xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” เช็กสุขภาพดีเยี่ยมรับมือ 2 คดีโกง-หนีตลอดชีพ !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา


ก็ไม่ทันครบ 24 ชั่วโมงดีนัก หลังจากที่ น.ส.พินทองทา ชินวัตร ลูกสาวของ ทักษิณ ชินวัตร โพสต์ภาพลงในสื่อโซเชียลฯเพื่อแสดงให้เห็นว่า บิดาของเธอได้ไปตรวจสุขภาพ และยืนยันว่า สุขภาพดีเยี่ยม ซึ่งในวันรุ่งขึ้นทางสำนักอัยการสูงสุด ก็ได้เปิดการแถลงรื้อคดีทุจริตอย่างน้อย 2 คดี ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจำหน่ายออกไปชั่วคราว หลังจากจำเลย คือ ทักษิณ ชินวัตร หลบหนี

แต่หลังจากที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2560 เป็นต้นมา ทำให้ต้องมีการรื้อฟื้นคดีที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเคยตกเป็นจำเลยในศาลขึ้นมาดำเนินคดีต่อไปได้เลย โดยที่เรียกว่าพิจารณาคดี “ลับหลังจำเลย” หลังจากก่อนหน้านี้ คดีมีการหยุดชะงัก เนื่องจากจำเลยหลบหนีจนทำให้ศาลต้องจำหน่ายคดีออกไปชั่วคราว เนื่องจากกฎหมายเดิมกำหนดให้ต้องพิจารณาคดีต่อหน้าจำเลย อย่างไรก็ดีตามกฎหมายดังกล่าวจำเลยยังมีสิทธิ์เต็มร้อยสำหรับการตั้งทนายความมาแก้ต่างหรือต่อสู้คดีได้

จากการแถลงของโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด วันชาติ สันติกุญชร วันที่ 21 พฤศจิกายน ระบุว่า พนักงานอัยการได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้ดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไป โดยไม่ต้องกระทำต่อหน้า นายทักษิณ ชินวัตร จำเลย

เป็นคดีหมายเลขดำที่ อม. 9/2551 ที่ นายทักษิณ ชินวัตร ถูกฟ้องเป็นจำเลยข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญาฯ (ออกกฎหมายแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคม และมือถือ เป็นภาษีสรรพสามิต)

และคดีหมายเลขดำที่ อม.3/2555 ที่นายทักษิณ ชินวัตร กับพวก 27 คนตกเป็นจำเลย ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์ตนเองหรือผู้อื่น ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตหรือโดยมิชอบ (กล่าวหาร่วมทุจริตการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย กับกลุ่มกฤษดามหานคร)

“วันนี้ (21 พฤศจิกายน) รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษได้ยื่นคำร้องแล้ว หลังจากนี้ ต้องรอฟังคำสั่งของศาลว่าจะพิจารณาอย่างไร” โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดระบุ

แน่นอนว่า สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวของเขา รวมไปถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวอีกคนหนึ่งที่กำลังหลบหนีคดีความผิดเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก 5 ปี ไปเมื่อไม่นานมานี้ เพราะตามกฎหมายใหม่ดังกล่าวจะไม่มีการกำหนดอายุความ หากคิดจะหนีก็ต้องหนีไปตลอดชีวิต

ขณะเดียวกัน หากพิจารณาตามรูปการณ์แห่งคดีแล้ว มันก็มีแนวโน้มสูงอย่างยิ่งที่กรณีของ ทักษิณ ชินวัตร ที่เสี่ยงคุก เพราะพิจารณาจากคดี “เงินกู้ธนาคารกรุงไทย” ที่ก่อนหน้านี้ระดับอดีตผู้บริหารของทั้งธนาคารกรุงไทย และ กลุ่มกฤษดามหานคร ได้ถูกศาลจำคุก “หัวโต” มาแล้วทั้งสิ้น และเวลานี้ก็ยังถูกคุมขังอยู่ในเรื่อนจำ มีแต่ ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้นที่หลบหนีออกนอกประเทศไปก่อน

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา ทักษิณ ชินวัตร ได้มีความพยายามที่จะยกเว้นความผิดให้กับตัวเองหลายครั้ง ด้วยการให้บรรดา “หุ่นเชิด” ทางการเมืองผ่านทางรัฐบาลที่ตัวเองบงการอยู่เบื้องหลังออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแบบ “สุดซอย” จนเกิดวิกฤตการณ์ทางการเมือง และที่สำคัญ ทำให้รัฐบาลหุ่นเชิดดังกล่าวต้องถูกขับไล่พ้นไป แต่ก็ไม่เข็ด ไม่เคยสรุปบทเรียนมีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือ ต้องการให้ตัวเองไม่ต้องรับโทษเท่านั้น

เหมือนกับคราวนี้ที่ล่าสุด บรรดา “ลูกน้อง” ทางการเมือง อย่าง วัฒนา เมืองสุข ก็ออกรับแทนทันทีกล่าวหาทำนองว่า การที่อัยการรื้อฟื้นการดำเนินคดีต่อ ทักษิณ ชินวัตร ในชั้นศาล เป็นการไม่ยุติธรรม อ้างว่าผิดธรรมเนียม และผิดหลักกฎหมายสากลที่ทางสหประชาชาติกำหนดเอาไว้ และชี้นิ้วกล่าวโทษไปที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หาว่าต้องการกำจัดศัตรูทสงการเมือง และยืนยันว่า หากกลับมามีอำนาจเมื่อไหร่ก็จะยกเลิกกฎหมายในลักษณะแบบนี้ทันที

ซึ่งมันเป็นน่าแปลกที่หน้าที่ของ วัฒนา เมืองสุข จะมาในบทบาทไหน เป็นลูกน้องของ เป็นโฆษกส่วนตัวหรือว่าเป็นทนายความรับมอบอำนาจของ ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ ขณะเดียวกัน ก็ต้องจับตามองอีกว่าบรรดาคนในพรรคเพื่อไทยจะออกมาเต้นแร้งเต้นกาอีกหรือไม่ เพราะพิจารณาตามหลักการแล้วนี่เป็นคดีความส่วนตัว ส่วนบุคคล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของสังคมส่วนรวม ทั้งสองคดีที่ ทักษิณ ชินวัตร ถูกฟ้องดำเนินคดีก็เป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนต้วของเขา ธุรกิจในเครือครอบครัวของเขา

แต่หากพิจารณาในมุมผลประโยชน์ส่วนตัวของ วัฒนา เมืองสุข ก็อาจเข้าใจได้ว่าการออกมาแสดงความเห็นแบบนี้มันอาจมีผลต่อตำแหน่งภายในพรรคเพื่อไทยในวันข้างหน้าก็เป็นได้ นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง

อย่างไรก็ดี หากโฟกัสเฉพาะตัว ทักษิณ ชินวัตร ที่นับจากนี้แม้ว่าตามขั้นตอนทางกฎหมายอาจต้องรอผลการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ในเมื่อมีกฎหมายกำหนดเอาไว้แล้วมันก็แทบจะไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย เตรียมตัวสำหรับการรักษาสุขภาพให้พร้อมเท่านั้น เพราะหากคิดจะหนีก็ต้องหนีไปตลอดชีวิตนั่นแหละ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น