แกนนำเพื่อไทย รับปรับ ครม. เปลี่ยนคนดูแลเกษตรฯ แรงงาน อาจพอเป็นความหวังได้ แต่เชื่อแค่แก้ภาพลักษณ์รัฐเท่านั้น หยันภาพรวมยังไม่มีหวัง คาด ปัญหาหมักหมมคงไม่มีอะไรดีขึ้น บี้เดินหน้าเลือกตั้ง บอกผิดคาด “ประวิตร” รอด แต่เชื่อหวังแรงกดดันสู่ “ประยุทธ์” ลด
วันนี้ (25 พ.ย.) นายสามารถ แก้วมีชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี ชุดที่ 5 ของ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า สำหรับการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรี หรือ บุคคลที่ดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กระทรวงแรงงาน อาจพอเป็นความหวังให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร และ ผู้ใช้แรงงานที่ประสบปัญหาในด้านต่างๆ เพราะที่ผ่านมา ทั้ง 2 กระทรวงดังกล่าวนั้น เจอมรสุมปัญหาทั้งราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และปัญหาด้านแรงงาน แต่การปรับเปลี่ยนอาจเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและรักษาภาพลักษณ์ของรัฐบาลเท่านั้น หากมองถึงความหวังต่อการแก้ปัญหาภาพรวมทั้งประเทศ ตนมองว่า ยังไม่มีความหวัง เนื่องจากปัญหาภายในประเทศเป็นสิ่งที่สะสม และหมักหมมมานาน ขณะที่ช่วงเวลาทำงานของ ครม. ชุดใหม่ หากนับโรดแมปเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ อาจอยู่ทำหน้าที่ได้ถึงเดือนสิงหาคม 2561 หรือ อีก 8 - 9 เดือนเท่านั้น แม้บุคคลที่ถูกปรับเปลี่ยน หรือโยกย้ายจะเคยมีประสบการณ์ด้านการทำงานในกระทรวงที่เกี่ยวข้อง แต่สุดท้ายการทำงานต้องขึ้นอยู่กับนโยบายหลักของรัฐบาล
“การปรับ ครม. รอบนี้ เป็นเพียงการปรับเปลี่ยนในรูปแบบทั่วไป และในทางจิตวิทยาอาจช่วยให้สถานการณ์ที่กดดันของรัฐบาล คสช. เบาลงเท่านั้น แต่เมื่อดูไทม์ไลน์และโรดแมปเลือกตั้งในอีกไม่กี่เดือน และปัญหาเก่าที่หมักหมม คงไม่มีอะไรดีขึ้น อีกทั้งยังไม่เห็นมาตรการ หรือนโยบายใหม่ที่จะช่วยแก้ปัญหาประเทศได้ โดยเฉพาะปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่แม้จะปรับตัวบุคคลแต่ยังไม่เห็นทิศทางหรือความหวังต่อการแก้ปัญหาได้ ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลนี้ควรทำ คือ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง เพื่อให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาคลี่คลายปัญหาสะสม” นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่พบการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้เป็นรัฐมนตรีที่ถูกกระแสสังคมวิจารณ์อย่างหนัก และเป็นผู้ที่มีข้อครหา ว่า ถือเป็นเรื่องที่ผิดคาด แต่ตนเชื่อว่า อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่จะทำให้แรงกดดันต่อตัว พล.อ.ประยุทธ์ เบาลง เพราะสังคมให้ความสนใจและเจาะจงไปยังพล.อ.ประวิตร มากกว่า อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร ฐานะบุคคลที่ร่วมหัวจมท้ายกับ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่การยึดอำนาจ ปี 2557 จะยังอยู่กับหัวหน้า คสช. ต่อไป