ป้อมพระสุเมรุ
กระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถูกจุดพลุขึ้นมาอีกครั้ง หากแต่คราวนี้ไม่ได้เป็นข่าวปล่อย-ข่าวลือมาจาก “แหล่งข่าว” ที่ไหน หากแต่เป็น “สื่อค่ายหนึ่ง” ที่นำ เสนอเรื่องหัวข้อข่าวหวือหวาชวนติดตาม ว่า “Last War! ประยุทธ์ “ปรับ ครม.+ตั้ง ขรก.” รองรับโรดเเมป-เลือกตั้ง?”
เป็นโผ ครม.ที่“ยิงลูกโดด”ออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย โดยที่ไม่มีสื่อค่ายไหนระแคะระคาย เล่นเอาตกข่าวกันเป็นแถบๆ โดยมีการเจาะจงเผยแพร่ออกมาในช่วงเช้าของ วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา สาเหตุที่เลือก “วันอังคาร” ก็เป็นเพราะเป็นวันประชุม ครม.ประจำ สัปดาห์และคงจะมีคนในรัฐบาลให้สัมภาษณ์ต่อยอดประเด็นนี้
เปิดหัวบทความข่าวด้วยท่อนที่ว่า “...ได้รับการยืนยันจากเเหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และสำ นักงานตำรวจเเห่งชาติยืนยันตรงกันว่า ในเร็วๆ นี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเเละหัวหน้า คสช. กำ ลังจะปรับ ครม.ครั้งใหญ่ รวมทั้งการเเต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในหลายหน่วยงาน...”
อ้างอิง “เเหล่งข่าว”จาก 3 หน่วยงานสำ คัญ ทั้ง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และสำ นักงานตำรวจเเห่งชาติ(สตช.)เพิ่มน้ำ หนักให้กับข่าวนี้
ตามด้วยโผที่สร้างความฮือฮาด้วยการจับ 2 คีย์แมนสำ คัญของรัฐบาล คสช. สลับตำแหน่งกัน โดย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เเละ รมว.กลาโหม จะย้ายไปเป็น รองนายกรัฐมนตรีเเละ รมว.มหาดไทย แล้วให้ “บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จะย้ายไปเป็น รมว.กลาโหม แทน
ขณะที่ตำ แหน่งอื่นที่กล่าวถึงก็ไม่มีอะไรใหม่ ระบุ ถึงรัฐมนตรีที่อาจจะถูกปรับออก แต่ก็ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมากมาย กระทั่งการระบุว่า “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้รับการแต่งตั้งให้มารับตำแหน่ง รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เเทน พล.ต.อ.อดุลย์เเสงสิงเเก้ว ที่จะขยับไปดูกระทรวงยุติธรรม หรือไปเป็นรองนายกรัฐมนตรีส่วนตำ เเหน่ง ผบ.ตร. ที่ว่างลงนั้น จะเป็นโอกาสของ “บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.
ความพยายามในการผูกโยงปัญหาการชิงตำแหน่งนำ ภายในสตช. เข้ากับการปรับ ครม.นั้น ก็มีมาตลอด ด้วยอายุราชการของพล.ต.อ.จักรทิพย์ที่เหลือถึง 2 ปีหากต้องลุกจากเก้าอี้ผบ.ตร.จริง ก็ต้องมีตำ แหน่งที่สมน้ำ สมเนื้อรองรับ ไม่ว่าจะเป็นปลัดกระทรวง ที่เป็นระดับ ซี11 เท่ากัน หรือขึ้นชั้นรัฐมนตรีไปเลย แต่จู่ๆ นำชื่อของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ไปกินโควตาตำ รวจแทนที่“อดีต ผบ.อู๋” ที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ก็ดูจะทำ ให้น้ำ หนักความน่าเชื่อถือของโผ ครม.นี้ลดฮวบลง
สำทับกับเหตุผลในการสลับตำแหน่งระหว่าง“พี่ป้อม- น้องป๊อก” ว่า เพื่อดูเเลการเลือกตั้ง ตามโรดแมปของรัฐบาล ทำ ให้กลายเป็น “โผไร้ราคา” ทั้งในมุมมองของ “เพื่อนสื่อ” และ “คนในรัฐบาล” ไปในทันทีจนในวันนั้นก็ไม่มีใครรับลูกต่อยอดข่าวปรับ ครม. ตามที่คาดการณ์ไว้
