ข่าวปนคน คนปนข่าว : 25 สิงหาฯ พิพากษา“จำนำข้าว” ฟันธง“หนูปู”ยังไม่หนีตามพี่ชาย รอรู้ผลแล้วค่อยไปก็ยังทัน “พี่แม้ว”ลัลล้างานสายตึ๊ด ปั่นกระแสแฟนคลับ - คดีสลายพันธมิตรฯ “ชายจืด”อาการน่าเป็นห่วงสุด ป.ป.ช. สู้ไม่สมศักดิ์ศรี “น้องป๊อด”มีสิทธิ์รอด

ข่าวปนคน คนปนข่าว



** 25 สิงหาฯ พิพากษา“จำนำข้าว” ฟันธง“หนูปู”ยังไม่หนีตามพี่ชาย รอรู้ผลแล้วค่อยไปก็ยังทัน “พี่แม้ว”ลัลล้างานสายตึ๊ด ปั่นกระแสแฟนคลับ

กลายเป็นเดือนชี้ชะตา“คนตระกูลชินวัตร”ของแท้! ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาในคดีละเว้นไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว จนก่อให้เกิดความเสียหาย โดยมี“หนูปู”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ .. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ศาลฎีกาฯ นัดอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่มี บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ กับพวกเป็นจำเลย .. เรียกได้ว่า ในต้องบันทึกไว้ว่า 25 ส.ค.60 เป็นวันประวัติศาสตร์ จบ“มหากาพย์จำนำข้าว”ขนานแท้ .. ที่น่าห่วงก็ผลคดีนี้ เหมือน“บอลน็อคเอาต์ ”ออกได้แค่สองหน้า มุม“เจ๊า”แทบไม่มี แล้วไม่ว่าผลออกทางไหน น้อยคนคงมองน้ำหนักเรื่องความ“ถูกต้อง”แต่คงมองในเรื่องความ “ถูกใจ”มากกว่า .. แต่จะเกิดเหตุวุ่นวายเหมือนที่หลายๆ คนคิดเอาไว้หรือไม่ ต้องรอดู ก็เมื่อศุกร์ที่แล้ว“แฟนคลับหนูปู”ก็ได้ “ลองไฟ” กันไปแล้ว แห่ไปเชียร์เต็มหน้าศาลฎีกานักการเมือง ที่แจ้งวัฒนะฯ ในการไต่สวนนัดสุดท้าย ที่“หนูปู”ก็ตอบแทนด้วย“น้ำตา”แห่งความปลื้มปริ่มอีกครั้ง

ที่แน่ๆ ตำรวจเตรียมเอาแผน“กรกฎ 52 ”มาใช้ในวันที่ 25 ส.ค.นี้กันแล้ว ขณะที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เองก็ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชาวบ้านในคดีนี้ เพื่อป้องกันการสร้างความเข้าใจผิดแต่เนิ่นๆ .. เป็นสัญญาณให้เห็นว่า ฝ่ายความมั่นคงก็ไม่ไว้วางใจสถานการณ์ เพราะบางทีมันอาจมีวิธีการอะไรที่สามารถกดดัน หรือสร้างความวุ่นวายได้นอกเหนือจากการ “ก่อม็อบ”แต่ประเภท “ปิดล้อมศาล”คงไม่มี โทษมันค่อนข้างแรง อาจไม่มีใคร“สู้ราคา” ส่วนที่จับตากันว่า สุดท้าย “หนูปู”จะตัดสินใจเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าตามไปอยู่กับพี่ชายที่ต่างประเทศ ภายหลังแถลงปิดคดีในวันที่ 1 ส.ค.นี้ไปแล้วนั้น .. ดูแล้วคงยังไม่น่าจะก๊อปปี้ “พี่แม้ว”ทักษิณ ชินวัตร ผู้พี่ทุกอย่าง ที่เผ่นตั้งแต่ก่อนศาลตัดสิน แต่ “หนูปู”คงจะเลือกอยู่ประเทศไทยไปจนถึง“วันพิพากษา” นั่นแหละ .. เพราะแม้จะคอขาด แต่โอกาสที่จะหนี ยังไม่ได้ปิดไปเสียทีเดียว เพราะในรัฐธรรมนูญปี 2560 ระบุเอาไว้ว่า หากศาลตัดสินแล้ว จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ และสามารถประกันตัวได้ แต่หลักทรัพย์ประกันค่อนข้างจะสูงลิ่วพอตัว คงไม่สะเทือนขนหน้าแข้ง .. ถ้าจะมุดรั้วออกนอกประเทศ ก็น่าจะหลัง 25 ส.ค.ไปแล้ว อย่างน้อยก็ไม่ให้คนตราหน้าว่าหนีกระบวนการยุติธรรม

ขณะที่ผู้พี่อย่าง“ทักษิณ”นั้น แม้น้องสาวตัวเองที่เป็นคนผลักดันขึ้นมาขาแหย่คุกไปข้างหนึ่งแล้ว ก็ดูจะยังเริงร่า หลัง “อุ๊งอิ๊ง”น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาว โพสต์ภาพผ่านไอจี ingshin21 ซึ่งเป็นภาพ “ทักษิณ”ขณะร่วมงาน Tomorrowland เทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก พร้อมแคปชั่นว่า “When you got the coolest dad in the world @thaksinlive เดินเข้างานชั่วโมงนึง รอตั๋วอีกชั่วโมง กับเพื่อนลูกอีก 10 กว่าคน ไม่บ่นสักคำ แดดร้อนเดินไกล ก็ยังดูพร้อมจะทำให้บรรยากาศดีสำหรับทุกคน ขอบคุณพ่อที่น่ารักนะคะ พามาเที่ยว แล้วยังทำให้ทุกคน happy ตลอดเวลา #พ่อวัยรุ่น #งานย้อนวัย #เที่ยวกับพ่อมันส์กว่าเดิม #tmrlandpresents” ซึ่งก็เป็นสไตล์ของเจ้าตัวอยู่แล้ว ที่ชอบปรากฏตัวช่วงเวลาสำคัญทางการเมือง เพื่อเรียกกระแสแฟนคลับ เวลาคิดจะทำอะไร พอๆ กับน้องสาวที่ช่วยกันปั่นน่าดู

