ปลัดกลาโหม-ผบ.ทสส.เยือนกองทัพเรือเยี่ยมอำลาเตรียมเกษียณ บิ๊กเหล่าทัพให้การต้อนรับ รับซาบซึ้งจัดพิธีตรวจพลสวนสนามทางเรือเทิดเกียรติ พร้อมฝากทหารเรือทำหน้าที่เพื่อชาติ-ประชาชน
วันนี้ (21 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม และพล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เดินทางมาเยี่ยมอำลากองทัพเรือ เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ พร้อมด้วย พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ร่วมคณะ มี พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือให้การต้อนรับ โดยขึ้นเรือหลวงปัตตานีเพื่อขึ้นแท่นรับการเคารพ จากนั้นเรือหลวงปิ่นเกล้าได้ยิงสลุตเพื่อเป็นเกียรติ จำนวน 19 นัด พร้อมทั้งได้ลงเรือ ต.112 เพื่อตรวจพลสวนสนาม
ทั้งนี้ พล.อ.ชัยชาญกล่าวอำลาชีวิตราชการตอนหนึ่งว่า กองทัพเรือเป็นหน่วยในกองทัพไทยที่สำคัญที่สุดหน่วยหนึ่ง เป็นหลักประกันความมั่นคงและความปลอดภัยของชาติทางทะเลที่ได้รับความศรัทธาและความเชื่อถือจากประชาชนมาโดยตลอด กองทัพเรือได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมที่จะปกป้องพิทักษ์รักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติ รวมถึงราชบัลลังก์ ป้องกันการรุกรานจากภายนอกเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล คุ้มครองประชาชนให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ กองทัพเรือได้ปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ สำเร็จผลเป็นอย่างดีและจะต้องรักษาเกียรติยศชื่อเสียงชื่อเสียงนี้ไว้ตลอดไป โดยจะต้องสร้างสรรค์กำลังพลให้มีประสิทธิภาพ ฉลาด และกล้าหาญ รักษาระเบียบวินัย รู้รักสามัคคี เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด รวมถึงที่สำคัญต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักเหนือสิ่งอื่นใด ตลอดชีวิตรับราชการของตนหวังให้เพื่อนทหารทุกคนปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดร่วมมือร่วมใจรักษาเกียรติยศของทหารโดยเฉพาะกองทัพเรือไว้ให้อยู่คู่กับชาติไทย ร่วมมือกับกองทัพปฏิบัติภารกิจหน้าที่ ประสานสอดคล้องกันเพื่อความสามัคคีให้มีความเข้มแข็งที่ดีขึ้น
ขณะที่ พล.อ.สุรพงษ์กล่าวว่า รู้สึกยินดีและมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมในพิธีอำลาชีวิตราชการทหารและสวนสนามทางเรือ กองทัพเรือจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ตนอย่างสมเกียรติและประทับใจเป็นอย่างยิ่ง เป็นการแสดงถึงความรักความผูกพัน ความสามัคคีและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นตั้งแต่ในอดีตที่ผ่านมา และในวันนี้มีความหมายอย่างยิ่งที่ตนได้กลับมาอยู่ท่ามกลางเพื่อนทหารเรือ ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่ง เพื่ออำลาชีวิตราชการทหาร ตั้งแต่ตนเป็น ผบ.ทสส.ก็ได้รับการสนับสนุนและความร่วมมืออย่างดีจากกองทัพเรือเสมอมา ทำให้ได้ประจักษ์ถึงความเข้มแข็ง ความมีประสิทธิภาพ และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันภายใต้การนำของ ผบ.ทร.จนทำให้ภารกิจในภาพรวมของกองทัพไทยสำเร็จลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพตามเจตนารมณ์ของผู้บังคับบัญชาทุกประการ
“ในวาระที่ผมจะอำลาชีวิตราชการทหารไปในระยะเวลาอันใกล้นี้ รู้สึกเสียดายที่จะไม่มีโอกาสปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับเพื่อนทหารเรือเหมือนดังเช่นก่อน แต่ก็ได้ตั้งปณิธานที่จะให้ความร่วมมือ สนับสนุน และเป็นกำลังใจในการพัฒนากองทัพเรือ และกองทัพไทยในทุกด้านอย่างเต็มกำลังความสามารถในทุกโอกาสที่เอื้ออำนวย ขอขอบคุณด้วยความจริงใจต่อ ผบ.ทร. ผู้บังคับหน่วย และเพื่อนทหารเรือที่รักทุกคนที่ได้ร่วมกันจัดพิธีอันทรงเกียรติและมีคุณค่าอย่างยิ่งในวันนี้ ทำให้ผมซาบซึ้งใจและจะอยู่ในความทรงจำตลอดไป” ผบ.ทสส.กล่าว