รองหัวหน้าพรรค ปชป. มอง พ.ร.ป. วิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ ตัดปัญหาหลบหนีแล้วกลับมาเสวยสุข ช่วยป้องกันทุจริต
วันนี้ (16 ก.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า ตนเชื่อมั่นว่า เมื่อกฎหมายนี้ออกมาบังคับใช้จะทำให้นักการเมืองบางส่วนที่เข้ามาแสวงหาอำนาจทางการเมืองเพื่อทุจริต คิดมิชอบ ต้องคิดหน้าคิดหลังมากขึ้น เพราะถ้าทุจริตแล้วถูกจับได้ไล่ทันจนมีคดีขึ้นสู่ศาล การพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะไม่สามารถใช้วิธีการหลบหนีคดีจนหมดอายุความแล้วกลับมาเสวยสุขบนทรัพย์สินเงินทองที่ทุจริตได้อีกต่อไป เนื่องจากศาลสามารถพิจารณาคดีลับหลังจำเลย รวมทั้งไม่นับรวมอายุความระหว่างที่จำเลยหลบหนี เท่ากับว่า ถ้าจะหนีก็ต้องหนีกันทั้งชีวิต ถ้าไม่มีกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกมาแบบนี้ ก็อาจจะมีนักการเมืองบางส่วนยอมเสี่ยงทุจริตถ้าไม่ถูกจับก็เสวยสุขจากทรัพย์สินเงินทอง แต่ถ้าถูกจับได้ก็จะใช้วิธีหลบหนีคดีจนหมดอายุความ ทำให้การเอาผิดลงโทษนักการเมืองที่ทุจริตในอดีตที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก การมีกฎหมายในลักษณะนี้จึงน่าจะช่วยทำให้การป้องกันปราบปรามการทุจริตของ นักการเมืองได้ผลมากขึ้น ถึงแม้วิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะเป็นเพียงอีกกลไกหนึ่งของการป้องกันปราบปรามการทุจริตโดยรวมก็ตาม
นอกเหนือจากนั้นถึงแม้จำเลยจะหลบหนีคดี ไม่ยอมมาศาล แต่เมื่อมีการพิจารณาคดีจนมีคำพิพากษาออกมา อาจทำให้สามารถนำทรัพย์สินเงินทองที่ทุจริตไป ซึ่งเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน มาคืนหลวงได้ รวมถึงการเรียกค่าเสียหายต่างๆ ก็อาจดำเนินการต่อไปได้หลังมีคำพิพากษา จึงเชื่อว่า กฎหมายนี้เป็นประโยชน์ต่อการป้องกันปราบปรามการทุจริตมากกว่าเป็นโทษอย่างแน่นอน