กรธ.รับหากเพิ่มโทษยุบพรรคในไพรมารีโหวตอาจขัดรัฐธรรมนูญ ยันกฎหมายลูกคดีอาญานักการเมือง ฟันลับหลังตามหลักสากล ส่งผลดีต่อคดี ไม่ได้มีเจตนาเจาะจงเล่นงานใคร
วันนี้ (22 ก.ค.) นายอมร วาณิชวิวัฒน์ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงประเด็นโทษยุบพรรคหากกระทำผิดในขั้นตอนการทำไพรมารีโหวตในร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่มีการตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายว่า กรธ.ไม่มีการคุยถึงเรื่องนี้ และไม่มีข้อเสนอในเรื่องดังกล่าวให้ กมธ.ร่วม 3 ฝ่าย ที่กรธ.ได้เสนอไป คือ เรื่องกระบวนการทำไพรมารีโหวตให้ถูกต้อง และไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง ตามที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.เคยให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้แล้วว่า เรื่องของการทำไพรมารีโหวตว่าจะไม่มีโทษยุบพรรคการเมือง ทั้งนี้ ส่วนตัวคิดว่า หากไปเพิ่มโทษยุบพรรคในกรณีดังกล่าวจะขัดกับรัฐธรรมนูญ 60 ได้ เพราะในรัฐธรรมนูญกำหนดโทษของการยุบพรรคไว้ชัดเจนว่า มีเรื่องใดบ้าง เช่น การล้มล้างการปกครองหรือการกระทำที่กระทบต่อความมั่นคง
นายอมรกล่าวอีกว่า ส่วนร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประเด็นการพิจารณาคดีลับหลังจำเลยและเรื่องการนับอายุความของคดี เรื่องเหล่านี้เป็นไปหลักสากล และจะส่งผลดีกับกระบวนการพิจารณาคดี เพราะมีปัญหาเรื่องผู้ต้องหาหรือจำเลยหลบหนี ทางฝั่งโจทก์ที่ยื่นฟ้องก็ต้องการความเป็นธรรม รวมทั้งฝ่ายพยานอายุก็จะมากขึ้น หลักฐานหรือความจำอาจจะคลาดเคลื่อนได้ แต่เราได้กำหนดให้จำเลยสามารถอุทธรณ์ได้ซึ่งถือว่าเป็นการย้อนหลังที่เป็นประโยชน์ เพราะให้สิทธิแก่เขา เรื่องที่เรากำหนดไว้เหล่านี้เราไม่ได้เจาะจงหรือมีเจตนาที่จะเล่นงานใครตามกระแสข่าว เรากำหนดไว้เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีเท่านั้น