xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ภูมิใจได้ดูแลชาติ ปัดการศึกษาไทยล้มเหลว ฝาก ศธ.ดึงเด็กเก่งแนะแนวทางเรียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกรัฐมนตรี ให้โอวาทเด็กไทยกลับจากแข่งคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์โอลิมปิก ปัดการศึกษาไทยล้มเหลว สั่งแรงงานสรุปอีก 5-10 ปีประเทศต้องการอะไร บ่นทำแล้วไม่ได้อะไรแต่ภูมิใจได้ดูแลชาติขับเคลื่อน ชูประนีประนอมลักษณะไทย มองแต่เรื่องสิทธิมนุษยชนอย่างเดียวไม่ได้ ขอร้องอย่าทิ้งวัฒนธรรม อ้างชาติวุ่นเหตุถือ กม.คนละฉบับ แนะอย่าละเมิดคนอื่น บอกจะเชื่อลุงหรือเชื่อพวกพูดมากก็ตามใจ ฝาก รมว.ศธ.ถึงไปทำจิตอาสา แนะนำวิธีเรียนให้เก่ง

วันนี้ (10 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้โอวาทตอนหนึ่งหลังนายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำคณะผู้แทนประเทศไทยที่เดินทางกลับจากการแข่งขันคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ประจำปี 2560 เข้าพบว่า ประเทศไทยไม่ได้อ่อนด้อยกว่าประเทศใด เพียงแต่ต้องกระจายสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้เพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่กระจุกอยู่เฉพาะบางโรงเรียนเหมือนในปัจจุบัน การศึกษาถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนประเทศในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เรายังขาดแคลนในเรื่องของนักวิจัย นักพัฒนา ความต้องการของตลาดแรงงานมีหลายอย่างที่ยังขาดแคลน ขณะนี้ได้สั่งการให้กระทรวงแรงงานรวบรวมและสรุปว่าความต้องการของประเทศในอีก 5-10 ปีข้างหน้ามีอะไรบ้าง วันนี้ทุกคนต้องรู้ว่านายกรัฐมนตรีพูดอะไร ยุทธศาสตร์ชาติของประเทศคืออะไร เพราะเราอยู่ระหว่างการปฏิรูปประเทศ ทุกคนมีส่วนสำคัญในการปฏิรูปประเทศ

“สิ่งสำคัญต้องเน้นให้ทุกคนเข้าใจและรู้ถึงความเป็นจิตอาสา ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐ รับสั่งกับผมมาหลายครั้งในเรื่องการเป็นจิตอาสาทำประโยชน์เพื่อสาธารณะ และใช้วิชาความรู้ที่ตัวเองมีความเชี่ยวชาญ รวมตัวกันเพื่อทำประโยชน์ โดยต้องไม่ลืมความมีคุณธรรมและจริยธรรมด้วย วันนี้ผมได้มอบนโยบายไปแล้วต้องเร่งสร้างทั้งคนดีและคนเก่ง หลายคนยังไม่ทราบว่าคนดีคืออะไร คนดีคือคนที่มีคุณธรรม มีการเผื่อแผ่แบ่งปัน มีจิตสาธารณะ คิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเองซึ่งจะเป็นกุศลให้แก่ตัวเอง แม้ว่าจะไม่ได้อะไรมาก แต่ก็เป็นความสบายใจ เหมือนที่ผมทำในวันนี้ ผมทำงานไม่ได้อะไรขึ้นมากับส่วนตัว แต่ภูมิใจว่าอย่างน้อยเราได้มาดูแลประเทศเพื่อให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ยากที่คนจะเข้าใจตรงนี้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การศึกษาไทยวันนี้ไม่ใช่ล้มเหลว มีหลายคนที่คอยติติง แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้ล้มเหลว เพียงแต่ต้องผลิตคนให้ตรงกัต่อความต้องการของประเทศ ส่วนใหญ่มุ่งแต่เรื่องวิชาการโดยไม่ได้สอนเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณลักษณะที่ต้องทำงานร่วมกัน วันนี้ทุกคนไม่ซ้ายก็ขวา อย่าลืมว่าลักษณะของคนไทยคือการประนีประนอม แต่วันนี้กลับไม่ใช่แล้ว เพราะต่างคนต่างเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง สิ่งที่ทำให้สับสนวุ่นวายคือโซเชียลมีเดีย เนื่องจากทุกคนเข้าถึงได้ง่าย มีช่องทางในการตอบโต้และแสดงความคิดเห็น จนบางครั้งเกินกรอบศีลธรรมอันดีของสังคมจนทำให้มีปัญหา หลักสูตรจะต้องเน้นการอยู่ร่วมกัน การเคารพกฎหมาย มีคุณธรรม ศีลธรรม มีความประนีประนอมในการทำงานสิ่งดีๆ ด้วยกัน วันนี้ขอสอนวิธีการทำงานที่ถูกต้องให้ทราบ เพราะที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่เวลาทำงานมักเอาปัญหาขึ้นมาทั้งหมด ซึ่งไม่ได้เราต้องทำงานด้วยความละมุนละม่อม และบูรณาการงานต่างๆ ร่วมกัน ปัจจุบันรัฐบาลกำลังปรับโครงสร้างการทำงานของรัฐบาลใหม่

