“ประยุทธ์” ปล่อยอดีตแกนนำ 14 ตุลา พูด ถามอยู่ยาวถึง 10 ปี ได้อย่างไร ยันเลือกตั้งเกิดปี 61 ชี้ ไพรมารีโหวตเป็นการปฏิรูปการเมืองไม่ใช่หรือ บอกต้องปรับเพื่อให้ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ชูคนตอบ 4 คำถามทั่วไทย กว่า 9 หมื่น บอกใช้ภาษาอังกฤษหนัก เพราะสื่อไม่ค่อยเข้าใจ ไม่ได้ดัดจริต ยันเรือนรับรองใหม่เป็นหน้าตาของชาติ บอกเป็นนายกฯ มา 3 ปี ไม่รู้ยิ่งอยู่ยิ่งโง่ลงหรือเปล่า
วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึง บทวิเคราะห์ของ นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ระบุรัฐบาลทหารจะอยู่ถึง 10 ปี ว่า “ก็ปล่อยให้พูดกันไป ท่านพูดมานานแล้วก็ปล่อยให้พูดไป ถ้ามันไม่เกิดประโยชน์อะไรกับผมก็ฟังไปอย่างนั้นเอง เรื่องนี้ก็ฟังไปใครอยากฟังก็ฟัง ให้รู้ว่า เราก็ติดตามทุกๆ คน ใครพูดอะไรมาเราก็ฟัง แค่จะเอามาเป็นสาระอย่างไร ก็แล้วแต่ประชาชน ถามว่า รัฐบาลจะอยู่ยาวถึง 10 ปี อยู่ได้อย่างไร อยู่ได้ถึง 10 ปีก็เก่งแล้ว ในเมื่อกลไกมันคือการเลือกตั้ง ทำไมถึงไม่เข้าใจกันสักที การเลือกตั้งนั้นจะต้องเกิดขึ้นในปี 2561 ชัดเจนกันหรือยัง ไม่ต้องมาถามอย่างอื่นอีก”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเห็นอย่างไรกับการเลือกตั้งแบบไพรมารีโหวต พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องการพิจารณาของกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) สภานิติบัญญัติ (สนช.) ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานก่อน เรื่องนี้ยังไม่ถึงรัฐบาลเลย ซึ่งเมื่อเขาพิจารณากันก็ถือเป็นกลไกของกฎหมายไปว่ากันมา เป็นเรื่องการปฏิรูปทางการเมืองไม่ใช่หรือ เพราะถ้าปล่อยให้ทุกอย่างเหมือนเดิมก็ไม่ได้เรียกการปฏิรูป ดังนั้น หลายอย่างต้องมีการปรับเปลี่ยนไปบ้าง เพื่อให้ได้รัฐบาลในอนาคตที่มีธรรมาภิบาล เรื่องนี้ตนได้บอกไปแล้วทุกอย่างไม่ได้ทำเพื่อตน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตั้ง 4 คำถามของตัวเองในการถามประชาชน ว่า ไม่ใช่ว่าตนเองไม่มั่นใจ ถามไปแล้วพอคนตอบน้อย ตนไม่ได้สนใจว่าจะมีคนไลก์จำนวนเท่าไร จะตอบมาเท่าไรไม่รู้ วันนี้มีรายงานเบื้องต้นทั่วประเทศ 8 - 9 หมื่น แต่พวกสื่อก็สนใจเฉพาะวันแรก แต่จะเท่าไรตนไม่รู้ เพียงแต่ข้อสรุปออกมาว่าต้องการรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เรื่องนี้ตนบอกว่าให้ไปคิดกันเอาเอง ซึ่งตนเองพยายามทุกอย่างที่จะให้ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ก็ต้องไปดูกลไกอื่นด้วย สภาปฏิรูปประเทศ (สปท.) สนช. กรธ. เขาก็ทำให้สิ่งที่ทุกคนต้องการ แต่ก็มีคนจับไปตีเป็นประเด็นมันก็ไปไม่ได้ทั้งหมด แล้วจะปฏิรูปเปลี่ยนแปลงกันได้อย่างไรในทางการเมือง
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชน โดยเป็นการตอบคำถามที่สื่อได้ส่งคำถามผ่านไปยังคณะทำงาน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้อธิบายในหลายประเด็น และใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษค่อนข้างมาก เช่น คำว่า “make different” ซึ่งเป็นเรื่องของความแตกต่าง หรือ “for the future” เป็นการทำเพื่ออนาคต “tailor made” เป็นสิ่งที่ทำเป็นการเฉพาะ พร้อมระบุว่า ที่จำเป็นต้องใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษค่อนข้างมากในวันนี้ เพราะไม่ว่าจะพูดหรืออธิบายอะไร สื่อก็ไม่ค่อยเข้าใจ จึงจำเป็นต้องใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษบ้าง สื่อไม่ค่อยฟังจ้องแต่จะถามอย่างเดียว “forget the past start the new” เหมือนกับที่มีการสร้างอาคารเรือนรับรองในทำเนียบฯ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นหน้าเป็นต่อของประเทศ ไม่ใช่หน้าตาของตน เพราะไม่ได้อยู่จนตาย แต่เป็นเรื่องหน้าตาของบ้านเมือง อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างไม่ใช่จะต้องทันสมัยทั้งหมด ต้องมีการผสมผสานศิลปวัฒนธรรมต้องคิดให้มีความเชื่อมโยง แล้วคำถามจะลดลง มัวแต่ไปถามทีละเรื่องก็ตอบไม่ได้ เพราะถ้าตอบไปก็มีการจับโยงเรื่องนั้นเรื่องนี้
“ที่พูดทั้งหมดไม่ได้ว่าใคร เพราะหลายคนเรียนหนังสือสูงกว่าผม แต่ผมอาจมีประสบการณ์ในการปฏิบัติมากกว่า เพราะผมเป็นทหารมา 38 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 3 ปี ยิ่งอยู่ยิ่งโง่ลงรึเปล่าก็ไม่รู้ เพราะเจอคำถามหลายดอกเข้าไป และที่ผมต้องใช้ภาษาอังกฤษ เพราะบางครั้งพูดภาษาไทยไปแล้วหลายคนไม่รู้เรื่อง ตอบภาษาไทยไปก็ถามกันแล้วถามกันอีก จะได้ไปคิดเรื่องใหม่ๆ กันมาบ้าง ผมไม่ได้ดัดจริต เพราะนายกฯ เองก็ไม่ใช่เก่งภาษาอังกฤษ แต่ก็รู้ศัพท์ของคำบางคำที่จะขับเคลื่อนประเทศ” นายกฯ กล่าว