** คดีสลายพันธมิตรฯ “ชายจืด”อาการน่าเป็นห่วงสุด ป.ป.ช. สู้ไม่สมศักดิ์ศรี “น้องป๊อด”มีสิทธิ์รอด

แม้จะไม่ใช่คนตระกูนชินวัตรโดยตรง แต่ก็เป็น “เขยตระกูลชิน”สำหรับ “ชายจืด”สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะได้ระทึกก่อน“น้องปู” หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง “แก๊งออฟโฟร์” นายสมชาย “บิ๊กจิ๋ว”พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี “บิ๊กป๊อด”พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กรณีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยโดยมิชอบ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 51 ในวันที่ 2 ส.ค.นี้ .. “ชายจืด”เองเป็นคนในตระกูลชิน ที่ไม่ได้ถูกคาดหมายเลยว่า จะหลบหนี ทั้งที่สุ่มเสี่ยงเหลือเกิน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะจำเลยร่วมในคดีนี้ ที่ส่งบุญกุศลให้รอดแบบหวุดหวิด .. ไม่ว่าจะเป็น“บิ๊กจิ๋ว”หรือ “บิ๊กป๊อด”โดยรายแรกจัดเป็นพวกคอนเนกชั่นระดับซูเปอร์ ขณะที่รายหลัง พี่ชายสุดที่รัก “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม คงไม่ปล่อยให้ตกระกำลำบากแน่ .. ดูก่อนหน้านี้ตอนบริหารประเทศใหม่ๆ งานแรกๆ ยังคืนตำแหน่ง ผบ.ตร.ให้อยู่เลย .. อีกอย่าง ตั้งแต่ “บิ๊กกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ เป็นประธานป.ป.ช. ทุกคนทำใจเอาไว้กันแล้วบ้างว่า ป.ป.ช. ที่เป็นโจทก์ฟ้องเอง อาจจะสู้ได้ไม่เต็มที่ เพราะมันมีความพยายามจะให้เพิกถอนคดีออกจากศาลฎีกาฯ อยู่ตลอดเวลา มวยชกไม่เต็มพิกัดเมื่อไหร่ ก็ไม่ชนะ


** Thailand ONLY!!มีที่ไหนโพสต์รูปขวดเหล้า-เบียร์ ปรับแพงกว่า“เมาแล้วขับ”

ดราม่าอยู่ในโลกโซเชียล หลังพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ 10 ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ออกขึงขังว่า จะดำเนินคดีกับคนที่โพสต์รูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในโลกโซเชียล เนื่องจากผิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 โดยในมาตรา 32 มีโทษโหด คือ ปรับตั้งแต่ 5 หมื่น ถึง 2 แสนบาท ทำเอางานนี้ชาวโซเชียลบ่นกันระงมว่า ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในบ้านเมือง เพราะขนาดโทษเมาแล้วขับ ยังปรับแค่ 2 หมื่นบาท แต่โพสต์รูปคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลับปรับถึง 2 แสนบาท เรื่องของเรื่อง ถ้าเป็นศิลปินดาราไปถ่ายแบบมีนัย มันก็ไม่มีปัญหาถ้าจะมองว่า เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ แต่ปัญหาคือ เรื่องนี้มันต้องดูเจตนาเหมือนกัน เพราะบางคนก็ถ่ายเพื่อต้องการแชร์ความสุขธรรมดา หากจะต้องมาโดนปรับ 2 แสนบาท ถามว่ามันใช่ หรือไม่

ทางที่ดีควรจะออกมาชี้แจงรายละเอียดว่า อะไรทำได้ ทำไม่ได้ ไม่ใช่ตีขลุมว่า ถ้าถ่ายแล้วมันจะผิดกันหมด อย่างเช่น ถ้านั่งกินอยู่ที่บ้าน อย่างนี้ผิดหรือไม่ หรือถ้าต้องการบอกเพื่อนฝูงว่า กำลังกินสุราอยู่ เพื่อจะอวดกัน ผิดหรือไม่ หรือถ้าไม่ได้ค่าโฆษณา แล้วถ่ายอย่างนี้ ผิดหรือไม่ ปลีกย่อยพวกนี้มันสำคัญ บางทีเรื่องแบบนี้มันวัดกันที่เจตนา ตรวจสอบได้ไม่ยาก ไม่ใช่จะแก้ปัญหาก็พาลครอบจักรวาล ไม่ดูบริบทสังคม อย่างนี้คนด่ามากกว่าคนชมนะโยม .. ไม่ใช่ว่า ไปปกป้องบรรดาคอเหล้า เรื่องไม่ดื่ม ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้าตราบใดการขายสุราในประเทศยังเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย การถ่ายขึ้นเพื่อไม่ได้หวังโฆษณาสินค้า มันก็ไม่ควรจะผิดเช่นกัน คนดื่มสุราไม่ใช่คนเลวเสมอไป เราต้องใช้เหตุและผล ตั้งสติกันให้ดี .

ช.ชฎา