xs
xsm
sm
md
lg

ปธ.กสม.แฉผู้มีอำนาจไม่โอเค กสม.บางคน แต่งงลามจนเซตซีโร่ จ่อขอตั้ง กมธ.ร่วม กม.ลูก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เผยที่ประชุมเสียงข้างมาก ชี้ร่างกฎหมายลูกให้เซตซีโร่ไม่สอดคล้องรัฐธรรมนูญ จ่อใช้สูตรตั้ง กมธ.ร่วมค้าน ยังไม่พูดยื่นศาล รธน.หรือไม่ ซัดเหตุผลอ้างไปเรื่อย ส่อไม่สุจริต ทำสังคมสงสัย โวทำงานหามรุ่งหามค่ำ ยันขอสถานะไม่เกี่ยวเปลี่ยนตัวกรรมการ แฉผู้มีอำนาจต่อรองบอกไม่ปราถนาต่อ กสม.บางคน ไม่เข้าใจทำไมถึงอยากได้ตำแหน่งนี้ เผยปมพลทหารถูกอ้างซ้อมจนตายยังไม่มีชงเรื่องมา

วันนี้ (22 ส.ค.) นายวัส ติงสมิตร ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แถลงว่า กสม.ได้รับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กสม.เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา และได้มีการนำเข้าหารือ ในที่ประชุม กสม. โดยเห็นว่ามีหลายประเด็นที่อาจจะไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และได้ข้อยุติแล้วอย่างน้อยหนึ่งมาตรา โดยเป็นมติเสียงข้างมาก 4 ต่อ 2 เห็นว่า มาตรา 60 ของร่างกฎหมายดังกล่าวที่กำหนดให้ กสม.ชุดที่ 3 พ้นจากตำแหน่งทันทีที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ ไม่สอดคล้องมาตรา 26 ประกอบมาตรา 3 มาตรา 4 ของรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดว่า การตรากฎหมายที่มีผลเป็นการจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ การตรากฎหมายต้องไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม ไม่เพิ่มภาระหรือจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุ ดังนั้น กสม.จะดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 วรรค 5 เพื่อให้มีการตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายต่อไป อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในการพิจารณาของกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ยังสามารถแก้ไขเนื้อหาของร่างกฎหมายได้ แม้ตนจะเป็นเพียง 1 เสียงข้างน้อยก็จะพยายามอธิบายเหตุผลให้ทราบ แต่สุดท้ายขึ้นอยู่ที่ประชุมจะเห็นอย่างไร

ส่วนเมื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายแล้วจะใช้สิทธิยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น นายวัสกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในขณะนั้น ซึ่งการใช้สิทธิสามารถยื่นได้ 2 ช่องทาง คือ ยื่นผ่านจากผู้ตรวจการแผ่นดิน และยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 213 ของรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม เห็นว่าเหตุผลการเซตซีโร่ไม่มีน้ำหนักที่จะรับฟังได้ เหตุผลที่ยกมาอ้างเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้เข้าใจได้ว่าไม่ได้เป็นไปโดยสุจริต หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ ตรงกันข้ามยิ่งทำให้สังคมโลกเกิดความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย กสม.ชุดนี้ทำงานอย่างหามรุ่งหามค่ำเพื่อทำให้สถานะบีกลับมาเป็นเอ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องสำคัญมากมาย เพราะการพิจารณาสถานะนั้นจะมีรอบของการพิจารณาอยู่ ขึ้นอยู่กับว่าเรามีความพร้อมหรือยัง ทั้งการแก้กฎหมาย เรื่องกระบวนการสรรหา เรื่องหลักการคุ้มกัน กสม. การตอบสนองต่อการละเมิดสิทธิ โดยในประเด็นของการแก้กฎหมายเรื่องการสรรหาและการคุ้มกันนั้นได้มีการแก้ไขแล้ว ในมาตรา 246 และในร่างกฎหมายลูก ดังนั้นคิดว่าการขอสถานะเอกลับมาจะทำได้เมื่อพร้อม ไม่ใช่ว่าการเซตซีโร่ กสม.ชุดปัจจุบันพ้นไปจะทำให้สถานะ กสม.จากบีกลับเป็นเออย่างง่ายดายนั้นโดยอัตโนมัติ ไม่มีทางเป็นไปได้

นายวัสยังกล่าวอีกว่า ใครที่มองว่า กสม.ออกมาต่อสู้เรื่องนี้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง หากมองเฉยๆ อาจจะเห็นอย่างนั้นได้ แต่หากมองการทำงานของ กสม.ชุดนี้ว่ามีผลงานมากมายขนาดไหน แต่ละคนมีหน้าที่การงานเป็นอย่างไร ก็จะรู้ว่างานของ กสม.ไม่ใช่งานที่สบายจนต้องมาต่อสู้เพื่อให้อยู่ในตำแหน่งต่อไป ตนก็อยากรู้ว่าเหตุผลจริงๆ ของการเซตซีโร่คืออะไร แต่มีข้อมูลว่ามีข้อต่อรองจากผู้มีอำนาจในบ้านเมืองที่ไม่พึงปรารถนาต่อการทำงานของ กสม.บางคน ก็ไม่เข้าใจว่าเหตุผลเพียงแค่นี้จะล้มกระดานทั้งหมดเลยหรือ แล้วให้มีการสรรหาใหม่ ซึ่งก็มีคนรอเสียบที่จะเข้ามาเป็น กสม. โดยบางคนอาจจะรอไม่ได้ เพราะมีอายุ 60, 67, 68 ปีแล้ว อาจจะมีอายุเกินเพดานที่กฎหมายกำหนด เขาคงรอไม่ไหว ตนไม่เข้าใจว่าทำไมตำแหน่งนี้ถึงปรารถนากันมากมาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า การทำงานแบบไหนที่ทำให้ผู้มีอำนาจไม่พอใจและ กสม.ที่ไม่พึงปรารถนานั้นมีกี่คน นายวัสกล่าวว่า ไม่แน่ใจ ไม่ยืนยันว่าเป็นเหตุผลที่แท้จริงหรือไม่ สำหรับบางท่านก็อาจใช่ แต่บางท่านก็อาจไม่ใช่เหตุผลนี้

นอกจากนี้ นายวัสยังกล่าวถึงกรณีพลทหารนพดล วรกิจพันธุ์ หรือทาโร่ วัย 21 ปี ทหารกองประจำการ กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 45 (มทบ.45) ค่ายวิภาวดีรังสิต ที่มีการอ้างว่าถูกลงโทษทางวินัยจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นเรื่อยๆ เราก็ได้ตรวจสอบ บางเรื่องเราก็มีข้อเสนอแนะไป แต่บางเรื่องข้อมูลไม่ครบถ้วนก็ต้องยุติเรื่อง แต่ทั้งนี้หากเรื่องเข้าหลักเกณฑ์ กสม.ก็สามารถหยิบยกขึ้นมาพิจารณาได้ ยังไม่มีการร้องเข้ามา ต้องดูในเรื่องข้อเท็จจริงเป็นหลักก่อน เบื้องต้นที่ประชุม กสม.ก็ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้



กำลังโหลดความคิดเห็น