ผู้ว่าฯ สตง.กำลังสืบ อปท.ไหนขนคนไปเชียร์ “ปู” - สอบคุณสมบัติผู้เสนอซื้อข้าวอุตสาหกรรม

ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เผยกำลังสืบ อปท.ไหนนำชาวบ้านไปเชียร์ “ยิ่งลักษณ์” ระบุส่งหนังสือให้มหาดไทยหวังกวดขัน ส่วนกลาโหมให้ส่งข้อมูลเพื่อตรวจสอบ แฉมีข้อมูลลึกจ่อนำคนมาทำกิจกรรม หวังเตือนให้ใช้งบตามวัตถุประสงค์ ขู่เบิกจ่ายไม่ตรงข้อเท็จจริงมีความผิด บอกไม่มีปัญหาตรวจสอบกองทัพใช้งบสกัดแดง ระบุกำลังสอบคุณสมบัติผู้เสนอซื้อข้าวอุตสาหกรรม

วันนี้ (18 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.30 น. นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวถึงกรณีที่ส่งหนังสือแจ้งกระทรวงกลาโหม (กห.) และกระทรวงมหาดไทย (มท.) ให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กรณีนำมวลชนมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า สตง.ทำเพื่อประโยชน์ด้านการป้องปราม เพราะแต่ละปี อปท.จะมีงบประมาณในการทำกิจกรรมโดยพาชาวบ้านไปดูงาน ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้มีปรากฏทางสื่อออนไลน์ มีโครงการนำประชาชนมากราบพระบรมศพฯ แต่สุดท้ายก็ไปอยู่ที่หน้าศาลฎีกาฯ โดยเรากำลังสืบอยู่ว่าเป็น อปท.ท้องที่ใด ทั้งนี้ เพื่อใช้งบได้ใช้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ ไม่ถูกเบี่ยงเบน จำเป็นต้องป้องกันปัญหาโดยทำหนังสือถึง มท.จากนั้น มท.ได้กำชับผู้ว่าฯ ให้เข้มงวดกวดขัน นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือไปยัง กห. หากพบว่ามีการใช้งบฯ ลักษณะดังกล่าวก็ให้ส่งข้อมูลมายัง สตง.เพื่อตรวจสอบ

นายพิศิษฐ์กล่าวว่า นอกจากนี้ สตง.ยังมีข้อมูลลึกว่า มีการเตรียมการใช้งบประมาณเพื่อนำคนมาทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งนี้ อยากให้หนังสือที่ สตง.แจ้งเตือนเป็นบรรทัดฐานต่อการทำงานของท้องถิ่น ว่าการใช้งบฯ ต้องไม่มีประโยชน์แอบแฝง ไม่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และหลังจากที่ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้องแล้ว พบว่า อปท.หลายพื้นที่ ได้ชะลอโครงการที่เกี่ยวกับการเดินทางและเปิดทางให้ สตง.ตรวจสอบ ทั้งนี้ สตง.ไม่ได้ห้ามโครงการที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไปศึกษาดูงานต่างๆ แต่การใช้จ่ายงบฯ จะต้องถูกตามวัตถุประสงค์

“ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้มีโครงการของ อปท.ที่จะเข้ามาทำกิจกรรมในกรุงเทพฯ และปริมณฑลอยู่จำนวนหนึ่ง เราได้แนะนำว่าถ้าผิดวัตถุประสงค์แล้วจะไม่สามารถเบิกจ่ายงบได้ หากหลักฐานการเบิกจ่ายไม่ตรงกับข้อเท็จจริงจะถือว่ามีความผิด และอาจถูกดำเนินคดีด้วย เราเตือนเพื่อลดความเสี่ยงจะได้ไม่ต้องมารับผิดชอบภายหลัง” นายพิศิษฐ์กล่าว

เมื่อถามว่า สตง.พบเบาะแสการเบิกจ่ายงบฯ ที่อาจผิดวัตถุประสงค์ใน อปท.ในพื้นที่ใดบ้าง นายพิศิษฐ์กล่าวว่า มีหลายจังหวัด และพยายามป้องปราม แต่เมื่อ อปท.ยังไม่กระทำความผิด สตง.จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปเปิดโปง และขอชื่นชม อปท.บางพื้นที่ที่รู้ว่าอาจจะทำความผิดแล้วไม่ทำ ยืนยันว่าเราไม่ได้ทำเพื่อการเมืองสีใด เพราะในหนังสือที่แจ้งเตือนไม่ได้ระบุวันเวลาในการตรวจสอบหรือให้ตรวจสอบคนกลุ่มใด วันนี้ สตง.มีหน้าที่ร่วมมือกับผู้ว่าฯ และนายอำเภอทุกจังหวัด เพื่อดูแลสอดส่องในเรื่องนี้แต่วันนี้พบว่าทุกอย่างเรียบร้อยไม่มีอะไรผิดปกติ

เมื่อถามว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.ขอให้ สตง.ตรวจสอบงบของกองทัพที่ใช้ในการสกัดกั้นมวลชนฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย ผู้ว่าฯ สตง.กล่าวว่า สตง.มีบทบาทหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งการใช้งบประมาณเพื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการนั้นสามารถทำได้อยู่แล้ว เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นประเด็นปัญหา เรื่องการตรวจสอบ เราตรวจทุกหน่วยงานอยู่แล้ว

นอกจากนี้ นายพิศิษฐ์ยังกล่าวถึงกรณีการระบายข้าว ที่มีการร้องเรียนคุณสมบัติของผู้เสนอซื้อข้าวอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2560 มีบางบริษัทคุณสมบัติไม่ครบ ว่าช่วงที่ประมูลเราอาจจะไม่ได้ไปสังเกตการณ์ แต่เมื่อมีข้อร้องเรียนก็ได้เข้าไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าเป็นไปตามข้อร้องเรียนหรือไม่ ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม เรื่องเหล่านี้ สตง.ตรวจสอบอยู่แล้ว เมื่อมีเรื่องร้องเรียนต่างๆ เราก็ได้มีการทบทวน ตั้งแต่เรื่องที่มีการเปิดประเด็นว่ามีข้าวชนิดหนึ่งขายมาในอุตสาหกรรมเอทานอล แต่ความจริงเป็นข้าวที่ใช้บริโภคได้ ทาง สตง.ก็ตรวจสอบแต่ก็ไม่มีประเด็นอะไร นอกจากนี้ มาตรการที่จะใช้ในการระบายข้าวออกไป ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ สตง.ติดตาม เพราะการระบายข้าวมีข้อคำนึงในการตรวจสอบคือ การระบายให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพราะการจำนำข้าวเกิดขึ้นเป็นเวลาต่อเนื่องและยาวนาน จะทำให้มีข้าวค้างสต็อกจำนวนมาก ฉะนั้น การระบายข้าวที่ผิดวิธีการอาจส่งกระทบต่อข้าวที่ออกในฤดูใหม่ซึ่งจะกระทบในเรื่องราคา จึงต้องดำเนินการไม่ให้ส่งผลกระทบในส่วนนี้ เราจึงดูและประเมินติดตามอยู่