3 รองนายกรัฐมนตรีเลี่ยงตอบปรับ ครม. ให้ไปถามนายกฯ เอง “พล.อ.ธนะศักดิ์” โยก รมว.แรงงาน ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ย้ำยังไม่มีข้อสรุปปลดล็อกพรรคการเมือง ชี้ถ้าทุกอย่างเงียบ มาตรการเหมาะสมจะออกมาเอง
วันนี้ (2 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีข่าวลือตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำลังพิจารณาปรับคณะรัฐมนตรี “ประยุทธ์ 5” หลังจากที่ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยื่นหนังสือลาออก โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่าเรื่องนี้ตนไม่ทราบ พูดไม่ออก เมื่อถามย้ำว่าได้คุยกับนายกรัฐมนตรีถึงเรื่องนี้แล้วหรือยัง นายวิษณุกล่าวว่า ใครจะไปคุย
ขณะที่ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า “ผมเพิ่งทราบจากข่าวเมื่อคืนเช่นกัน เรื่องนี้ผมไม่ทราบจริงๆ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้จะช่วยสถานะของรัฐบาลในช่วงท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งได้หรือไม่ พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า เข้าใจว่าในส่วนของนายกรัฐมนตรีต้องการที่จะขับเคลื่อนในการแก้ปัญหาและดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกภาคส่วน ควบคู่ไปกับการพัฒนาประเทศและการปฏิรูปตามที่เห็นอยู่ เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีคงต้องพิจารณาในส่วนที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพตามที่นายกรัฐมนตรีตั้งใจไว้ให้มากที่สุด ซึ่งพวกเราก็พร้อมสนับสนุนนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องอาศัยความร่วมมือ ไม่เช่นนั้นก็จะไปไม่ถึงตามที่ตั้งใจไว้ และเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีนั้นนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ที่ตอบคำถามได้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า มองความตั้งใจของนายกรัฐมนตรีแล้วคิดว่าการปรับครั้งนี้จะเป็นการปรับเล็กหรือปรับใหญ่ พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ไม่มั่นใจ เพราะนายกรัฐมนตรียังไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะค่อยๆ หารือและศึกษาเรื่องนี้ไปตามลำดับ เรื่องนี้คิดว่าขอให้ฟังจากนายกรัฐมนตรีจะดีที่สุด
ขณะที่ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องเดียวกันโดยกล่าวเลี่ยงว่า ถ้าเรื่องปรับคณะรัฐมนตรีต้องไปถามนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เมื่อถามย้ำว่าเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีไม่ได้เป็นปัญหาระหว่างพี่น้องหรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวเลี่ยงว่า “เรื่องนี้ไม่รู้แต่ไม่น่าจะมีอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ขอให้ไปถามอาจารย์วิษณุก็แล้วกัน”
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า จะมีการปรับเล็กหรือปรับใหญ่ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า เรื่องการปรับ ครม.ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งหมดจึงอยู่ที่ตัวท่านเพราะเป็นผู้ที่ตั้งทุกคนเข้ามารวมทั้งตนด้วย
เมื่อถามถึงการยื่นใบลาออกของ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นเรื่องของงานล้วนๆ หรือเป็นเรื่องของความน้อยใจ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ทราบ สำหรับตนก็เพิ่งทราบเมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) เช่นกัน อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆ เรื่องนี้ไม่ทราบจริงๆ ไม่เคยได้ข่าวมาก่อน
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการปลดล็อกให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรม พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า เหมือนกับที่นายกรัฐมนตรีได้พูดไว้แล้วและเรื่องนี้ก็มีการพูดคุยกันใน คสช.อยู่มันมีขั้นตอน ถ้าทุกคนรู้จักความเหมาะสมก็ไม่มีปัญหา เพราะถ้าให้คนนั้นพูดทีคนนี้พูดทีคงไม่ได้ คนเก่งบ้านเรามีเยอะ พูดดักโน่นดักนี่ พอจะทำอะไรก็กลายเป็นว่าทำตามคนนั้นคนนี้ ความจริงถ้าทุกคนทำตามหน้าที่ก็ไม่มีปัญหา คณะกรรมการก็พิจารณาตามขั้นตอนก็เป็นคำตอบอยู่แล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงได้พูดไปแล้ว คาดว่าเป็นไปตามนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าการปลดล็อกพรรคการเมืองจะเป็น การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีหรือการพิจารณาของ คสช. พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ คสช.จะเป็นผู้เสนอและนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ที่ตัดสินใจ ซึ่งความจริงแล้วได้มีการพูดคุยกันใน คสช.มาทั้งหมดแล้วว่าจะมีการพิจารณาลดเงื่อนไขในจุดใดบ้างในช่วงเวลาไหน แต่ขณะนี้เพิ่งเสร็จสิ้นงานพระราชพิธีสำคัญ ทั้งนี้ ก็คงต้องมีการพูดคุยกันใน คสช.เพื่อให้เกิดความชัดเจนอีกครั้ง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่จะมีการปลดล็อกพรรคการเมืองในต้นปี 2561 ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบยังไม่ได้ข่าว ต้องถามนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ที่ตอบคำถามได้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามยามว่าแสดงว่ายังไม่มีการพูดถึงการปรับคณะรัฐมนตรีเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ไม่มีใครคุยส่วนตัว ถ้าจะคุยก็ต้องคุยเป็นคณะ โดยเฉพาะเรื่องการปลดล็อกพรรคการเมือง เพื่อตกลงกันให้ผลออกมาดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ทุกคนก็จะได้ทำตามหน้าที่ ที่ผ่านมาก็ได้มีการคุยกันส่วนตัวบ้าง แต่พอหลายกลุ่มพูดดักกัน พอเราออกมาตรการออกมาไปเหมือนใครสักคนมันจะกลายเป็นการเอียง ถึงได้คุยกันเล่นๆ ว่าถ้าทุกคนเงียบสักนิด เมื่อมีมาตรการออกมาก็จะเป็นมาตรการที่เหมาะสมก็เท่านั้นเอง