รองโฆษกพรรค ปชป.แถลงทวงคืนเงินแผ่นดินเรื่องที่ห้า จากคดีร่ำรวยผิดปกติ “ทักษิณ” กรณีแก้สัญญาสัมปทานดาวเทียม จนศาลพิพากษาจำคุก"หมอเลี้ยบ"สั่งไทยคมฯ จ่ายค่าเสียหาย 8 พันล้าน พร้อมยิงดาวเทียมใหม่ทดแทน แต่ผ่านมาเกือบ 8 ปี หลังคำพิพากษา ยังไม่ดำเนินการใดๆ
วันนี้ (1 ต.ค.) นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงทวงคืนเงินแผ่นดินเรื่องที่ห้า จากคดีร่ำรวยผิดปกติของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในเรื่องแนวทางการจัดการกับดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) มูลค่า 7 - 8 พันล้านบาท ถือเป็นคดีเอื้อประโยชน์ให้เอกชน ในการอนุมัติโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์ แก้ไขสัญญาสัมปทาน ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2547 ตามที่เคยมีคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่เคยพิพากษาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2553 ให้เป็นดาวเทียมนอกสัญญาสัมปทาน เพราะเป็นดาวเทียมที่สร้างมาทดแทนไทยคม 3 ซึ่งจนถึงขณะนี้ผ่านมาเกือบ 8 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีการยิงดาวเทียมใหม่ทดแทน
นางมัลลิกา กล่าวว่า ในฐานะอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เห็นว่า เรื่องนี้ทำให้ประเทศเสียหาย และเสียโอกาสต่อยุทธศาสตร์กิจการอวกาศ ซึ่งหมายถึงมูลค่าทางการลงทุนและเศรษฐกิจมหาศาล แต่การละเลย ละเว้น ทอดเวลาไปกลายเป็นว่าผลประโยชน์ และมูลค่าทางธุรกิจเหล่านั้นกลับตกไปเป็นของเอกชน เพราะการไม่ยิงดาวเทียมใหม่ตามคำพิพากษาศาลเป็นความผิดที่กระทรวงจะต้องตั้งเรื่องบังคับคู่สัมปทาน คือ บริษััท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือชื่อเดิมบริษัท ชิน แซทเทิลไลท์ จำกัด การไม่ดำเนินการเป็นการเอื้อประโยชน์ เพราะเอกชนจะต้องลงทุนประมาณ 7,000 ล้านบาท และลากให้หมดสัญญาสัมปทาน ขณะที่รัฐมนตรีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2553 จนปัจจุบัน มี 5 รัฐมนตรี กับ 6 ปลัดกระทรวง ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ว่าใครละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่รักษาปกป้องผลประโยชน์รัฐ ต้องโดนหลักการเดียวกันกับอดีตนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือ มาตรา 157
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า สำหรับรัฐบาลนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยสั่งการไปแล้ว 2 ครั้ง แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสาระสนเทศและการสื่อสาร (ICT) หรือ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) และราชการที่เกี่ยวข้องแต่ยังไม่ดำเนินการใดๆ ทำให้ไม่มีความคืบหน้าซึ่งกระทรวงนี้มีประวัติ คือ การที่อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวง แก้ไขสัญญาเอื้อประโยชน์เอกชนมาแล้ว นำไปสู่คำพิพากษาจำคุก นายแพทย์ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรัฐมนตรี ICT ทั้งนี้ หากนำบรรทัดฐานกระทรวงพาณิชย์ที่เกี่ยวกับการจำนำข้าวมาใช้อย่างเท่าเทียม อาจมีรัฐมนตรีและข้าราชการติดคุกอีกหลายคน จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบ และสั่งการตั้งเรื่องเพื่อให้เอกชนดำเนินการตามสัญญา สองกรณี คือ 1. ต้องยิงดาวเทียมใหม่เพื่อเป็นสมบัติของรัฐ 2. ต้องจ่ายค่าชดเชยค่าเสียหาย และเสียโอกาส ซึ่งหากคิดเป็นมูลค่าแล้วหลายหมื่นล้านบาท