รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ต้อนรับนักเรียนโรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์ ชมต้นแบบนำรัฐธรรมนูญมาใช้เลือกตั้งสภานักเรียนมา 15 ปี เผย ที่ประชุม กกต. รับหนังสือชี้มูลผิด “อำพล วงศ์ศิริ” ว่าที่ เลขาฯ กกต. แล้ว ยังไม่พิจารณาทำอย่างไรต่อ โอ่ยังไม่มีก็ทำงานได้
วันนี้ (15 ส.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้การต้อนรับ นักเรียนโรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์ ที่มาเยี่ยมชมและศึกษาดูงาน โดยมีสภานักเรียนโรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์ 45 คน และครูผู้ดูแล 15 คน สำหรับโรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมและการให้ความรู้กับนักเรียนเกี่ยวกับระบอบการเมืองการปกครองของไทย โดยเฉพาะการเสริมสร้างองค์ความรู้ประสบการณ์จริงนอกเหนือจากตำราในชั้นเรียน ประกอบกับสำนักงาน กกต. ได้จัดตั้ง “ศูนย์ศึกษาประชาธิปไตย” ที่ส่งเสริมให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้เข้ามาศึกษาการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผ่านการเรียนรู้หลากหลายมิติ เช่น ห้องภาพยนตร์ ที่ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ทางการเมืองและเส้นทางสู่วิถีประชาธิปไตยของไทย รวมทั้งห้องจำลองการเลือกตั้งที่สามารถทดลองใช้สิทธิเลือกตั้งได้จริงผ่านหีบเลือกตั้ง บัตรเลือกตั้งจำลอง เครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ ห้องรัฐสภาจำลอง ที่ทำให้ผู้เข้าเยี่ยมชมสัมผัสบรรยากาศจำลองการประชุมในรัฐสภา ในการฝึกอภิปราย
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวต้อนรับนักเรียน และกล่าวชื่นชมโรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์ ที่เป็นต้นแบบในการนำรัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปัจจุบันมาประยุกต์ใช้ในการเลือกตั้งสภานักเรียน ระดับโรงเรียน ซึ่งดำเนินการมาเป็นระยเวลา 15 ปีแล้ว ถือเป็นสิ่งที่ดี ที่ทำให้ทุกคนได้เรียนรู้และมีวิถีประชาธิปไตย ซึ่งวิถีประชาธิปไตย ทำให้รู้จักคิดวิเคราะห์ หาเหตุผล มีจิตสาธารณะ เคารพสิทธิ์ผู้อื่น การอยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้อง ทั้งนี้ ถ้าหากคนไทย 70 ล้านคน มีวิถีประชาธิปไตยเช่นนี้ ก็จะทำให้บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรือง
“ในวิถีประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรี และ ประธานรัฐสภา เป็นตำแหน่งที่สูง ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่รับฟังเสียงข้างน้อย และยอมรับผลของเสียงข้างมาก” พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ในการประชุม กกต. วันนี้ (15 ส.ค.) ที่ประชุมได้พิจารณาหนังสือที่สำนักงาน ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายอำพล วงศ์ศิริ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กกต. คนใหม่ ซึ่งในส่วนของสำนักงาน ก็ได้มีการเสนอข้อมูลให้ที่ประชุมพิจารณาว่า การที่ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลจะถือว่า นายอำพล ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งหรือไม่ เนื่องจาก นายอำพล มีปัญหาเรื่องการซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ตนเป็นหนึ่งในผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นเลขาธิการ กกต. จึงไม่ได้อยู่ร่วมประชุมในเรื่องดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นรักษาการเลขาฯ ยืนยันว่า แม้จะยังไม่มีเลขาฯ คนใหม่ ทางสำนักงานในฐานะฝ่ายธุรการ ก็พร้อมที่จะเดินหน้าในการขับเคลื่อนงานอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้งานสะดุด จะเดินหน้าร่างระเบียบ 30 - 40 ฉบับ และประกาศที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายลูก 4 ฉบับ เพราะหากรอกฎหมายลูกบังคับใช้แล้วจะมาร่างไม่ทัน เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน นับแต่ พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ประกาศใช้ รวมทั้งเดินหน้าสร้างนวัตกรรมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเลือกตั้ง และการสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนเลือกคนที่มีคุณภาพเข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศ ซึ่งตนก็รักษาการตำแหน่งเลขาธิการ กกต. มา 2 ปีแล้วและไม่มีปัญหา หาก กกต. จะมีมติให้ตนรักษาการต่อไป โดยยังไม่มีการเลือกเลขาฯ กกต. คนใหม่
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุม กกต. ยังไม่มีการพิจารณาว่าจะดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างไรต่อไป แต่ได้มีการหารือกันจากหนังสือที่ ป.ป.ช. ส่งมา ระบุว่า นายอำพล มีความผิดทางวินัย แต่ในประกาศรับสมัครเลขาฯ กกต. ระบุว่า บุคคลที่จะได้รับการคัดเลือกต้องไม่มีความผิดทางอาญาและทางวินัย ซึ่งในกรณีของนายอำพล ต่างมีความเห็นว่า ป.ป.ช. ชี้มูลมีความผิดทางวินัย ซึ่งตามขั้นตอนจะต้องส่งเรื่องไปให้ผู้บังคับบัญชา ปลดออก หรือไล่ออกก่อน จึงจะถือว่ากระบวนการเสร็จสิ้น และขัดต่อประกาศการสรรหาเลขา กกต. ของสำนักงาน กกต. จึงยังไม่มีการพิจารณาหรือมีมติในเรื่องดังกล่าวออกมา