กลุ่มเหยื่อรถฟอร์ด ยื่นคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินฯ สอบ สคบ.ยุติการคุ้มครองผู้เสียหายกว่า 450 ราย อ้างเหตุฟ้องบริษัทรถต่อศาลแพ่งแล้วทั้งที่ไม่จริง ย้อน ปธ.อนุฯไกล่เกลี่ยท่าทีก็ไม่ให้ความเป็นธรรม ขอเปลี่ยนตัวก็นิ่งเฉย ไร้ความคืบหน้า
วันนี้ (11 ก.ย.) กลุ่มเหยื่อรถยนต์ฟอร์ด นำโดย น.ส.ฌนิฏา สุขขวัญ พร้อมผู้เสียหายอีกว่า 30 ราย เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ว่าเข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบหรือไม่ กรณีสั่งยุติเรื่องของร้องเรียนของกลุ่มผู้เสียหาย โดยอ้างว่ากลุ่มผู้เสียหายได้มีการยื่นฟ้องบริษัท ฟอร์ด ต่อศาลแพ่งแล้ว ซึ่ง น.ส.ฌนิฏากล่าวว่า ทางกลุ่มผู้เสียหายราว 450 รายได้มีการยื่นร้องต่อ สคบ.เมื่อ ม.ค. 2560 ให้ดำเนินการต่อบริษัทรถยนต์ฟอร์ด เนื่องจากรถยนต์ที่ซื้อมาประสบปัญหาการใช้งาน ทั้งระบบเกียร์หยุดทำงานกะทันหันขณะขับขี่ ประตูรถเปิดเองขณะขับ ระบบระบายความร้อนชำรุดทำให้เกิดเหตุไฟไหม้รถ ซึ่ง สคบ.ก็ได้มีการตั้งอนุกรรมการขึ้นไกล่เกลี่ย เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้เสียหายมาหารือกันเพื่อหาทางแก้ไข แต่ทางผู้เสียหายเห็นว่าประธานอนุมีท่าทีที่ไม่ให้ความเป็นธรรมกลับผู้เสียหาย จึงได้ยื่นหนังสือขอให้เปลี่ยนตัว ทาง สคบ.ก็นิ่งเฉย
ขณะเดียวกัน ความคืบหน้าในการดำเนินการช่วยเหลือก็ไม่มี ผู้เสียหายได้ขอให้ สคบ.ยื่นฟ้องกลุ่มให้เช่นเดียวกับที่ สคบ.เคยยื่นฟ้องให้กับผู้เสียหายรายหนึ่งเมือปี 57 สคบ.และคดีจบด้วยการไกล่เกลี่ยโดยทางบริษัทยอมชดใช้เงินราว 1 ล้านบาทให้แก่ผู้เสียหาย โดยทาง สคบ.ก็อ้างแต่เพียงว่าขอพิจารณาก่อน จนเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมาทางผู้เสียหายได้ติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือก็ได้รับแจ้งว่าทาง สคบ.ขอยุติการคุ้มครองช่วยเหลือเนื่องจากผู้เสียหายได้ไปยื่นฟ้องบริษัท ฟอร์ด ต่อศาลแพ่งแล้ว
“ผู้เสียหายกลุ่มยังไม่ได้ยื่นฟ้องบริษัท ฟอร์ด ต่อศาลแพ่ง จริงๆ มีเพียงผู้เสียหายราว 10 รายที่ยื่นเท่านั้น โดยได้แนบรายชื่อผู้เสียหายกลุ่มอีก 300 กว่ารายชื่อเข้าไปด้วยเพื่อขอให้ศาลพิจารณารับเป็นคดีผู้เสียหายกลุ่ม ซึ่งศาลยังไม่มีคำสั่งออกมาว่าจะรับหรือไม่ และคงจะใช้เวลาอีกนาน เพราะศาลเพิ่งจะนัดพร้อมผู้เสียหายครั้งแรกในวันนี้ช่วงบ่าย (11 ก.ย.) ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ แต่ทาง สคบ.กลับใช้เหตุดังกล่าวมาอ้างยุติการคุ้มครอง ผู้เสียหายจึงเห็นว่าการดำเนินการของ สคบ.ดำเนินการไม่ถูกต้อง”
น.ส.ฌนิฏากล่าวอีกว่า ความต้องการขอผู้เสียหายอยากให้ทางบริษัท ฟอร์ด รับรถคืน ซึ่งก็เข้าใจดีว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน โดยต้องให้ สคบ.เป็นผู้ช่วยดำเนินการเจรจา หรือดำเนินการฟ้องร้องให้เช่นในต่างประเทศ แต่เมื่อ สคบ.ยุติการคุ้มครองเช่นนี้ก็ทำให้ผู้เสียหายไปไม่ถึงจุดที่ต้องการ เพราะผู้เสียหายเคยไปร้องเรียนที่บริษัท ฟอร์ด มาแล้วแต่ผู้บริหารบริษัทก็ไม่เคยลงมาเจรจา ซ้ำยังกีดกันอีกด้วย
ด้านนายรักษเกชากล่าวว่า การตรวจสอบของผู้ตรวจฯ คงไปตรวจสอบบริษัท ฟอร์ด โดยตรงไม่ได้ แต่จะดูในการปฏิบัติหน้าที่ของ สคบ.ว่าได้ทำถูกต้อง ครบถ้วนแล้วหรือยัง หรืออย่างกรณีที่ผู้เสียหายอ้างว่าได้รับแจ้งว่า สคบ.ยุติการคุ้มครองเพราะผู้เสียหายมีการไปฟ้องบริษัท ฟอร์ด ต่อศาลแพ่ง ก็ต้องดูว่ากฎระเบียบเขียนไว้อย่างไร เหมือนของผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ ที่ระบุว่าหากเป็นคดีในศาลแล้วผู้ตรวจฯ ก็ไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบได้
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการเดินทางมาร้องเรียนครั้งนี้ทางผู้เสียหายก็ได้นำรถยนต์ฟอร์ดที่มีปัญหาซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นเฟียสต้า และรุ่นโฟกัส มาให้ผู้ตรวจฯได้ตรวจสอบความเสียหายด้วย โดยนายรักษเกชา ได้ทดลองเปิด-ปิดประตูรถที่พบว่าไม่สามารถปิดประตูได้สนิท ห้องเครื่องก็มีความร้อนจัดโดยที่ผู้เสียหายระบุว่าเพิ่งจะขับมาจอด และส่วนใหญ่เมื่อใช้งานได้ไม่นานความร้อนก็จะขึ้นและดับกลางทาง ขณะที่รถบางคันก็จะเกิดเหตุไฟไหม้ โดยเฉพาะปีนี้ไฟไหม้รถฟอร์ดจากเหตุนี้ไปแล้ว 11 คัน
