่องจากเป็นรอยต่อระหว่างรัฐประหาร รวมถึงมูลเหตุของคดีต้องพิจารณาให้ชัดเจน จึงต้องมีความละเอียด รอบคอบ” แหล่งข่าว คสช.ระบุ
ทั้งนี้ ภายหลังเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ได้ประกาศ คสช.ฉบับที่ 50/2557 ให้ศาลทหารมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม และกระทําความผิดตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 16.30 น.เป็นต้นไป
โดยในคดีแรก นายวัฒนา ถูกจับกุม เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2557 ตามหมายจับศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี เลขที่ 14 ก./2557 ลงวันที่ 29 มิ.ย. 2557 ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในการสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และถูกส่งตัวขึ้นศาลทหาร ในขณะนั้นนายวัฒนาให้การสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าตนรับอาวุธสงครามจากนายสมเจตน์ คงวัฒนะ หรือสน ผู้ต้องหาเครือข่ายอาวุธสงครามวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้แจกจ่ายอาวุธ เช่น เอ็ม 79 ระเบิดอาร์จีดี 5 ให้บุคคลต่างๆ ไปเพื่อสร้างความวุ่นวายแก่ประชาชนในช่วงที่การชุมนุมของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ก่อนส่งต่อให้นายชัยวัฒน์ ผลโพธิ์ หรือเปี๊ยก กาละแม เพื่อไปใช้ก่อเหตุในจุดต่างๆ และส่วนหนึ่งนำไปฝังดินไว้แถว อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2559 พล.อ.ประยุทธ์ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 55/2559 ให้ดคีที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร คดีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม ไปใช้ศาลปกติ