xs
xsm
sm
md
lg

เชื่อมแล้ว MRT เตาปูน-บางซื่อ! นายกฯ สั่งผุดโมโนเรลแก้รถติด ชี้สายรถเมล์ถ้ามีปัญหาก็ปรับปรุง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกรัฐมนตรี เปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงเตาปูน-บางซื่อ สั่งผุดรถไฟฟ้ารางเบาแก้รถติด รับ 5 ล้านช่วยน้ำท่วม นั่งรถรางลงอุโมงค์ลอดเจ้าพระยา ยันค่าโดยสารราคาเดิม รับบางอย่างอาจแพง-ถูก คนมีรายได้น้อยต้องเปลี่ยนตัวเอง ชี้รถไฟความเร็วสูงแค่ทำสัญญาก็ 3 ปีแล้ว หวังเชื่อมต่อ 29 ประเทศ อาจไปถึงยุโรปได้ โยน ทส.ดูพวกบุกรุก ปัดเอื้อประโยชน์ให้คนสร้าง เผยดูปมสายรถเมล์ใหม่ ถ้ามีปัญหาก็ปรับปรุง

วันนี้ (11 ส.ค.) ที่สถานีรถไฟฟ้าเตาปูน เขตบางซื่อ เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในพิธีเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงเตาปูน-บางซื่อ ภายใต้ชื่องาน “ร่วมใจ เชื่อมสุข เพื่อประชาชน” ว่านี่เป็นเส้นทางที่ประชาชนเฝ้ารอคอยมาเป็นเวลานาน เพราะปัญหาหลักของกรุงเทพฯ คือด้านจราจร เรามีความไม่เข้าใจและความขัดแย้งในเรื่องเหล่านี้มากเนื่องจากมีปัญหาที่ซับซ้อนตั้งแต่อดีต และเมื่อมีการก่อสร้างก็ย่อมมีผลกระทบทางถนน คนที่ไม่ได้ขึ้นรถไฟฟ้าก็จะบ่นว่าจราจรติดขัด ส่วนคนที่ขึ้นก็จะบอกว่าเมื่อไหร่จะเสร็จเสียที รัฐบาลได้สั่งการในการก่อสร้างว่าต้องใช้พื้นที่ให้น้อย ไม่กีดขวางทางจราจรมาก รัฐบาลนี้จำเป็นต้องเอาปัญหาทั้งหมดมาแก้ไข ขออย่าต่อว่า ว่าเพิ่มปัญหาจราจร รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐานในทุกระดับและพื้นที่ โดยประชาชนต้องได้ประโยชน์มากที่สุด จึงต้องลงทุนในระยะแรก ส่วนระยะต่อไปก็อาจจะมีภาคเอกชนมาร่วมด้วย ที่สำคัญคือประชาชนต้องร่วมมือ เพราะไม่มีใครได้ประโยชน์ 100% โดยไม่เสียประโยชน์เลย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คนไทยทุกคนต้องเสียประโยชน์ส่วนน้อยเพื่อคนส่วนใหญ่ การพัฒนาระบบการขนส่งทางรางนับว่ามีความจำเป็น แต่ปัญหาคือรัฐจะต้องหารายได้เพิ่มขึ้นเพื่อลงทุน การลงทุนเพื่ออนาคตมีความจำเป็น อย่าคิดว่าต้องเอาเงินมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนก่อน เพราะหลักการของรัฐบาลคือแก้ของเดิมพร้อมกับทำของใหม่ไปด้วย ไม่ใช่จะกินบุญเก่าไปตลอด เพราะมิเช่นนั้นการลงทุนจะไม่เกิดขึ้น จนเมื่อทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ค่าใช้จ่าย ค่าเดินทางก็จะลดลง ผลประโยชน์ก็จะมากขึ้น ในวันข้างหน้าจะต้องวางโครงสร้างพื้นฐานให้ครบทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ได้ให้แนวทางว่า จะต้องสร้างรถไฟฟ้ารางเบา รางเดียว หรือ monorail ในพื้นที่การจราจรติดขัด โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ เพื่อกระจายผู้โดยสารให้ผ่านพ้นการจราจรติดขัด

