“ประยุทธ์” เป็นประธานตรวจพลสวนสนามทางเรือ งานมหกรรมทางเรือนานาชาติ พร้อม "ประวิตร" และ ผบ.เหล่าทัพ โดยขึ้นเรือหลวงถลาง ก่อนไปติดตามการจัดการศึกษาพื้นที่โครงการ EEC
วันนี้ (20 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ท่าเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีสวนสนามทางเรือนานาชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งอาเซียนโดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้ช่วยทูตทหารจากประเทศต่างๆ ทหารระดับสูงจากทุกเหล่าทัพและสมาคมภริยาเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพียง โดยมีพล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ รองผบ.ทร. ร่วมกันให้การต้อนรับและพล.ร.อ.รังสฤษฏ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นผู้กล่าวรายงาน ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ มีสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนลงเรือหลวงถลางเป็นประธานตรวจพลการสวนสนามทางเรือในครั้งนี้
สำหรับเรือรบนานาชาติจะมีทั้งสิ้น 40 ลำ จากประเทศไทย ออสเตรเลีย สหรัฐฯ รัสเซีย เกาหลี จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ศรีลังกา ปากีสถาน บังคลาเทศ และประเทศอาเซียน ซึ่งแต่ละประเทศได้จัดนำเรือรบที่ทันสมัย และมีสมรรถนะสูงเข้าร่วม ถือเป็นความยิ่งใหญ่และความร่วมมือที่ดี ระหว่างกองทัพเรือไทย อาเซียน และประเทศนอกอาเซียน ซึ่งพิธีสวนสนามทางเรือจัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ
และยังมี ผบ.ทร.และผู้แทนระดับสูงของกองทัพเรืออาเซียนและกองทัพเรือนานาชาติกว่า 39 ประเทศเข้าร่วมงาน โดยนายกรัฐมนตรีได้ขึ้นแท่นรับความเคารพบนดาดฟ้าเรือ ซึ่งมีรถหลวงปิ่นเกล้ายิงสลุตจำนวน 19 นัด และเครื่องบินขับไล่แบบเอฟ-16 บินผ่าน จากนั้นเครื่องบินตรวจการชายฝั่งรุ่นที337 ได้ปล่อยควันสีธงชาติไทย และเฮลิคอปเตอร์แบบเบลล์ 212 ลากธงสัญลักษณ์มหกรรมทางเรือนานาชาติและและธงราชนาวีผ่านบริเวณพิธี
นอกจากนี้ยังมีหมู่เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง อีซี645 อีก 3 ลำ บินผ่านระหว่างที่เรือหลวงถลางเคลื่อนผ่านเรือหลวงจักรีนฤเบศรได้มีเครื่องบินขับไล่แบบเอฟ-16 เครื่องบินขับไล่แบบกริพเพน และเครื่องบินตรวจการณ์แบบซาร์ป 340 เออีดับเบิ้ลยู บินผ่าน ต่อด้วยหมู่บินเครื่องบินขับไล่เเบบเอฟ-27ในระหว่างเรือหลวงถลางเคลื่อนที่เข้าสู่แถวเรือรบนานาชาติที่จอดทอดสมอเป็นสองแถวตามเส้นทางทางกาบซ้าย โดยแถวแรกผ่านเรือรบนานาชาติจำนวน 18 ลำ จากนั้นเรือหลวงถลางเลี้ยวกลับลำเพื่อเข้าสู่การตรวจแถวที่สองอีก 18 ลำจนจบที่เรือหลวงมกุฎราชกุมารเป็นเรือลำสุดท้าย ก่อนเสร็จสิ้นพิธีสวนสนามทางเรือนานาชาติ
มีรายงานว่า ก่อนพิธีจะเริ่มต้น พล.อ.ประวิตร เดินทางมายังท่าเรือแหลมบาลีฮาย ด้วยรถตู้ส่วนตัว โดยมี พล.อ.อุดมเดช พล.อ.เทพพงศ์ พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรี และ ผบ.เหล่าทัพ ร่วมถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ รอต้อนรับอยู่ที่ทำการท่าเรือแหลมบาลีฮาย ก่อนจะนั่งรถกอล์ฟ ไปขึ้นเรือหลวงถลาง
ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาขึ้นเรือหลวงถลาง ในเวลา 09.15 น. ก่อนที่เรือเคลื่อนออกจากท่า ทั้งนี้ในระหว่างอยู่บนเรือ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ได้พบปะกันช่วงสั้นๆในห้องรับรอง ก่อนจะเข้าสู่พิธีตรวจพลสวนสนามทางเรือนานาชาติระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ กับ ผู้บัญชาการทหารเรือทั้ง 18 ประเทศ จนจบพิธี
ในระหว่างที่รอเรือหลวงถลางเทียบท่าอยู่นั้น พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ เดินออกมานอกตัวเรือ และถือเป็นการปรากฎตัวพร้อมกันต่อหน้าสื่อครั้งแรก และพูดคุยกันโดยใช้เวลาประมาณ 1 นาทีเศษ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปภายในเรืออีกครั้ง เพื่อเตรียมตัวลงจากเรือมาถ่ายรูปหมู่ และในระหว่างลงจากเรือ พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการเจ้าหน้าที่ดูแล พล.อ.ประวิตร ในระหว่างลงจากเรือ
จากนั้น นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เดินทางไปรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน ที่โรงแรมดุสิตธานี พัทยา ก่อนจะแยกย้ายกลับ
โดยในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบเพื่อติดตาม การจัดการศึกษาในพื้นที่โครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก หรือ EEC โดยจะรับฟังการบรรยายสรุปการจัดการศึกษา ตรวจเยี่ยมการเรียนการสอน และพบปะ นักศึกษา ผู้ปกครอง และผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการอาชีวะศึกษาทวิภาคี
ก่อนที่ช่วงค่ำ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน งานเลี้ยงรับรองอย่างเป็นทางการ เนื่องในงานจัดงานมหกรรมทางเรือ นานาชาติ และวันกองทัพเรือที่ โรงแรมดุสิตธานี พัทยา