เพราะแม้“บิ๊กในรัฐบาล” ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันขณะนี้ทุกอย่างยังเป็นไปตามโรดแมป และแม้ว่ารัฐธรรมนูญจะระบุไทม์ไลน์ไว้ว่า การเลือกตั้งจะมีขึ้นอย่างช้าในเดือนสิงหาคม2561แต่ก็ไม่มีใครกล้ายืนยันว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อใด แบบ วัน ว. เวลา น. อย่างแน่ชัด แม้แต่คนเดียว
พูดง่ายๆ ว่า ยังไม่มีใครรู้ว่าจะมีการเลือกตั้งขึ้นเมื่อไรกันแน่ด้วยซ้ำ ดังนั้น การอ้างว่าจะมีการปรับ ครม.เพื่อรองรับการเลือกตั้ง จึงเป็นเหตุผล-ข้ออ้างที่ “น่าขัน” เป็นอย่างยิ่ง
แล้วถามว่าหากรู้ว่าจะมีการเลือกตั้งขึ้นเมื่อไรจริง ทำ ไมต้องให้“บิ๊กป้อม” ไปดูแลกระทรวงมหาดไทย แล้วให้“บิ๊กป๊อก”มาดูแลกระทรวงกลาโหม ในเมื่อที่ผ่านมา การกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทยของ “มท.ป๊อก” ก็ลื่นปรึ๊ดๆ แถมได้“บิ๊กฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ ที่เข้าขากับเจ้ากระทรวงมาเป็นปลัดคนใหม่อีก ขณะที่“บิ๊กป้อม” ก็กำ ลังจับวางเด็กปั้น-น้องรักในเครือข่าย ขึ้นตำแหน่งสำ คัญๆ ของกองทัพ ในฤดูโยกย้ายแต่งตั้งกันยายนนี้อยู่
จึงต้องถือว่า “บิ๊กป้อม” ยังแฮปปี้กับการดูแลน้องๆ ในกองทัพ แถมมีเรื่องจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่อนุมัติไปแล้วและยังอยู่ในระหว่างการดำ เนินการ เป็นหมื่นๆ ล้าน ส่วน “บิ๊กป๊อก”ก็เพลินอยู่กับการวางงานในกระทรวงคลองหลอด แถมที่ผ่านมาเจ้ากระทรวง หรือหน่วยงานในสังกัด ไม่ค่อยเป็น “ตำ บลกระสุนตก” ถูกวิพากษ์วิจารณ์เท่าไร สถานการณ์แบบนี้“บิ๊กป๊อก” ขออยู่เป็น “เสือเงียบ ฟาดเรียบ” แบบไม่มีใครสนใจดีกว่า
ที่สำ คัญเมื่อ คสช.ยังคงมีสถานภาพอยู่ไปจนหลังการเลือกตั้ง ก็เชื่อว่าบทบาทของ “ทหาร” จะไม่ได้ยิ่งหย่อน หรืออาจจะเหนือกว่ากลไกของกระทรวงมหาดไทย ในภารกิจสนับสนุนการควบคุมการเลือกตั้ง ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ด้วยซ้ำ
พอเป็น “โผไร้ราคา” ก็ไม่มีการนำ ไปเล่นเป็นประเด็น ผ่านไปเป็นสัปดาห์จึงมีการนำ ไป “ยัดปาก” สอบถามคนที่อยู่ในข่าวประเดิมด้วย พล.อ.ประวิตร ที่ไม่ได้สะทกสะท้าน ตอบสั้นๆ ว่าเป็นเพียงการมโนของสื่อ นายกฯ ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย
แต่ก็ไม่วายไว้ลาย “พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์”แบะท่ากอดเก้าอี้“สนามชัย 1” ด้วยว่า “หากจะมีการปรับ ครม.จริง คงเป็นช่วงหลังพระราชพิธีสำ คัญ (หลังเดือนตุลาคมนี้) ส่วนตัวก็ยังอยากที่จะคุมกระทรวงกลาโหมต่อเพื่อความต่อเนื่อง”
ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ก็บอกแค่ว่า “ให้นายกฯ เป็นผู้พิจารณา” ก่อนที่จะมาเป็น “นายกฯ ตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์-โอชาออกโรงมาตบเป็นคนสุดท้ายว่า “...แล้วทำ ไมถึงไปเขียนกันว่าจะย้ายคนนี้ไปดูตรงนั้น เอากลาโหมไปดูการเลือกตั้งเอา ผบ.ตร.ไปนั่งเป็นรัฐมนตรีเพ้อเจ้อ คิดไปได้อย่างไร คนคิดเข้ามาอยู่ในหัว ในสมองผมหรือ..”
สรุปแล้วก็คือ ไม่มีอะไรในกอไผ่ โผปรับ ครม.ที่ “หลุดเดี่ยว” ออกมารอบนี้เป็นเพียงการมโนของ “สื่อค่ายนั้น” เอง โดยที่สื่อด้วยกันก็ไม่ตระหนกตกใจเหมือนกับเวลาที่มีโผ ครม.ออกมาจาก “สื่อค่ายอื่น”
ความตั้งใจที่ว่าจะอาศัยยิงข่าวเดี่ยว กะจะ “แจ้งเกิด” ในคราวนี้ก็เลยกลายเป็นการ “แจ้งดับ” ไปโดยปริยาย
ขณะเดียวกันก็ทำให้เห็นภาพของ“3 ป.พี่น้องบูรพาพยัคฆ์”ที่ยังเล่นอยู่ในทำ นองเดียวกัน ความสัมพันธ์ยังแน่นปึ้กเสมอ