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนต้องการให้ทุกคนเป็นนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี เพื่อที่จะได้เข้ามาบริหาร และแก้ไขปัญหาของประเทศ ทุกคนจะต้องตั้งความหวังของตัวเอง ไม่ใช่อยู่หรือเรียนไปวันๆ ตั้งแต่เด็กตนได้ตั้งความหวังมาตลอด โดยไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงตนได้ เพราะตัวเองลิขิตมาแบบนี้ คือจะต้องเป็นทหาร เป็นนักเรียนนายร้อยเพียงอย่างเดียว

“สมัยก่อนไม่มีทางเลือกให้เรามากนัก แต่ครอบครัวผมเป็นแบบนี้ ผมเองก็เป็นทหารของผม ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ได้คิดที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นขอให้ทุกคนมีความมุ่งมั่นอ่านหนังสือเยอะๆ ทั้งวิชาการ และความรู้ทั่วไป เรื่องการเมือง เรื่องประชาธิปไตย ที่ถูกต้อง ถ้าเรามีหลักคิดพื้นฐานที่ถูกต้องก็ไม่ต้องมาตีกัน ถ้ามัวแต่มองเรื่องสิทธิมนุษยชนเพียงอย่างเดียว ไม่มองถึงกฎหมาย หรือมองแต่รัฐธรรมนูญอย่างเดียวโดยไม่มองอย่างอื่นก็ไม่ได้ เพราะกฎหมายลูกทุกฉบับมีบทบัญญัติ และเนื้อหาไว้ทั้งหมด เช่นเรื่องของสิทธิการชุมนุม ประชาชนก็สามารถชุมนุมได้ แต่จะต้องไม่ไปละเมิดกฎหมายอื่น ต้องไปอ่านกฎหมายให้ครอบคลุม ไม่ใช่ว่าการชุมนุมทุกครั้งรัฐบาล และเจ้าหน้าที่จะทำอะไรไม่ได้เลย ปล่อยให้บ้านเมืองเสียหายอย่างนี้ไม่ได้ ถึงมีกฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุมขึ้นมา หรือกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมต่างๆ ไม่ใช่ว่าอะไรก็ทำไม่ได้เลย แล้วประเทศจะอยู่อย่างไร การพัฒนาก็จะไม่เกิดขึ้น” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอร้องคนไทยอย่าทิ้งวัฒนธรรม ประเพณี และอัตลักษณ์ แล้วไปเอาของต่างประเทศในส่วนที่สบายๆ มาใช้ แต่อะไรที่ลำบากกลับไม่เอามา ความจริงกฎหมายเขามีทุกตัวถึงไม่มีความวุ่นวาย แต่ที่บ้านเราวุ่นวายเพราะเราทุกคนถือกฎหมายคนละฉบับ ดังนั้นประชาชนจึงต้องเรียนรู้กฎหมายทุกฉบับ เพราะเราอยู่ภายใต้กฎหมายซึ่งไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนถ้าไม่ได้ทำความผิด ทุกอย่างก็จบไม่มีผลกระทบกับคนอื่น การใช้สิทธิของตัวเองต้องคำนึงถึงหน้าที่ และสิทธิของคนอื่นด้วย อย่าไปละเมิดจนทำให้คนอื่นลำบาก และเดือดร้อน ตนไม่ต้องการสร้างความไม่เข้าใจในสังคมอีกต่อไปเพื่อให้ทุกคนมารัก

