ประธาน สสส.อวดงาน 15 ปีผลงานเพียบ ลดนักดื่ม-นักสูบต่ำกว่า 20% เป็นครั้งแรก หวังดันเพิ่มกิจกรรมทางกายแตะเป้า 80% ในปี 64 นานาชาติยอมรับองค์กรต้นแบบสร้างสุขภาพแนวใหม่ พร้อมก้าวต่อสู่ความเป็นมืออาชีพด้านการสร้างเสริมสุขภาพ
วันนี้ (3 ส.ค.) งทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวในงาน “15 ปี สสส. การเดินทางของความสุข” เนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปี ณ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า การที่ สสส.เป็นหน่วยงานที่มีรูปแบบเฉพาะในการดำเนินงาน ต่างจากหน่วยราชการ ถือเป็นจุดแข็งสำคัญที่ทำให้การเชื่อมประสาน เกิดความคล่องตัวและลดช่องว่างระหว่างหน่วยงาน และภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคราชการ เอกชน วิชาการ ประชาสังคม และชุมชนท้องถิ่นได้ นำไปสู่ความสำเร็จในการทำงานประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะความเข้มข้นในการขับเคลื่อนให้เกิดสังคมปลอดบุหรี่ จนสามารถลดอัตราของผู้สูบบุหรี่ในไทยต่ำลงกว่าร้อยละ 20 เป็นครั้งแรก ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการดื่มของคนไทย ที่นิยมดื่มในงานบุญประเพณีต่างๆ หรือการให้เหล้าในช่วงเทศกาลสำคัญ จนสามารถทำให้ภาพรวมปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ต่อหัวประชากรต่อปีลดลงจาก 8.16 ลิตร ในปี 2549 มาอยู่ที่ 6.95 ลิตร แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ต่อคนต่อปี ในปี 2558 หรือลดลงถึงร้อยละ 14.8 การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนให้สามารถจัดการด้านสุขภาพ ที่เน้นการใช้พื้นที่เป็นฐานในการพัฒนา จนเกิดตำบลสุขภาวะ กว่า 2,800 ตำบลทั่วประเทศ จุดกระแสความตื่นตัวในวงกว้างในการจัดกิจกรรมทางกายทุกวันพุธ ซึ่งเป็นผลจาก “ปฏิญญากรุงเทพ” เพื่อผลักดันมาตรการเพื่อการมีกิจกรรมทางกาย และปัจจุบันกิจกรรมออกกำลังกายประจำสัปดาห์ ได้ขยายไปสู่องค์กรอื่นทั้งภาคเอกชน และท้องถิ่น เชื่อว่าจะเป็นตัวเร่งสำคัญไปสู่เป้าหมายระดับชาติในการเพิ่มจำนวนคนไทยที่มีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอหรือ 150 นาทีต่อสัปดาห์ ให้ได้ร้อยละ 80 ของประชากรในปี 2564
พล.ร.อ.ณรงค์กล่าวว่า สสส.เป็นกองทุนสร้างเสริมสุขภาพจากภาษีบาปที่ได้รับยอมรับในระดับนานาชาติ โดยองค์การอนามัยโลก ยกให้เป็นต้นแบบของกลไกการเงินเพื่อสร้างเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืนประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียใต้-ตะวันออก รวมทั้งสนับสนุนให้ประเทศต่างๆ จัดตั้งองค์กรเช่นเดียวกับ สสส.อย่างจริงจัง มีส่วนสนับสนุนการเกิดกองทุน สสส.ในหลายประเทศ อีกทั้งผลงานที่ผ่านมาเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานต่างๆ เพียงเฉพาะด้านการสื่อสารรณรงค์ได้รับรางวัลระดับประเทศและสากลกว่า 250 รางวัล
ด้าน ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส.กล่าวว่า หากเปรียบ สสส.เป็นต้นไม้ ถึงวันนี้ถือว่าได้เติบโต ผ่านประสบการณ์เรียนรู้มาหลายฤดู ตลอด 15 ปีของการทำงาน สสส.เกิดผลงานที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางสังคม เช่น ร่วมมือกับภาคีขยายเครือข่ายสร้างสังคมไทยไร้ควันบุหรี่ ด้วยการสนับสนุนกฎหมายด้านควบคุมยาสูบต่างๆ และการบังคับใช้ รวมถึง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ที่มีผลบังคับใช้ จนไปถึงการสื่อสารสาธารณะสร้างความตระหนักทางสังคม ด้านการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เกิดการผลักดันกฎหมาย นโยบายเกี่ยวกับการควบคุมแอลกอฮอล์และเป็นวาระแห่งชาติ ทั้ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 แผนยุทธศาสตร์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ พ.ศ. 2552-2562 การเปิดพื้นที่ “ปลอดเหล้า” ตามงานบุญประเพณีงานเทศกาลต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้ภาพรวมปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประชากรไทยลดลง