ข่าวปนคน คนปนข่าว
**“กำนันเทือก” ร่วมแซะเก้าอี้ “ผบ.ตร.” เดินหมากเสี่ยงพาโคน - พาม้า แลก “ขุน”
มันยกร่อง โซ้ยกันแบบไม่ไว้หน้า กับปม “เซ็งลี้เก้าอี้ตำรวจ”ในอารมณ์ที่ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สาวหมัดกลับไปยัง “แก๊ง กปปส.”ดอกแรกซัดไปที่ “กำนันเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิ กปปส. ย้อนไปแรงๆ “เอาคืนเรื่องอะไร เอาเงินคืนหรือ” ขยี้ปม “ตั๋วกำนัน” ที่อาจจะหล่นกลางทาง จนออกมาหัวฟัดหัวเหวี่ยง .. จากกรณีที่มีการเชื่อมโยงว่า คำสั่งย้าย พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) ที่ว่ากันว่า เป็น “เด็กกำนัน” ออกจากตำแหน่ง เอาคืน “กำนันเทือก” ที่น่าจะรู้เห็นเป็นใจให้ วิทยา แก้วภราดัย แกนนำ กปปส. ออกมาจุดพลุการซื้อขายตำแหน่งตำรวจ ในการโยกย้ายประจำปี 2559 ที่เพิ่งประกาศไป .. ส่วนรายของ “วิทยา” ที่รับหน้าเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ก็เจอตั้งแท่นเล่นงานทางกฎหมาย ฐานหมิ่นประมาท “องค์กรตำรวจ”..จากการที่ “วิทยา” ระบุชัดว่า มีการซื้อขายตำแหน่ง ระดับสารวัตร ราคา 1.5 - 2 ล้านบาท ระดับผู้กำกับการ 5 - 7 ล้านบาท พาดพิงไปถึง กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ว่า ต้องบวกราคาเพิ่มไปอีก 2 เท่าเสียด้วย
น่าสนใจว่า เหตุใด “วิทยา” ที่มีดีกรี ส.ส. นครศรีธรรมราช หลายสมัย พ่วงด้วยตำแหน่งอดีตรัฐมนตรี ลูกเก๋าทางการเมืองไม่ยิ่งหย่อนกว่าใคร ถึงเปิดหน้าพูดแบบไม่เว้นระยะให้ตบเกียร์ถอย จนกลายเป็นเหตุให้ถูกฟ้องกำลังจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาลแบบนี้ .. แสดงว่า เกมนี้เดิมพันสูงมาก สูงจน “กำนันสุเทพ”ย่อมเสี่ยงเอา “มือซ้าย - มือขวา” ออกมาแลก .. ทั้งการให้ “มือขวา” อย่าง “วิทยา” เดินหน้าชน ทั้งที่รู้ว่าอาจมีภัยจะมาถึงตัว หรือการที่ “มือซ้าย” อย่าง พล.ต.ท.เทศา ต้องหลุดจากเก้าอี้ ผบช.ภ.8 ทั้งที่กำลังจะเกษียณในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ..
หมาก “พาโคน พาม้า”เข้าไปแลกเช่นนี้ เป้าหมายย่อมต้องเล็งไม่ต่ำกว่า “ขุน” ในที่นี้เป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก “ผบ.แป๊ะ” นั่นเอง .. การที่ กปปส. ผู้ปวารณาตัวเป็นหนึ่งในองคาพยพ คสช. ออกมาขย่ม ทั้งที่รู้ว่าต้องมีสะเก็ดกระเด็นไปกระทบ “รัฐบาลทหาร”ที่ช่วงนี้กระแสตก ก็ยิ่งแสดงว่า มีคนใจร้อน หวังปิดเกมเร็ว .. คะเนตามรูปการณ์แล้ว ก็น่าจะเป็นขบวนการเขี่ยลูก หวังผลไปที่เก้าอี้ “ผบ.ตร.”ที่ตอนนี้มี “ใครบางคน”จ้องตาเป็นมันอยู่