“รัฐบาลพยายามเร่งรัดการวางโครงสร้างพื้นฐาน แม้จะมีคำถามว่าควรหรือไม่ ถูกต้องหรือไม่ แต่ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยืนยันว่าถูกต้อง เรามีความจำเป็นต้องปฏิรูปประเทศ ไทยมีกฎหมายแต่ใช้ไม่ได้ ประเทศที่พัฒนาแล้วในอาเซียน ก่อนหน้านี้ได้ใช้กฎหมายเพื่อให้ทุกคนรู้สิทธิและหน้าที่ วันนี้เราจะเอาความสบายของเขา มาเทียบกับเราไม่ได้ ถามว่าวันนี้เรามีวินัยกันครบหรือยัง เพราะเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การปฏิรูปประเทศมีปัญหา รัฐบาลจึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้กฎหมายพิเศษ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ต้องเข้าใจว่ากฎหมายปกติที่ใช้วันนี้มีปัญหา เราจะปล่อยไปถึงเมื่อไหร่ จึงอยากให้นำมาเปรียบเทียบกันประเทศไทยมีความแตกต่างทั้งพื้นฐานความคิดและการศึกษา มีทั้งคนดีและไม่ดี ผมไม่อาจจะไปว่าใคร แต่เราต้องการให้ประเทศเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่ทำตอนผมอยู่แล้วจะทำตอนไหน เพราะฉะนั้นอย่ามองโดยไม่ย้อนกลับไปดูในอดีต ทุกคนต้องการสิทธิเสรีภาพ โดยไม่สนใจว่าไปละเมิดอะไรใคร รัฐบาลนี้ยอมไม่ได้ จะต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องของศาลกระบวนการยุติธรรม ผมไม่ใช่ศาล ไม่ใช่เปาบุ้นจิ้น ผิดถูกก็ไปว่ากันตรงโน้น” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้ให้แนวทางกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูว่าจะเชื่อมต่อระบบการเดินทางได้อย่างไร ทั้งการขนส่งทางรางหรือการขนส่งแบบปกติต้องเชื่อมต่อกันให้ได้ ยุทธศาสตร์ชาติไม่ได้เขียนไว้ว่าจะต้องทำถนนหรือรถไฟฟ้าเส้นใด เขียนเพียงให้ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม เพิ่มรายได้ สร้างการแข่งขันของประเทศ ทำให้ระบบการขนส่งรวดเร็วขึ้น ยุทธศาสตร์ชาติมีเท่านี้จะกลัวอะไรกันนักหนา รัฐบาลพยายามทำให้ครบถ้วน ส่วนจะครบหรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องของวันข้างหน้า เราต้องการให้ประชาชนเห็นอนาคตของประเทศในระยะ 20 ปีครั้งหน้า ประชาชนจะได้ตั้งหลักถูก ว่าจะส่งลูกหลานไปเรียนที่ใด ทำงานอะไร ไม่ใช่วิธีการที่ผิด เพราะเป็นหลักคิดที่ได้ศึกษามาจากต่างประเทศ เอามารวมกับสิ่งที่การคิดเองบ้าง เพื่อทำงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมาย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า นี่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การคมนาคมและการขนส่ง เพื่อเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยต้องทำระบบขนส่งทางรางให้ครบ และรถไฟความเร็วสูงก็มีความจำเป็นต้องทำ เพื่อเชื่อมต่อกับประชาคมโลก ให้สามารถเดินทางไปจีน อินเดีย ยุโรป ฯลฯ ตนต้องการสร้างความเข้าใจให้ประชาชน ต้องสร้างหลักคิดใหม่ เพื่อพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลาง กับดักประชาธิปไตย และความขัดแย้ง โดยอาศัยความร่วมมือจากต่างประเทศ และตนจำเป็นต้องพูดสยบความขัดแย้งให้ได้ บางคนเจตนาดีแต่ไม่มีพื้นฐานหลักคิดจึงขัดแย้งกันไปหมด ทำให้หงุดหงิดทุกวันเพราะหนักใจ แต่จะทำให้ดีที่สุดและทุกอย่างที่รัฐบาลทำในวันนี้ต้องอยู่ต่อในอนาคตซึ่งขึ้นอยู่กับประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ขอขอบคุณผู้บริหารและเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ที่ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลจนเกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม และขอฝากความร่วมมือไว้กับภาคธุรกิจเอกชนด้วยอยากให้ทุกคนช่วยกันเสียสละกำไรน้อยหน่อย ลดราคาลงบ้าง เพื่อประชาชนเพื่อประเทศซึ่งตนเข้าใจว่าธุรกิจก็คือธุรกิจ หาผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นแต่คนที่รับประโยชน์คือประชาชนมีทั้งผู้มีรายได้มากและรายได้น้อยขอให้นึกถึงเขาด้วยโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยทำอย่างไรให้เขามีโอกาสได้ขึ้นรถไฟฟ้า และต้องสร้างอาชีพให้เขามีรายได้พอที่จะขึ้นรถไฟฟ้าได้

