ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แจงปมส่งชื่อผู้แทนเป็น กก.สรรหา กกต. ยันทำตามหนังสือ สนง. เลขาธิการวุฒิสภา ระบุตีความกฎหมายระยะเวลา 20 วัน ไม่เอาใช้บังคับใช้ เหตุเป็นการให้เสนอชื่อใหม่เพื่อแต่งตั้งแทนคนเดิม
วันนี้ (7 พ.ย.) นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวชี้แจงกรณีไม่มีตัวแทนของ กสม. ไปทำหน้าที่คณะกรรมการสรรหา กกต. เนื่องจากส่งรายชื่อล่าช้า พ้นกำหนดเวลา 20 วันตามที่ พ.ร.ป.กกต. มาตรา 71 กำหนดว่า ในทางปฏิบัติ กสม. และฝ่ายกฎหมายได้พิจารณากฎหมายดังกล่าวแล้วเห็นว่า การเสนอชื่อกรรมการสรรหา กกต. จะครบกำหนดเมื่อวันที่ 3 ต.ค. เนื่องจาก พ.ร.ป. กกต. เริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. แต่การที่เลขาธิการวุฒิสภามีหนังสือมาถึงเลขาธิการ กสม. ในวันที่ 6 ต.ค. หลังการประชุมคณะกรรมการสรรหาครั้งแรก เป็นเวลาที่พ้น 20 วันไปแล้ว โดยแจ้งว่านายธีรภัทร สันติเมทินีดล บุคคลที่ กสม. เสนอชื่อไปพ้นจากตำแหน่งกรรมการสรรหาฯ เนื่องจากขาดคุณสมบัติ พร้อมให้ กสม. เสนอชื่อบุคคลใหม่เพื่อไปทำหน้าที่กรรมการสรรหา กรณีนี้จึงย่อมถือได้ว่า นายธีรภัทร ต้องดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการสรรหา กกต. แล้วตั้งแต่วันที่ กสม. ส่งชื่อไปในครั้งแรก มิฉะนั้น จะมีกรณีที่ต้องพ้นจากตำแหน่งไปได้อย่างไร ดังนั้น การที่ให้เสนอชื่อใหม่จึงนับเป็นการแต่งตั้งแทน ที่ไม่ต้องนำเรื่องระยะเวลา 20 วัน ตามมาตรา 71 มาใช้บังคับ
ทั้งนี้ นายวัส ยังตั้งข้อสังเกตว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา มีหนังสือแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการสรรหา กกต. นัดแรกวันที่ 6 ตุลาคม มายังเลขาธิการ กสม. เป็นวันเดียวกับที่คณะกรรมการสรรหากกต. ประชุม แต่หนังสือแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการสรรหา กกต. นัดที่สองวันที่ 18 ตุลาคม ทำไมกลับต้องรอถึงวันที่ 25 ต.ค. เลขาธิการวุฒิสภาจึงได้ลงนามส่งหนังสือมาถึงเลขาธิการ กสม. โดยระบุว่า กสม. ไม่สามารถที่จะเสนอชื่อและแต่งตั้ง นายปรีชา บุตรศรี เป็นกรรมการสรรหา กกต. ได้ เนื่องจากเป็นการเสนอชื่อผู้แทนและแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการสรรหา กกต. เกินกำหนดระยะเวลาที่ พ.ร.ป. กกต. บัญญัติไว้ดังกล่าว