นายกรัฐมนตรี บอกพูดแรงแต่พูดหมด ชี้ปัญหาหวังให้แก้อย่ารอแต่รัฐบาล ยันคนไทยต้องได้รับการดูแลจากรัฐที่มีธรรมาภิบาล ไม่ใช่ลงที่เดิมเพราะเลือกมา อย่าบอกรัฐธรรมนูญไม่เป็นธรรม แนะไปดูกฎหมายลูก จี้ผู้ว่าฯ สร้างให้ถึงฐานราก อย่าไปเชื่อว่าใครจะให้ อย่าไปปลูกข้าวกันเยอะ ตรงไหนท่วมบ่อยไปปลูกอย่างอื่น ระบุคนไทยใช้เน็ตวันละ 3 ชั่วโมงมากเกินไป หยอดใครถูกสามีทิ้งให้มาบอก
วันนี้ (21 ส.ค.) ที่เทศบาลตำบลหัวทะเล จ.นครราชสีมา เมื่อเวลา 09.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวระหว่างรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนตอนหนึ่งว่า ความหมายการเลือกตั้งต้องมีรัฐบาลที่บริหารจัดการแบบมีธรรมาภิบาล โปร่งใส มีประสิทธิภาพ จริงใจ เพราะใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง แต่ทุกอย่างแสดงออกด้วยด้วยวาจา ต้องชัดเจน พูดแบบตนอาจแรงไป แต่มีอะไรในใจพูดหมด มีปัญหาอยู่ที่ไหนตนก็บอก ต้องการให้แก้ปัญหา อย่ารอให้รัฐบาลให้อย่างเดียว พอได้ก็ดีใจ คนอื่นช่างมัน เพราะประเทศไทยมีหลายกลุ่มหลายฝ่าย หลายประเภท ความหมายของตนคนไทยทั้งประเทศต้องได้รับการดูแลจากรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ดูแลคนทั้งประเทศ ส.ส.ในแต่ละพื้นที่ส่งข้อเสนอมายังรัฐบาลว่าประชาชนต้องการอะไร ครม.จะพิจารณาดูตรงไหนก่อน-หลัง อันไหนเชื่อมโยงกัน ไม่ใช่ลงที่เดิมเพราะเลือกมา แล้วที่อื่นจะเสียใจไหม แต่จะให้ทำพร้อมกันหมดไม่ได้ เพราะงบฯ มีเท่านี้ แต่รัฐบาลพยายามทำให้ทั่วถึงโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง
“อย่าให้ใครมาบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่เป็นธรรม ไปดูกฎหมายลูกว่าเขาเขียนว่าอย่างไรในรัฐธรรมนูญแต่ละข้อ ถ้าเอารัฐธรรมนูญมาทะเลาะกันก็ไม่มีจบ เพราะรัฐธรรมนูญไม่มีบทลงโทษ ไม่มีบทบังคับ เพราะบทลงโทษอยู่ในกฎหมายลูก ถ้าบอกว่าไม่ผิดรัฐธรรมนูญแล้วทำได้ทุกอย่าง คงไม่ต้องเสียเวลาออกกฎหมายลูกให้มันเรื่องมาก มีรัฐธรรมนูญอย่างเดียวก็ไม่ได้ อย่างประเทศอื่นเขาก็ไม่มีรัฐธรรมนูญเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ประเทศของเราทะเลาะกันเรื่องแก้รัฐธรรมนูญกันอยู่นั้นแหละ” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า กำหนดเป้าหมายการบริหารราชการแผ่นดิน ต้องลดความเหลื่อมล้ำ ถ้าเราปล่อยปละละเลยทำผิดกฎหมาย ไม่มีการควบคุม คนขี้โกง คนไม่รักษากฎหมาย คนเราต้องมีจิตสำนึก เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปัน วันนี้เราโชคดีในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระมหากษัตริย์ที่มีคุณมหาศาลแก่ประเทศไทย มีแผนงาน โครงการเยอะแยะไปหมด วันนี้รัชกาลที่ ๑๐ ทรงสืบสาน สานต่อ รักษา พระองค์ท่านทรงตรัสกับตนหลายครั้งในฐานะหัวหน้ารัฐบาลว่าทำให้ประชาชนมีความสุข มีความพึงพอใจ ทำให้เร็ว ขจัดปัญหาเดิม ต้องไม่ขัดแย้งกัน สร้างจิตอาสา สิ่งใดที่รัชกาลที่ ๙ ทรงเริ่มไว้ทำต่อให้ได้ พวกเรารับใส่เกล้าฯ
นายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยไม่มีชนชั้น ตำแหน่งผู้ว่าฯ ในฐานะพ่อเมืองวันนี้ต้องรับผิดชอบเต็มๆ ใครทำไม่ดีก็ถูกตัดพ้อ ฉะนั้นต้องทำให้ทัน ต้องสร้างให้ถึงฐานรากให้ได้ เราจ่ายเงินทั้งหมด แต่สักพักก็หมดเพราะหนี้สิน ส่วนหนึ่งเดือดร้อนจากน้ำท่วมก็ต้องให้ อะไรที่จะสร้างความเข้มแข็งให้เงินเป็นก้อน สร้างงานรวมกันก็ต้องทำ อย่าไปเชื่อว่าใครจะให้โน่นให้นี่ ขึ้นราคาสิ่งของทำไม่ได้ เว้นแต่รัฐบาลไปซื้อมาเก็บไว้ ซึ่งทำให้ระบบการค้าโลกเสียหาย ขออย่าไปปลูกข้าวกันเยอะ ถ้าปลูกต้องปลูกที่ดีๆ มีน้ำ ตรงไหนท่วมบ่อยไปปลูกอย่างอื่น เปลี่ยนแปลงเพื่อรายได้เพียงพอ โดยที่รัฐพยายามคิดกระบวนการใหม่ให้ทุกคนมีเกียรติยศความเป็นมนุษย์มีศักดิ์ศรีเท่าๆ กัน ตนไม่ใช่เจ้านายประชาชน แต่ประชาชนคือเจ้านายรัฐบาล เพราะรัฐบาลเป็นตัวแทนต่างพระเนตรพระกรรณการทำงาน แต่ทั้งสองฝ่ายต้องพึ่งพาอาศัยกัน ต้องมีความเข้าใจ ไม่ต่อต้าน ใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม
“ขอให้ทุกคนสร้างสมดุล อย่ามองการเมืองอย่างเดียว ใครจะผิดจะถูก ทะเลาะเบาะแว้งก็ปล่อยเขา เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ผลประโยชน์จะไม่ทั่วถึงหากเราสนใจแต่เรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่คนไทยรักกันผมก็รู้ เหมือนที่คุณรักผม ใครรังแกผม ท่านก็ไม่ชอบ แต่ต้องรักให้ถูกวิธี ถ้าผมทำผิดก็ไม่ต้องรักผม ไม่ใช่ชอบ คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตวันละ 3 ชั่วโมง มากเกินไป มัวแต่เปิดดูละคร ดารา รักกันแป๊บเดียวก็เลิกซึ่งไม่เกี่ยวกับเรา รักหรือเลิกเป็นเรื่องของเขา ไปให้กำลังใจเขากลับมาดีกันได้ไหม แต่ตัวเองสามียังทิ้งอยู่เลย ที่ผมพูดอย่าน้อยใจใครที่ถูกสามีทิ้งมาบอกผม เพราะกฎหมายระบุไว้ต้องมีภรรยาเดียว กิ๊กก็มีไม่ได้” นายกฯ กล่าว