“วันนี้ทุกปัญหาพันกันไปหมด ขอให้ทุกคนนึกถึงประชาชนให้มากที่สุดโดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่านเวลานี้ วันหน้าถ้ารัฐบาลใหม่มาให้เห็นว่าดีก็ทําต่อถ้าจะเปลี่ยนแปลงก็ต้องมีเหตุผล ซึ่งเป็นเรื่องของเขากับประชาชนเป็นผู้เลือกตั้ง ผมเป็นห่วงกรณีที่มีเหตุติดขัดรถไฟฟ้าเสีย จึงต้องมีแผนเผชิญเหตุเพื่อแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว จะต้องมีเส้นทางแจ้งเพื่อให้ประชาชนไปอยู่จุดพักคอย เพื่อเป็นการผ่อนคลายปล่อยให้ผู้โดยสารชุลมุนจะทำให้เป็นปัญหาและเกิดอุบัติเหตุ ตรงจุดวางหรือสถานีรถต้องไม่เกิดขึ้นอีกไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ดังนั้นขอให้คิดในรายละเอียดด้วย ให้คิดว่าคนขึ้นรถไฟฟ้าจะต้องมีอะไรรองรับบ้างไม่ใช่ทำส่งเดชหวัง และต้องมีแผนเผชิญเหตุ แต่จะไม่เพิ่มเงิน ผมเป็นห่วงแค่ 2-3 เรื่องเท่านั้น อย่าให้เขามาต่อว่านักเลยสิ่งดีๆ มีเยอะแต่จะโดนต่อว่าในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จะทำให้สิ่งดีๆ หายหมด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณมิตรประเทศ ที่มาร่วมพัฒนาประเทศของเราถือว่าท่านอยู่ในประวัติศาสตร์ของเราด้วยในการปรับรูปแบบขนส่งมวลชนให้ทันสมัยและขอให้เป็นมิตรที่มั่นคงและยั่งยืนอยู่ในยุทธศาสตร์ของเรา อีก 20 ปีข้างหน้านั้นขอยืนยันทุกอย่างที่รัฐบาลนี้ทำจะต้องอยู่ต่อไปถึงวันข้างหน้า ขอให้ทุกคนมีความสุขโดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงปีมหามงคลวันแม่แห่งชาติ และที่ผ่านมาก็เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ พระองค์ได้พระราชทานความห่วงใยในทุกๆเรื่องซึ่งตนก็ได้รับพระราโชบายมาหลายอย่างรวมทั้งได้นำพระราโชบายของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ มาปฏิบัติอย่างต่อเนื่องตลอดไปขอให้ทุกคนยึดมั่นในหลักฐานประเภทคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และในส่วนของรัฐบาลได้เติมประชาชนไปด้วย ซึ่งประชาชนจะต้องอยู่ในใจของพวกเราเสมอในการทำงาน

“คิดสิ่งดีๆ จะเป็นกุศล จะไปทำบุญที่วัดก็เชิญไป แต่ทำกุศลทำด้วยใจของตัวเอง ตื่นเช้ามาทุกคนที่เป็นหัวหน้าหน่วยงานต้องคิดว่าจะทำอะไรให้เกิดประโยชน์กับประชาชนไม่ต้องนึกถึงตัวเองจะทำให้คิดงานออก และต้องมีการติดตามงานทุกวัน เพื่อให้เป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่ผิดกฎหมาย ผมไม่เคยกลัวอะไรเพราะทำเพื่อชาติ เพื่อประชาชน หวังอย่างยิ่งว่าสิ่งที่ทำในวันนี้ จะคุ้มครองตัวผมในวันหน้า เพราะคงหวังให้ใครช่วยผมไม่ได้อยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายฯ ที่บริเวณชั้น 4 และห้องควบคุมขบวนรถไฟฟ้าและร่วมโดยสาร ที่ตู้ที่ 1 จากนั้นเดินทางไปยังสถานีรถไฟฟ้ากำแพงเพชร และเดินทางไปยังสถานีรถไฟฟ้าสนามไชยโดยขบวนรถยนต์ เพื่อฟังบรรยายสรุปรายงานความก้าวหน้า และความเป็นมาของการออกแบบก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าสนามไชย ทั้งนี้ นายกฯ ได้รับมอบเงินช่วยเหลือน้ำท่วมจากนายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีอีเอ็ม มูลค่า 5 ล้านบาท จากนั้นนายกฯ ก่อนเยี่ยมชมสถานีและนั่งรถรางลอดอุโมงค์แม่น้ำเจ้าพระยาไปยังสถานีรถไฟฟ้าอิสรภาพ บางกอกใหญ่

