เลขาฯ เครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ขอยกเลิกรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษ ชี้เปิดช่องโกง บีบ ผอ.รับเด็ก แนะให้เข้าด้วยความสามารถตัวเอง รัฐจัดสถานศึกษาให้มีคุณภาพ เชื่อถ้าตัดวงจรได้จะไม่มีข้าราชการวิ่งเต้น จี้เช็กใบเสร็จเผยชื่อคนบริจาคตั้งแต่ 5 พัน-2 ล้าน
วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝั่ง ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ (ภตช.) ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้ยกเลิกการรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษ 7 ข้อ ในปีการศึกษา 2561
นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ภตช.ได้รับร้องเรียนจากผู้ปกครอง และข้าราชการ ว่าปีการศึกษา 2560 มีการเปิดช่องให้มีการทุจริตคอร์รัปชันการรับนักเรียนด้วยเงื่อนไขพิเศษ หรือการรับบริจาคโดยมีวัตถุประสงค์แรกที่นั่งเข้าเรียน ทำให้มีการเลือกปฏิบัติ ทุจริต โดยอาจจะใช้ตำแหน่งทางราชการบีบให้ ผอ.โรงเรียนรับนักเรียนของบุคคลนั้นๆ เข้าเรียน หรือบีบเอาเงินบริจาคเข้าสถานศึกษาหรือเข้าส่วนตัวเป็นจำนวนมาก ปัญหาดังกล่าวจะทำลายความมั่นคงของเยาวชนซึ่งระยะยาวจะทำลายความมั่นคงของชาติอย่างไม่มีทางแก้ไขได้ ทั้งนี้ประเทศไทยควรจะต้องหยุดขบวนการทุจริตตั้งแต่ต้นทางคือการเข้าเรียน โดยให้มีระบบเข้าเรียนเป็นไปด้วยความสามารถตนเอง และรัฐมีหน้าที่จัดสถานศึกษาให้มีคุณภาพเท่าเทียมกัน จัดงบประมาณให้เพียงพอต่อรายจ่ายในการพัฒนาบุคลากรของชาติ ถ้าตัดวงจรพวกนี้ได้ในอนาคตจะไม่มีข้าราชการคนใดวิ่งเต้นเพื่อมาดำรงตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนแข่งขันสูง เพื่อถอนทุนคืนเพราะจะไม่มีวิธีถอนทุนคืนได้อีก
นายมงคลกิตติ์กล่าวต่อว่า ขอให้นายกฯ ยกเลิกการรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษ 6 ใน 7 ข้อในปีการศึกษา 2561 โดยยกเว้นนักเรียนที่ได้คะแนนสอบเท่ากันในลำดับสุดท้าย พร้อมให้นำยอดการรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษไปเพิ่มในส่วนของการสอบทั่วไปเพื่อความเท่าเทียบกันของทุกชนชั้น ขณะเดียวกัน ขอให้ตรวจสอบ เปิดเผยรายชื่อการรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษปีการศึกษา 2560 ของโรงเรียนที่มีอัตราแข่งขันสูงระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา จำนวน 357 โรงเรียน ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบแล้วหากพบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐประสานมาให้ดำเนินการทาง วินัย อาญา แพ่งต่อไป ทั้งผู้ประสานขอและ ผอ.โรงเรียน รวมถึงให้มีการตรวจสอบและเปิดเผย รายชื่อผู้บริจาค จำนวนเงินบริจาคพร้อมใบเสร็จของโรงเรียนที่มีอัตราแข่งขันสูง ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. 2560 ถึงปัจจุบัน ที่มียอดเงินบริจาคตั้งแต่ 5,000-2,000,000 บาท ส่วนการพิจารณาดำเนินการกับนักเรียนที่เกี่ยวข้องกับการบริจาคเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์อย่างไรนั้นขอให้เป็นดุลพินิจของนายกฯ