การที่ “ผบ.แป๊ะ” ที่ได้ชื่อว่าเป็นนายตำรวจสายประนีประนอม สวนไปที่ “สุเทพ - วิทยา” แบบจั๋งๆ ก็แสดงว่า รู้แกว - อ่านเกมออกมาว่า อีกฝ่ายมีแผนร้ายอะไรอยู่ในใจ .. ถามว่า ทำไม “วิทยา” ที่ร้อยวันพันปีไม่เคยแตะเรื่องตำรวจ ถึงออกมาเล่นเรื่องนี้ หรืออย่าง “สุเทพ” เองที่ชูธง “ปฏิรูปตำรวจ”หยอยๆ ก็ไม่เห็นจะเป็นเดือดเป็นร้อนกับขบวนการ “เซ็งลี้เก้าอี้ตำรวจ”ที่มีมานานแสนนาน .. เอาแค่ช่วง 2 - 3 ปี ในยุครัฐบาล คสช. ที่มักมีการพูดถึง “วงจรอุบาทว์”ทุกฤดูกาลโยกย้ายแต่งตั้ง ที่ต้องมัดจำเงิน 6 หลัก 7 หลัก เพื่อจับจองเก้าอี้ขอซื้อตำแหน่ง แต่ก็ไม่เห็น “กำนันสุเทพ” จะมีแอกชันอะไรเลย .. จนคนที่ออกมาเปิดโปง “วงจรอุบาทว์” ต่างต้องคดีกันถ้วนหน้า ทั้ง “บิ๊กตุ้ม” พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สมาชิก สปท. ที่เคยจุดพลุเรื่องเดียวกันนี้มาก่อน หรือ สังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิก สปท. ที่โดนข้อหาหมิ่นประมาทจากการร่วมเสวนา “ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร” ค้ำคออยู่ เช่นเดียวกับ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ที่ถูก “บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. แจ้งความดำเนินคดีฐานโพสต์ข้อความทางโซเชียลในเรื่องเดียวกัน .. ส่วน “กำนันเทือก” หรือคนใน กปปส. แบ๊ะๆ มาตลอด 3 ปี จะบอกว่าเพิ่งมารู้เรื่อง คงไม่มีใครเชื่อ
นอกจากจะแบ๊ะๆ ไม่ได้สนใจปฏิร่ง ปฏิรูปจริงจังอะไร ยังเป็น สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ กำกับดูแล สตช. ผู้สร้าง“ตราบาป” ให้กับวงการสีกากีครั้งใหญ่ จากโครงการโรงพักทั่วประเทศ ที่ค้างเติ่งอยู่ หาผู้รับผิดชอบไม่ได้ เรียกว่า “รับประทาน” กันจนบางแห่งกระทั่งเสาเข็มก็ยังไม่มี .. แล้ว ท่านอดีต รองนายกฯสุเทพ ก็น่าจะรู้ดีว่าอำนาจการลงนามแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจนั้น ทาง “นิตินัย” อยู่ที่ ผบ.ตร. เพียงผู้เดียวก็จริง แต่ในทาง “พฤตินัย” นั้นอยู่กับใครกันแน่ .. ในสมัยรัฐบาลนี้ ก็เป็น“ท่านป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้เป็นผู้กำกับดูแล สตช. โดยมีมือไม้สำคัญก็ “พล.ต.ต. คนดัง” นั่นแหละ .. แล้วก็ยังมีกุนซือด้านตำรวจ ที่ไว้ใจได้อย่าง “น้องป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชายร่วมสายเลือด ที่แม้จะไม่ได้ย่างกรายมาเหยียบ “กรมปทุมวัน” แต่ใครๆ ก็พูดกันว่านี่แหละ “ผบ. ตัวจริง” .. แม้การย้ายผู้การภาค 8 อาจกระทบภาพลักษณ์ สตช. พอสมควร แต่ “ผบ.แป๊ะ” ก็จำต้องเชือดไก่ให้ลิงดู ให้เหล่าบิ๊กๆ ที่อยู่เบื้องหลัง “แก๊งเซ็งลี้เก้าอี้ตำรวจ” ให้ดูเป็นตัวอย่าง .. แล้วก็ยังเป็นการถลกหน้ากาก “สุเทพแอนด์โค” ว่า ทำเป็นแกล้งโง่ กะโยนบาปให้ “จักรทิพย์” ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าอาณาจักร สตช. อยู่ในอาณัติของ “พี่น้องวงษ์สุวรรณ” ต่างหาก
