อดีต ส.ส.ปชป.แฉ ร.ฟ.ท.ล็อกสเปกเอื้อเอกชน แถมตั้งราคากลางสูงเกินจริง แพงกว่าอินเดีย 240% ทำองค์กรเสียเปรียบ ย้อนส่อทุจริตแบบนี้จะรับผิดชอบรถไฟความเร็วสูงได้หรือ
วันนี้ (3 ก.ค.) นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนได้ออกมาตีแผ่ถึงความไม่ชอบมาพากลในการจัดซื้ออุปกรณ์บำรุงทางของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มาแล้วหลายครั้ง ถึงการที่การรถไฟฯ กำหนดคุณสมบัติทางเทคนิค หรือสเปกที่ไม่เปิดกว้าง เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ผลิตยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง และตั้งราคากลางที่สูงเกินจริง แม้จะทำให้การรถไฟฯ ชะงักไปบ้าง แต่ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงหรือทำให้การจัดซื้อโปร่งใส และเป็นธรรมกับผู้เข้าแข่งขันทุกราย โดยขณะนี้การรถไฟฯ กำลังจะจัดซื้อเครื่องถ่ายทอดกำลังไฮดรอลิกส์ ซึ่งเป็นตัวส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปที่เพลาล้อของรถดีเซลราง จำนวน 5 ชุด วงเงิน 37.343 ล้านบาท หรือชุดละ 7.47 ล้านบาท
นายสามารถกล่าวต่อว่า ในส่วนของการความไม่ชอบมาพากลคือ การรถไฟฯ ระบุว่าต้องเทอร์โบยี่ห้อ Voith รุ่น T211rz ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงยี่ห้อและรุ่นอย่างชัดเจน ไม่มีการกำหนดคุณสมบัติทางเทคนิคแบบกว้างๆ หรือคุณสมบัติเทียบเท่า แต่ได้ระบุยี่ห้อและรุ่นนี้เพียงเท่านั้น ทั้งๆ ที่ยี่ห้อและรุ่นดังกล่าวมีผู้ผลิตเพียงรายเดียวในโลก และมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยเพียงรายเดียวเช่นเดียวกัน ทำให้ผู้ผลิตยี่ห้ออื่นที่มีคุณภาพดีไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ นั่นหมายความว่าการรถไฟฯ ล็อกสเปกให้ผู้ผลิตยี่ห้อนี้และรุ่นนี้เท่านั้น มีการตั้งราคากลางสูงเกินจริง การรถไฟฯ ตั้งราคากลางเครื่องถ่ายทอดกำลัง หรือเทอร์โบ ยี่ห้อ Voith รุ่น T211rz จำนวน 5 ชุด วงเงิน 37.343 ล้านบาท หรือชุดละ 7.47 ล้านบาท ซึ่งแพงกว่าราคาที่การรถไฟฯ ของประเทศอินเดีย ที่ซื้อชุดละ 2.20 ล้านบาท เมื่อปี 2558 หมายความว่าการรถไฟไทยฯ ซื้อแพงกว่าของอินเดียถึง 240 เปอร์เซ็นต์
“ดังนั้น การที่การรถไฟฯ ระบุชัดถึงยี่ห้อและรุ่นของเทอร์โบเช่นนี้ทำให้การรถไฟฯ เสียเปรียบ เนื่องจากไม่มีการแข่งขันทั้งด้านคุณภาพและราคา ส่งผลให้ราคากลางสูงเกินจริง หากการจัดซื้อจัดจ้างในการรถไฟฯ ยังคงมีการล็อกสเปกและการตั้งราคากลางที่สูงเกินจริง ไม่หมดไปเสียที เห็นทีว่าการพัฒนารถไฟไทยจะยังคงริบหรี่ แล้วจะปล่อยให้การรถไฟฯ รับผิดชอบรถไฟความเร็วสูงได้หรือ” นายสามารถระบุ