เลขาฯ นปช. ไม่ตอบโต้ “บิ๊กตู่” แขวะปล่อยคนมีคดีพูด อ้างโวยแทนเหยื่อเผาเมือง 53 ไม่มีสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง ปัดยื่นหนังสือสั่งอัยการสูงสุดบี้ ป.ป.ช. ไต่สวน แต่ให้ชงสอบต่อ ย้ำเป็นหลักฐานใหม่ บอกพยายามทำคดีให้ถึงศาล
วันนี้ (16 ก.ย.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ถ้าคนมีคดีแล้วออกมาพูดผ่านสื่อที่นายกฯ พูดหมายถึงตนก็ไม่ขอตอบโต้ใดๆ เพราะได้ยืนยันชัดเจนไปแล้วว่า การเรียกร้องความยุติธรรมให้คนตายในเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2553 เป็นการดำเนินการในทุกช่องทางที่กฎหมายบัญญัติไว้ ไม่มีการสร้างเงื่อนไขขัดแย้ง หรือเผชิญหน้ากับฝ่ายผู้มีอำนาจ สำหรับการยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุดฝ่ายกฎหมายจะดำเนินการในวันที่ 18 ก.ย. เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ไม่ใช่การเรียกร้องให้อัยการสั่ง ป.ป.ช. ให้ดำเนินการไต่สวน แต่เป็นการขอความเป็นธรรมว่าเมื่ออัยการสูงสุดสั่งฟ้องจำเลยทั้ง 2 คนฐานฆ่าคนตายไว้แล้ว และคำพิพากษาศาลฎีกาไม่ได้ยกฟ้อง แต่ให้เป็นอำนาจศาลฎีกาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นผู้พิจารณาคดีดังกล่าว อัยการก็ควรส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการต่อไปเพราะถือเป็นพยานหลักฐานใหม่หรือไม่
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า หากอัยการสูงสุดเห็นว่าไม่ต้องดำเนินการใดๆ จะเก็บสำนวนฟ้องเอาไว้เองก็ขอให้ตอบเป็นลายลักษณ์อักษรจะได้ปรากฏเป็นหลักฐานคำพิพากษาศาลฎีกาชี้ข้อเท็จจริงเป็นยุติว่า คนตายเพราะเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธและกระสุนจริงจากคำสั่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ชี้ขาดว่าไม่มีความผิด สิ่งที่ตนพยายามทำคือให้คดีไปถึงศาล ถูกผิดก็สู้กันตามกระบวนการ ปกติมีเหตุฆ่ากันตายแม้แต่รายเดียว หน่วยงานต่างๆ ต้องกระตือรือร้นทำคดี ใครให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ก็ถือเป็นพลเมืองดี แต่ถ้าตนทำสิ่งนี้แล้วเป็นเรื่องน่ารังเกียจอย่างที่บางพรรคการเมืองพูดก็ไม่เป็นไร ตนจะสู้ต่อไป ให้สังคมเข้าใจว่า เกือบร้อยชีวิตไม่ได้ต้องการแค่ศาลเพียงตา แต่เราต้องการศาลสถิตยุติธรรม
