xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ไฟเขียวไม่ต้องประมูล เลือกเอกชนก่อสร้าง “หอชมเมืองกรุงเทพฯ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ทีมโฆษก รบ. เผย ครม. ไฟเขียว เลือกเอกชนก่อสร้าง “หอชมเมืองกรุงเทพฯ” โดยไม่ต้องใช้วิธีประมูล งบ 7,600 ล้าน เกรงล่าช้า - เอกชนไม่ร่วมลงทุน เนื่องจากเป็นโครงการเพื่อสังคม

วันนี้ (27 มิ.ย.) เวลา 13.50 ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติให้ยกเว้นโครงการพัฒนาที่ดินราชพัสดุ เลขที่ทะเบียน กท.3275 เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร โดยพื้นที่โครงการนี้จะตั้งอยู่ในซอยเจริญนคร 7 ถนนเจริญนคร เพื่อก่อสร้างหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร สามารถดำเนินการคัดเลือกเอกชนได้โดยไม่ใช้วิธีประมูลตามประกาศของคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ สืบเนื่องจากวันที่ 13 ธ.ค. 2559 ครม. มีมติเห็นชอบให้โครงการการก่อสร้างหอชมเมือง เป็นโครงการตามนโยบายของรัฐบาลมีมูลค่า 4621.47 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นต้นแบบในการน้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้ดำเนินโครงการ โดยจัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่มีความโดดเด่นของเอกลักษณ์ไทย และเป็นสัญลักษณ์สำคัญแห่งยุค โดยใช้เทคโนโลยีและความรู้ชั้นสูงทางด้านการออกแบบวิศวกรรม บริหารจัดการที่ล้ำสมัย ตามนโยบายของรัฐบาลไทยแลนด์ 4.0 ทั้งนี้จะมีการให้นักเรียน นักศึกษาเข้ามาร่วมเรียนรู้ในขั้นตอนการก่อสร้าง เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาของเยาวชนของคนไทย ซึ่ง

พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่โครงการนี้ไม่ให้มีการเปิดประมูล เนื่องจากจะทำให้มีความล่าช้า และอาจจะส่งผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ของโครงการ รวมถึงอาจจะไม่มีเอกชนรายใดสนใจดำเนินโครงการเพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่และมีรูปแบบการดำเนินการเชิงสังคม ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่าเอกชนที่จะมาดำเนินการจะต้องจัดทำแผนบริหารการสัญจร การรักษาสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาชุมชนในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง จากนั้นกรมธนารักษ์และกระทรวงการคลังพิจารณา รวมถึงให้นำรายได้ที่เหลือจากการดำเนินการทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่าย ให้นำไปดำเนินการในเชิงสังคมไม่ให้นำมาแบ่งปันกัน นอกจากนี้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้มีความเห็นเพิ่มเติมว่าให้มีการเตรียมการการวางแผนการจัดการจราจร บริเวณพื้นที่ดังกล่าวด้วย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวนี้มีโครงการใหญ่หลายโครงการซึ่งกำลังก่อสร้าง เพื่อบรรเทาการจราจรติดขัด นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการกำชับเพิ่มเติมด้วยว่าการดำเนินการโครงการใหญ่ จะต้องมีความโปร่งใส ให้เกิดความเป็นธรรมและไม่มีการเอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
กำลังโหลดความคิดเห็น