กกต.สวน กรธ. ชี้เดี๋ยวนี้ซื้อเสียงกันระดับหมู่บ้าน มีเบอร์เหมือนพรรคหรือไม่ไม่เป็นอุปสรรค รับปัญหายุ่งยากตอนรับสมัคร พิมพ์บัตร ลงคะแนน นับคะแนน ส่อได้ไม่คุ้มเสีย แต่ก็ออกกฎหมายมาจริงก็ต้องหาวิธีให้วุ่นน้อยสุด ลั่นมีความรับผิดชอบพอ ไม่สักแต่คิดเรื่องเป็นไปไม่ได้แล้วสร้างภาระให้ผู้รับผิดชอบ
วันนี้ (14 ส.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารกลาง กล่าวถึงกรณีนายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ระบุการให้จับเบอร์รายเขต ในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ถือเป็นการป้องกันการซื้อเสียง หากพรรคการเมืองใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ จะเป็นการง่ายต่อการซื้อเสียง รวมทั้งให้เป็นหน้าที่ กกต.ชุดใหม่คิดวิธีการจัดการ ว่าหาก กรธ.มีความคิดเพียงว่าพรรคการเมืองจะซื้อเสียงแบบโจ่งครึ่มทั้งประเทศ คงต้องย้อนยุคกลับไปเมื่อ 30 ปีก่อน เพราะเดี๋ยวนี้การซื้อเสียงจะกระทำผ่านกลไกหัวคะแนนในระดับหมู่บ้านซึ่งจะมีเบอร์เหมือนกันหรือไม่เหมือนกัน ก็ไม่เป็นอุปสรรค นอกจากนี้ยังมีผลงานวิจัยจากนักวิชาการหลายสถาบันชี้ตรงกันว่า แม้สังคมไทยยังจะมีการซื้อเสียงแต่ประชาชนไม่ได้เลือกจากเงินที่เขาได้รับ ผู้สมัครหรือพรรคที่ใช้เงินซื้อเสียงมากกว่า ไม่ได้แปลว่าจะได้รับเลือกตั้ง อีกทั้งไม่ว่าการซื้อเสียงจะเกิดขึ้นในรูปแบบใดก็เป็นหน้าที่ กกต.อยู่แล้วในการจัดการ หากพรรคใหญ่ซื้อเสียงในระดับประเทศยิ่งเป็นการง่ายต่อการจัดการของ กกต.ในอนาคต
“ปัญหาในการจัดการที่เห็นว่าจะได้ไม่คุ้มเสีย คือ ความยุ่งยากในการรับสมัคร การพิมพ์บัตร ความสับสนในการลงคะแนนของประชาชน การนับคะแนนและการรวมคะแนนทุกพรรคในระดับประเทศ หากกฎหมายออกมาจริงโดยคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี ผมและ กกต.ชุดนี้คงต้องพยายามหาวิธีการออกแบบที่วุ่นวายน้อยที่สุด ไม่คิดผลักภาระให้ กกต.ชุดใหม่ไปเป็นฝ่ายคิด เพราะถือว่ายังมีบทบาทรับผิดชอบในขณะนี้อยู่ ส่วนตัวมีความรับผิดชอบเพียงพอไม่สักแต่ว่าคิดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ สร้างภาระต่อผู้รับผิดชอบในอนาคตแล้วบอกว่าผู้คิดไม่ผิด” นายสมชัยกล่าว