** “เจ้าหนี้” เซ็งเป็ด กองทัพไทยชอปปิ้งมันมือ แต่เหนียวหนี้ “ค่าน้ำ - ค่าไฟ - ค่าเน็ต”
เผลอเป็นไม่ได้ .. ที่ประชุม ครม. อังคารที่ผ่านมา อนุมัติโครงการของกองทัพบก ในการจัดซื้อรถเกราะล้อยาง วีเอ็น 1 (VN1) จำนวน 34 คัน จากสาธารณรัฐประชาชนจีน งบประมาณ 2.3 พันล้านบาท ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ไปอีกแล้ว .. มตินี้ดูจะเงียบๆ ไม่ค่อยมีเสียงค่อนแคะ ประมาณว่า ถ้าซื้อเรือดำน้ำ 3.6 หมื่นล้านได้ จะไปซื้ออะไรหลักพันล้านก็คงเป็นเรื่องจิ๊บๆ .. ครั้นทักท้วงไปก็ได้แต่เหตุผลเดิมๆ ว่า อยู่ในแผนการ - ตั้งงบไว้แล้ว ทดแทนของเก่าที่ใช้งานมาหลายสิบปี บลาๆๆๆ .. ส่วนเรื่องซื้อแต่ของจีน ก็เหมาะสมทั้งเรื่องราคา - คุณภาพทุกประการ .. เรื่องผ่านไม่ทันไร “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ก็เตรียมส่ง “บิ๊กเปี๊ยก” พล.อ.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล ผู้ช่วย ผบ.ทบ. เหินฟ้าไปเซ็นสัญญาซื้อขายกันเร็วๆ นี้ .. เห็นกองทัพชอปปิ้งแบบนี้แล้ว ไม่ใช่แค่ประชาชนที่มองตาเขียว บรรดา “เจ้าหนี้” ค่าประปา - ค่าไฟฟ้า - ค่าโทรศัพท์ - ค่าอินเทอร์เนต ก็คงอ่อนใจ ที่เจอ “ลูกหนี้” เหนียวหนี้ แต่ดันมีปัญญาไปชอปปิ้งเป็นพันๆ ล้าน
** “ลำไย” เจอ “ลุงตู่” สกัดดาวรุ่ง “เจ๊เบียบ” ไม่พลาด ขอโหนกระแส “ไหทองคำ” ด้วยคน
พอมีคนดัง กระแสดี“ไอ้ห้อย - ไอ้โหน” ก็โผล่ .. กับเรื่องที่ไม่น่าจะใช่เรื่อง เมื่อ“นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ออกมาตำหนิ ลูกทุ่งสาว “ลำไย ไหทองคำ”ที่โด่งดังจากเจ้าของเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” บวกกับท่าเต้นเด้งๆ ดึ๋งๆ ว่า เกือบจะโชว์ของสงวน จนถูกขยายความเกือบจะกลายเป็น “วาระแห่งชาติ”ไปทุกขณะ .. รายนี้ก็ไม่พลาด “เจ๊เบียบ” ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ที่วันนี้สวมหมวก นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข หลังๆ เงียบไปนาน คงกลัวแฟนคลับคิดถึง ออกมาคอมเมนต์สไตล์ “โลกสวย” ต่อว่าค่ายเพลง ทั้งเรื่องชื่อห้อยท้าย “ไหทองคำ” ว่า ส่อทางเซ็กซ์ แถมด้วยประโยคเด็ด “ค่ายเพลงแต่ละค่ายสร้างขยะขึ้นมา ครอบครัวก็สร้างขยะขึ้นมา” พะยี่ห้อ “เจ๊เบียบ” ตัวจริงเสียงจริง .. ชอบใจ๊ ชอบใจ ที่ทางเจ้าของค่าย “ไหทองคำ เรคคอร์ด” ที่ออกมาสวนทันควันว่า ชื่อ “ลำไย ไหทองคำ” ไม่ดีตรงไหน .. ประมาณว่าอยู่ที่มุมมองความคิดของแต่ละคน คิดว่าดีมันก็ดี คิดว่าต่ำมันก็ต่ำ คิดชั่วๆ มันก็ชั่ว ตรงนี้น่าจะอยู่ที่พื้นฐานของแต่ละบุคคล
ดรามา “น้องลำไย” กลายเป็นประเด็นเลยเถิดไปไกล .. นอกจากคำวิจารณ์ของสังคมที่ว่า “ท่านผู้นำ” น่าจะเอาเวลาไปแก้ไขปัญหาเรื่องอื่น ราคายางพารางี้ ซื้อขายตำแหน่งตำรวจงี้ .. น่าสงสารก็แต่ “หนูลำไย” ที่แม้จะรับปากปรับปรุงท่าทางบนเวทีไม่ให้หวือหวาเกินไป แต่ก็ไม่ทัน เพราะคำพูด “ท่านผู้นำ” ทำเอาทุกภาคส่วนตื่นตัว ลิ่วล้อก็เด้งรับกันเป็นทอดๆ กลายเป็น “โชว์ต้องห้าม”ไปเสียแล้ว .. ล่าสุด ได้ข่าวว่าไปเปิดคอนเสิร์ตที่ต่างหวัด มี “เจ้าหน้าที่รัฐ” มากดดันไม่ให้แต่งตัวโป๊ - เต้นท่าหวาดเสียว จนนักร้องสาวน้อยแทบไม่มีกระจิตกระใจจะร้องจะเต้น .. ผู้ใหญ่ก็นะ เด็กทำมาหากินดีๆ น่าจะปล่อยให้เด็กมันมีทางเดินบ้าง
ช.ชฎา