กกต.ประชุมแจงพรรคการเมือง-สื่อฯ เพิ่มทางเลือกรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. เปิดตัวโปรแกรมรับสมัครทางอินเทอร์เน็ต คุยมีประโยชน์เอื้อควบคุมการจัดการเลือกตั้งทั้งระบบ
วันนี้ (12 ก.ย.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานการประชุมชี้แจงต่อพรรคการเมือง และสื่อมวลชน ถึงการใช้โปรแกรมการรับสมัครเลือกตั้งทางอินเทอร์เน็ต และการจัดทำฐานข้อมูลการสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับพรรคการเมืองเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมการดูแลระบบการประเมินผล ก่อนที่จะนำโปรแกรมไปใช้งานเพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการสมัครรับเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม ระบบดังกล่าวเป็นการเพิ่มช่องทางการสมัครรับเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองนอกเหนือจากการไปยื่นใบสมัครด้วยตนเอง ซึ่งระบบการจัดทำฐานข้อมูลการรับสมัครเลือกตั้ง จะทำให้เกิดความสะดวกต่อการนำไปใช้ในการบริหารจัดการเลือกตั้งของผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยก่อนหน้านี้ได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ให้เป็นผู้รับผิดชอบจัดทำโปรแกรมดังกล่าว และจัดให้มีการอบรมการใช้โปรแกรมแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ตัวแทนพรรคการเมือง พนักงานการเลือกตั้งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยจัดให้มีการอบรมรวมทั้งสิ้น 10 รุ่น ระหว่างวันที่ 18 ก.ค. - 5 ก.ย. 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมได้เรียนรู้วิธีการใช้โปรแกรมและการจัดทำฐานข้อมูลอย่างเป็นระบบ
สำหรับขั้นตอนการรับสมัครทางอินเทอร์เน็ตนั้น ก่อนการประกาศรับสมัครทางพรรคการเมืองจะได้รับชื่อบัญชีผู้ใช้กับรหัสผ่านจากสำนักงาน กกต. เพื่อจะนำข้อมูลผู้สมัครทั้งระบบแบ่งเขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อพร้อมหลักฐานการสมัครที่กฎหมายกำหนดบันทึกเข้าไปในระบบ และเมื่อถึงวันสมัครรับเลือกตั้งที่ทาง กกต.จะเปิดรับสมัครรวม 5 วัน พรรคการเมืองก็จะต้องเข้าระบบเพื่อไปยืนยันการสมัครในระบบบัญชีรายชื่อ และผู้สมัครในระบบแบ่งเขตก็เข้าไปยืนยันการลงสมัคร เมื่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตตรวจสอบว่าข้อมูลหลักฐานครบถ้วนก็จะออกใบสมัครแจ้งผู้สมัคร และ กกต.ก็จะจัดจับสลากหมายเลขผู้สมัคร แต่หากพรรคการเมืองและผู้สมัครยังคงต้องการเดินทางไปยื่นใบสมัครด้วยตนเองตามวิธีการเดิมก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ โปรแกรมการรับสมัครเลือกตั้งทางอินเทอร์เน็ตและการจัดทำฐานข้อมูลดังกล่าวยังจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการจัดการเลือกตั้งทั้งการควบคุมสั่งการ การตรวจสอบคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามการสมัคร การจัดการลงคะแนนเลือกตั้ง การสืบสวนสอบสวน การยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายของผู้สมัคร เป็นต้น