“บิ๊กโด่ง” ถกกำลังพลสำรอง เร่งพิจารณาสิทธิประโยชน์ตามแนวทางพัฒนากิจการ

รมช.กลาโหม เป็นประธานประชุมรายละเอียดกำลังพลสำรอง กลาโหมเร่งพิจารณาสิทธิประโยชน์ให้นายจ้าง-ลูกจ้าง เดินหน้าแนวทางพัฒนากิจการกำลังพลสำรองช่วง 5-10 ปี

วันนี้ (24 ก.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะรองประธานกำลังพลสำรอง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำลังพลสำรอง (คกส.) ประจำปี 2560 เพื่อพิจารณาสิทธิประโยชน์ให้แก่นายจ้างที่สนับสนุนให้ลูกจ้างซึ่งเป็นกำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหาร พิจารณาสิทธิประโยชน์ให้แก่กำลังพลสำรอง และการเสนอแนวทางการพัฒนากิจการกำลังพลสำรองของกระทรวงกลาโหมในช่วง 5-10 ปี โดยมี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้แทนผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และผู้แทนปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวาระการประชุมครั้งนี้มีเรื่องการพิจารณาสิทธิประโยชน์ให้แก่นายจ้างที่สนับสนุนให้ลูกจ้างซึ่งเป็นกำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหาร 6 ประเด็น เช่น กรณีมีการเรียกกำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหารตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป เห็นควรให้นายจ้างหรือผู้ประกอบการสามารถงดส่งเงินประกันสังคมในช่วงเวลาที่กำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหาร เมื่อลูกจ้างเป็นกำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหาร นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างตามจำนวนวันที่เข้ามารับราชการทหารเท่ากับค่าจ้างในการทำงาน ให้นายจ้างหรือผู้ประกอบการสามารถนำค่าจ้างจำนวนนั้นมาลดหย่อนภาษีได้ นอกจากนี้ ขอให้นายจ้างหรือผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือได้รับสิทธิในการขอใช้สถานที่ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกของกองทัพ เช่น สถานที่สำหรับจัดกิจกรรม อบรมหรือสัมมนา ขอให้แจ้งการเป็นกำลังพลสำรอง และแจ้งเข้ารับราชการทหารของกำลังพลสำรองให้กับนายจ้างหรือผู้ประกอบการทราบล่วงหน้าเพื่อสรรหาบุคคลทดแทนแรงงานที่ขาดไป เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจหรือสถานประกอบการ

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ส่วนเรื่องการพิจารณาสิทธิประโยชน์ให้แก่กำลังพลสำรอง จำนวน 12 ประเด็น เช่น สิทธิได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษกรณีสมัครสอบเข้ารับราชการทหาร มีแนวทางการเลื่อนยศทหารและขั้นเงินเดือนของกำลังพลสำรองอย่างเหมาะสมชัดเจน การขอพระราชทานเพลิงศพและกองทหารเกียรติยศ สิทธิการรักษาพยาบาลครอบคลุมถึงครอบครัวกำลังพลสำรอง สิทธิประโยชน์ด้านทุนการศึกษา พิจารณาเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามหลักเกณฑ์กำหนด เป็นต้น สำหรับการเสนอแนวทางการพัฒนากิจการกำลังพลสำรองของกระทรวงกลาโหมในช่วงระยะเวลา 5-10 ปี มี 8 ประเด็น อาทิ ให้กระทรวงกลาโหมร่วมกับเหล่าทัพดำเนินการกำหนดอัตราตำแหน่งการบรรจุในการเปิดรับสมัครบุคคลเข้าเป็นกำลังพลสำรองให้ครอบคลุมในทุกภารกิจที่กระทรวงกลาโหมต้องการเปิดรับสมัคร รวมถึงให้เพิ่มประสิทธิภาพการฝึกนักศึกษาวิชาทหาร และทหารกองประจำการ ให้กระทรวงกลาโหมส่งเสริมการจัดตั้ง องค์กร ชมรม สมาคมกำลังพลสำรอง เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานกำลังพลสำรอง และเป็นเครือข่ายกำลังพลสำรองของกระทรวงกลาโหมให้ครอบคลุมในทุกจังหวัด

พร้อมพิจารณาทำรูปแบบหรือแผนงานการปลดถ่ายกำลังพลสำรอง เมื่อพ้นเวลาการเป็นกำลังพลสำรองให้ได้รับสิทธิ เข้ารับราชการหรือทำงานในหน่วยงานของรัฐ ให้กระทรวงกลาโหมจัดทำคู่มืออธิบายการใช้ พ.ร.บ.กำลังพลสำรอง พ.ศ. 2558 และกฎหมายลำดับรองแจกจ่ายให้หน่วยที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามการเรียกกำลังพลสำรองเพื่อปฏิบัติราชการในการช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติต่างๆ มณฑลทหารบก หรือหน่วยกำลังพลสำรองไม่ได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณประจำปีเพื่อใช้ในการเรียกกำลังพลสำรองเพื่อปฏิบัติราชการเห็นควรให้มีการจัดเตรียมงบประมาณสำรองเพื่อสนับสนุนการเรียกกำลังพลสำรองเพื่อปฏิบัติราชการให้กับมณฑลทหารบกหรือหน่วยกำลังพลสำรอง