xs
xsm
sm
md
lg

เปิดหนังสือด่วน! ปภ.ลงชื่อ “บิ๊กป๊อก” ชงซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา เครื่องละ 6.7 แสน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เปิดหนังสือด่วน! ปภ. ลงชื่อ “บิ๊กป๊อก” ชงซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา มูลค่าเครื่องละ 675,000 บาท อ้างราคาถูกกว่าเดิม 225,000 บาท ส่วน “สตช.” แจ้งอยากได้จริง 1,957 เครื่อง กระจายลงภูธร เผย สงป. ยัน “นายกรัฐมนตรี” ให้ใช้งบ 573 ล้าน ซื้อ 849 เครื่อง ด้าน “วีระ สมความคิด” โพตส์ถามทำไม? ปภ. ซื้อแพงกว่าตลาด 8 เท่า แขวะ “บิ๊กป้อม” ลักหลับซื้อราคาสูงลิ่ว

วันนี้ (19 ต.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า จาก มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ได้เห็นชอบตามข้อเสนอของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่กำกับ กระทรวงมหาดไทย อนุมัติโครงการจัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา เพื่อใช้ในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ตามที่ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอ ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย(ปภ.) จัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา

โดยมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่สำนักงบประมาณ ได้เห็นชอบจากกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่นำไปปรับแล้ว จำนวน 573,075,000 บาท สำหรับจัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา จำนวน 849 เครื่อง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอ

ล่าสุด มีการเปิดเผยหนังสือด่วนที่สุดที่ มท 0606/10954 ลงนามโดย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน

โดยมีความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือด่วนที่ ตช. 0007.34/1573 ลงวันที่ 9 พ.ค. 2560 ยืนยันความต้องการใช้เครื่องตรวจจับความเร็วและแผนการจัดสรรให้หน่วยงานปฏิบัติ โดยขอรับการสนับสนุน รวม 1,957 เครื่อง แยกเป็นเครื่องตรวจจับความเร็วแบบติดตั้ง 746 เครื่อง และเครื่องแบบพกพา 1,211 เครื่อง โดยให้ กองบัญชาการ / ตำรวจภูธรภาค หรือ กองบังคับการตำรวจทางหลวง เป็นผู้เสนอความต้องการและรู้สภาพปัญหาของพื้นที่ดีที่สุด บริหารจัดการอุปกรณ์เครื่องมือที่ได้รับการจัดสรรให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ที่รับผิดชอบและสามารถป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดจากการใช้ความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ด้าน ปภ. ยืนยันว่า ได้มีการทบทวนราคากลางในท้องตลาด พบว่า ราคาปัจจุบัน เครื่องละ 675,000 บาท มีราคาถูกกว่าเดิม 225,000 บาท และได้นำมาเป็นข้อมูลในการจัดทำโครงการจัดหาเครื่องตรวจจับความเร็ว แบบพกพา เพื่อใช้ในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน จำนวน 1,211 เครื่อง ราคาเครื่องละ 675,000 บาท รวมทั้งสิ้นจำนวน 817,425,000 บาท งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

ต่อมาสำนักงบประมาณ ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ นร 0715/19827 ลงวันที่ 11 ก.ย. 2560 แจ้งว่า นายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบในหลักการให้ ปภ. ใช้จ่างบประมาณฯ สำหรับจัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา วงเงิน 573,075,000 บาท จำนวน 849 เครื่อง

“ปภ. อ้างว่า การขับขี่ยานพาหนะด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหนดเป็นสาเหตุสำคัญของความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงเทศบาลสำคัญ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นในการขัดหาเครื่องตรวจจับความเร็ว เพื่อใช้ในการเฝ้าระวังและควบคุมพฤติกรรมการขับขี่ยานพาหนะด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหนด”

สำหรับ “เครื่องตรวจจับความเร็วระบบแสงเลเซอร์แบบมือถือ (พกพา) หรือ Laser-Speed Gun Specification” ที่ ครม. เห็นชอบ สามารถบันทึกข้อมูลภาพเคลื่อนไหวและภาพถ่ายที่ชัดเจนของรถยนต์ได้พร้อมกัน และสามารถพิมพ์ผลออกทางเครื่องพิมพ์ได้ โดยเครื่องฯ ตรวจจับความเร็วรถยนต์ผู้ตรวจสามารถเลือกมองผ่านศูนย์เล็งของเลเซอร์และจอแสดงผลได้

เครื่องต้องได้รับมาตรฐาน International Association of Chiefs of Police หรือ IACP ตรวจจับรถยนต์เป้าหมายได้ที่ระยะไกลไม่น้อยกว่า 20 - 1,200 เมตร สามารถมองเห็นป้ายทะเบียนรถยนต์ทั้งด้านหน้าและด้านหลังอย่างชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่า 200 เมตร ในเวลากลางวัน และอ่านค่าผิดพลาดไม่เกิน บวก/ลบ 20 เซนติเมตร สามารถตรวจวัดความเร็วได้ไม่น้อยกว่า 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วที่อ่านได้มีค่าความผิดพลาดไม่เกิน บวก/ลบ 2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลำแสงเลเซอร์มีความปลอดภัยต่อสายตาตามมาตรฐาน FDA Class1 Eye safe, CFR 21 หรือเทียบเท่า

สามารถเก็บบันทึกข้อมูลทั้งภาพ วิดีโอและเหตุการณ์ต่างๆ ในตัวเครื่องมีหน่วยความจำไม่น้อยกว่า 16 GB ควบคุมการทำงานโดยระบบไมโครโพรเซสเซอร์ สามารถแสดงภาพรถพร้อมความเร็วรถ วัน เวลา สถานที่ ชื่อหรือรหัสพนักงานผู้ตรวจวัด และสามารถบันทึกข้อมูลได้ไม่น้อยกว่า 720 ภาพ

สามารถถ่ายวิดีโอและภาพรถยนต์คันนั้นๆ ได้อัตโนมัติพร้อมกัน สามารถถ่ายภาพรถยนต์ได้ในระยะไม่น้อยกว่า 200 เมตร มีระบบซูมภาพเข้าและออกอัตโนมัติ และตัวกล้องมีระบบประหยัดพลังงาน สามารถเลือกโหมดการบันทึกถ่ายภาพได้ไม่น้อยกว่า 3 แบบ เช่น ถ่ายแบบแบบอัตโนมัติ กึ่งอัตโนมัติ และโดยผู้ใช้ต้องการตามคุณลักษณะ

ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา สำหรับใช้งานตรวจสอบข้อมูลจำนวน 1 เครื่อง หน่วยประมวลผลความเร็วสัญญาณนาฬิกาไม่ต่ำกว่า 2.5 GHz หน่วยความจำหลักไม่ต่ำกว่า 4GB DDR3 จอภาพขนาดกว้างไม่ต่ำกว่า 12 นิ้ว ฮาร์ดดิสก์ 500 GB 7200 RPM SATA หรือดีกว่าฯ ส่วนเครื่องพิมพ์ภาคสนาม มีการรับรองมาตรฐานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม RoFS , WEEE และมาตรฐานการประหยัดพลังงาน Energy star เป็นเครื่องพิมพ์ Inkjet มีฟัง์ชั่น Picbridge ที่สามารถพิมพ์ภาพจากการเชื่อมต่อกล้องดิจิตอล หรือ โทรศัพท์มือถือได้โดยตรง

ทั้งนี้ เมื่อต้นสัปดาห์ นายวีระ สมความคิด ออกมาโพตส์เฟซบุ๊คว่า ทำไมถึงจัดซื้อแพงกว่าที่มีขายในท้องตลาดราคาเพียง 130,000 บาท ปลายปี 2559 สำนักงบประมาณก็ติงเตือนไปแล้วว่าราคามันสูงเกินไป จนรัฐบาลต้องหยุดชะงักแต่วันนี้รัฐบาลกลับอาศัยช่วงจังหวะที่คนไทยส่วนใหญ่กำลังใจจดใจจ่อกับงานพระราชพิธีสำคัญอนุมัติโครงการดังกล่าวในวันนี้ เอาจนได้

“เพิ่งรู้นะว่า พล.อ.ประวิตร ยิ่งใหญ่มาก ถึงขนาดมานั่งกำกับกระทรวงมหาดไทยอีกด้วย นอกจากนึ้ ยังคุมการจัดซื้อจัดหาแทบจะทุกเรื่องตั้งแต่เครื่องตรวจจับความเร็วยันเรือดำน้ำ พล.อ.ประวิตร เพิ่งจะตำหนิคุณหญิง สุดารัตน์ กรณีขึ้นรถขยายเสียงประกาศเชิญชวนประชาชนย่านลาดปลาเค้า ไปวางดอกดาวเรืองหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่เหมาะสม แล้วกรณีนี้ คุณประวิตรอาศัยช่วงจังหวะนี้ดันโครงการจัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วในราคาสูงลิ่วเกินจริง เข้าสู่ ครม. ในช่วงเวลานี้ มีความจำเป็นเร่งด่วนอะไรกันนักหนา ต้องเอาช่วงเวลานี้ให้ได้ต้องถามว่า สมควรจะทำ และเหมาะสมหรือไม่?”






กำลังโหลดความคิดเห็น