แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ บอกมั่นใจกระบวนการศาลฎีกา ปราม “ประยุทธ์” อย่าห้ามคนไปให้กำลังใจ “ยิ่งลักษณ์” อ้างจะจัดการหน้าศาลลำบาก ค้านคงโทษจำคุกไพรมารีโหวต ชี้ ควรจบแค่ในพรรค
วันนี้ (22 ก.ค.) นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิพากษาคดีจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ วันที่ 25 ส.ค. ว่า กระบวนการพิจารณาเห็นว่า ศาลได้ให้ทั้ง 2 ฝ่ายต่อสู้กันอย่างเต็มที่ หลังจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังมีโอกาสแถลงปิดคดีด้วยวาจา วันที่ 1 ส.ค. และยื่นคำแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษร ในวันที่ 15 ส.ค. ซึ่งวันแถลงปิดคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องเตรียมข้อมูลพิสูจน์ตัวเองเกี่ยวกับนโยบายที่ทำให้ประชาชนอย่างเต็มที่ ตรงนี้จะเป็นสิ่งที่มีความหมายทางการเมืองในอนาคตอย่างแน่นอน การเปิดโอกาสให้ต่อสู้คดีเช่นนี้ จึงมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของศาล
เมื่อถามถึงมวลชนที่มาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หน้าศาล นพ.เหวง ตอบว่า วันที่ 21 ก.ค. มีคนเดินทางมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำนวนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ออกมาพูดข่มขู่ว่า จะดำเนินการกับผู้ก่อความวุ่นวาย ก่อนวันที่ 21 ก.ค. เป็นเหตุผลที่ทำให้คนมากันจำนวนมาก เพราะเขาต้องการให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่แล้ว เมื่อมีคนมาห้ามก็เหมือนยิ่งยุให้คนออกมา อยากให้ข้อคิดแก่ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า วันที่ 1 และ 25 ส.ค. ไม่ควรออกมาห้ามปรามประชาชนอีก ไม่เช่นนั้น คนจะมากันเยอะกว่าวันที่ 21 ก.ค. และการบริหารจัดการหน้าศาลจะลำบาก หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาคนที่เสียหายจะเป็นรัฐบาลอีก
นพ.เหวง ยังกล่าวถึงกรณี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ระบุเกี่ยวกับเรื่องไพรมารีโหวต จะไม่มีโทษยุบพรรค จะลงโทษแค่ปรับ จำคุก นิดหน่อย และตัดสิทธิทางการเมือง ว่า ไพรมารีโหวต ที่กำลังพูดถึงนี้ไม่ได้ทำเต็มรูปแบบเหมือนในสหรัฐอเมริกา จึงอยากเรียกว่า เป็นเพียงการหยั่งเสียงผู้สมัครเท่านั้น ส่วนตัวเห็นว่า ทุกพรรคการเมืองที่อยากเป็นสถาบันทางการเมือง ควรมีการหยั่งเสียงผู้สมัคร และไม่ใช่จำกัดแค่สมาชิกพรรค แต่ควรหยั่งเสียงประชาชนในพื้นที่เลือกตั้ง และเมื่อได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรกไม่คิดจะเป็นเรื่องใหญ่โต แต่เมื่อคนเขียนกฎหมายให้อำนาจ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใบเหลือง ใบแดง ในกระบวนการนี้ จึงมีความวุ่นวายเกิดขึ้น ตอนนี้ปรับลดลงมาแต่ยังคงมีโทษอยู่ถึงขั้นจำคุก จึงไม่เห็นด้วย เมื่อเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในพรรคหากทุจริตก็เป็นการทุจริตพวกเดียวกันเอง สุดท้ายประชาชนก็จะเห็นแล้วเขาคงเลือกพรรคอื่น ดังนั้น จึงอยากให้เรื่องนี้จบแค่ภายในพรรค ไม่ต้องมีโทษจำคุกมาลงโทษอะไร