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้สัมภาษณ์เรื่องค่าโดยสารการใช้บริการว่า ค่าโดยสารไม่ได้เพิ่ม ยังคงราคาเดิม ถ้ามีกำไรที่เพียงพอก็น่าจะอยู่ได้ เป็นขั้นตอนของการทำสัญญาเจรจากันต่อไป หลายคนคิดก็คิดว่าจะทำยังไงให้ถูกที่สุด คิดอย่างนี้ก็ไปไม่ได้หรอก บางอย่างอาจต้องแพง บางอย่างอาจต้องถูกลง เราต้องคำนึงถึงขีดความสามารถของผู้ใช้บริการ เขามีหลักการคิดคำนวณเงินมากมาย ผู้ทีมีรายได้น้อยต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง รัฐบาลต้องทำทั้งหมด วันนี้ที่มีปัญหาเพราะทุกอย่างถูกจัดระเบียบหมดการหาเงินที่ไม่ถูกต้องก็ยากขึ้น จึงกลายเป็นความเดือดร้อน แต่ไม่ใช่ตนต้องการให้เดือดร้อน ใครจะอยากทำ ตนใจร้ายขนาดนั้นเลยหรือ ที่เข้ามาทำทุกวันนี้ตนทำเพื่อใคร ไม่ใช่เพื่อคนจนหรือ แต่จำเป็นต้องจัดระเบียบให้เข้าที่ทาง ต้องไปดูในเรื่องผู้มีรายได้น้อยว่าต้องทำอย่างไร เช่น การขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งไม่ใช่การหาเสียง

เมื่อถามว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนจะสามารถเร่งดำเนินการได้มากกว่านี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า แค่ทำสัญญาก็ 3 ปีแล้ว ไปดูว่าติดขัดเพราอะไร ทุกคนอยากได้แต่บอกว่าช้าเกินไป บางอันเป็นเรื่องของความร่วมมือ การลงทุนร่วม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่เราต้องได้ประโยชน์ ไม่มีใครได้หมด หรือเสียหมด ไม่ทำก็ไม่ได้ ก็จะทำให้เร็วที่สุด มาตรา 44 ก็ใช้ไปแล้ว เพื่อตัดข้อจำกัดทางกฎหมายบางข้อ เพื่อให้ดำเนินการได้ โดยเป็นเส้นทางเชื่อมต่อกับอีก 29 ประเทศ และเราเป็นจุดสำคัญที่ต้องผ่าน ถ้าจะทิ้งโอกาสให้ไปอ้อมทางอื่นมันก็ไม่ใช่ นี่คือเหตุผลและความจำเป็นเพื่อความเชื่อมโยงในวันหน้าที่อาจไปถึงยุโรปได้ สิ่งที่จะเชื่อมโยงได้คือทางกายภาพ เชื่อมโยงประชาชนกับประชาชนในการสัญจรไปมา จะมีการขยายเมือง ขยายงาน ขยายธุรกิจ นั่นคือสิ่งที่ประโยชน์จะเกิดขึ้น รถไฟไทย-จีน เราก็จะทยอยทำเพราะเป็นความร่วมมือในการถ่ายทอดเทคโนโลยี แผนเดิมมีอยู่แล้ว เส้นทางวางไว้อยู่แล้ว แต่พอถึงเวลาทำจริงๆ มันทำไม่ได้ต้องรื้อมาดูใหม่ เพราะคนบุกรุกเส้นทาง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำลังพิจารณา ทุกคนก็ติติงไปหมด นี่คือสิ่งที่เป็นปัญหาของเรา เราต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไรจะสร้างความสมดุลได้หมด ไม่อย่างนั้นก็มีผลกระทบซึ่งกันและกัน ไม่ใช่เอื้อประโยชน์ให้กับคนสร้าง มันคนละเรื่อง ต้องคิดให้เป็น

เมื่อถามว่า การปฎิรูปเส้นทางรถเมล์ มีประชาชนเห็นว่ามีชื่อสายรถนั้นจำยาก นายกฯ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้ชี้แจงแล้ว และตนได้ตามอยู่ เป็นการทดลอง ถ้ามีปัญหาก็จะแก้ไขและปรับปรุง โดยตนต้องการทำให้มีรถเมล์และรถไฟใหม่ ต้องทำให้ได้และกำลังหาวิธีการอยู่ เพราะวิธีเดิมแก้ปัญหาไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่รู้จะใช้วิธีไหน ขอเวลาหาวิธีก่อน จะพยายามทำให้เร็วที่สุด














กำลังโหลดความคิดเห็น