“ผมไม่ต้องการที่จะให้ทุกคนมารักผม ซึ่งผมไม่ต้องการ จะเกลียดผมก็ได้ แต่อย่าเกลียดประเทศของท่าน เพราะประเทศจะอยู่ได้ก็ด้วยจากคน แผ่นดิน ผืนน้ำ อากาศ ซึ่งทั้งหมดเชื่อมโยงกันทั้งโลก ทุกคนจึงมีหน้าที่ทั้งต่อประเทศ และโลก เราต้องเลือกนำสิ่งที่ดีเข้ามาประยุกต์ให้เข้ากับประเทศไทยเช่นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงรับสั่งไว้ว่าการพัฒนาแบบตะวันตกรวดเร็ว แต่ไม่ยั่งยืน สร้างผลกระทบมาก การพัฒนาแบบตะวันออกค่อยข้างช้าแต่ยั่งยืน เราจึงต้องนำทั้ง 2 อย่างมาผสมกัน” นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ประเทศไทยมีอธิปไตยมาตลอด ไม่เคยตกเป็นอาณานิคม หรือเป็นเมืองขึ้นของใคร เราจึงต้องหันหน้ามาร่วมมือกันแก้ไข พัฒนา และเดินหน้าประเทศไปให้ได้ และขอให้นำสิ่งที่พูดไปบอกต่อปากต่อปากจะดีกว่า

“จะเชื่อลุงหรือเปล่า หรือจะเชื่อใคร หรือจะเชื่อไอ้พวกพูดมากก็ตามใจ ขี้เกียจไปให้เครดิต แค่เอ่ยชื่อก็เจ็บปากแล้วไม่พูดดีกว่า สิ่งที่เราต้องการวันนี้คือทั้งคนเก่ง และคนดีในสังคมเพื่อพัฒนาประเทศ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ต่อมาเวลา 10.30 น. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวภายหลังให้โอวาทว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่นักเรียนไปแข่งขันโอลิมปิกโลกได้รางวัลมาจำนวนมาก ซึ่งไทยได้ทุกปี ตนก็ได้ให้กำลังใจและขอบคุณคณาจารย์ ประธานคณะทำงานในเรื่องการขับเคลื่อน ซึ่งตรงกับยุทธศาสตร์ชาติในเรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ตนได้ฝาก รมว.ศึกษาธิการให้นำกลุ่มคนเหล่านี้ไปร่วมทำจิตอาสา เรื่องการแนะนำวิธีการศึกษาเล่าเรียนว่าทำอย่างไรถึงจะได้เกรด 3.9-4.00 และทำอย่างไรเขาถึงได้รางวัลทางวิทยาศาสตร์ ในเหรียญต่างๆ คนไทยไม่ได้ด้อยกว่าคนอื่นเลย เพียงแต่ทำอย่างไรจะกระจายความรู้เหล่านี้ไปโรงเรียนอื่นให้ทั่วถึง

“ประเทศไทยมีปัญหา มีระบบการศึกษาหลายแบบซึ่งเราไม่สามารถบังคับได้ ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งอุดมศึกษาทั้งของรัฐ และเอกชน วันนี้รัฐบาลปรับแก้ทุกอย่างที่เป็นปัญหา ก็ขอเวลาช่วงนี้ในการปฏิรูป และคนเหล่านี้ต้องเป็นคนดี คนเก่ง มีคุณธรรม จริยธรรม เพื่อเป็นอนาคตของชาติในวันข้างหน้า มีเป้าหมายในชีวิต มีจิตสาธารณะ เผื่อแผ่แบ่งปันให้คนอื่น” นายกฯ กล่าว















กำลังโหลดความคิดเห็น