xs
xsm
sm
md
lg

ปลายปี 59-60 “ประยุทธ์” เร่งสปีดเต็มพิกัดลุ้นเข้าวินชนะขาด !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา



วันนี้หากหักมุมมาติดตามความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ก็จะพบว่าน่าติดตามเป็นพิเศษ ทั้งในในแง่มุมทางการเมืองและทิศทางอนาคตของเขาในวันข้างหน้าอีกด้วย

แน่นอนว่า ในเวลานี้ถ้าสังเกตจะพบเห็นมาตรการ และการเคลื่อนไหวหลายอย่างประดังเข้ามาในช่วงปลายปี ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาเป็นชุดแบบต่อเนื่อง ทั้งมาตรการช็อปช่วยชาติที่นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีที่ประสานไปกับการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงส่งท้ายปี มาตรการในการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยตามเกณฑ์ที่ลงทะเบียนเอาไว้รายละตั้งแต่ 1,500 - 3,000 บาท ผ่านทางธนาคารของรัฐ และเริ่มโอนเงินเข้าบัญชีกันไปแล้ว โดยมาตรการหลังนี้ใช้งบประมาณเกือบสองหมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ทางรัฐบาลก็ขอความร่วมมือกับบริษัทห้างร้านต่างๆ ให้ลดราคาสินค้าแบบ “ลดกระหน่ำ”

ทุกมาตรการดังกล่าวไม่ต้องบอกก็ต้องเข้าใจได้ว่า นี่คือ มาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจทิ้งทวนในช่วงสิ้นปี เพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวโตตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ว่าน่าจะไม่ให้ต่ำว่าร้อยละ 3.2 เพราะหากไม่ถึงเป้าหมายดังกล่าว มันก็ย่อมถูกมองว่า “ล้มเหลว” เช่นเดียวกัน เพราะต้องยอมรับเช่นเดียวกันว่าเมื่อผลสำรวจออกมาทุกครั้งตรงกันว่าชาวบ้านต้องการให้แก้ไขปัญหาเรื่อง “ปากท้อง” เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ซึ่งที่ผ่านมา ยังถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลยังสอบไม่ผ่าน

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านนมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ก็มักจะอ้างว่าสาเหตุเป็นเพราะมีปัญหาหมักหมมมานาน ต้องทยอยแก้ไขต้องใช้เวลา ซึ่งที่ผ่านมาก็สามารถคลี่คลายลงไปได้มากแล้ว หากเปรียบเทียบมันก็เหมือนกับการ “ปรับฐาน” สักระยะหนึ่งแล้วค่อยก้าวเดิน จากนั้นเมื่อมั่นคงแล้วก็ค่อยพุ่งทะยาน โดยรัฐบาลมั่นใจว่าในปีหน้า คือ ปี 2560 บรรยากาศด้านการลงทุนจะดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากภาคเอกชนที่เคยชะลอการลงทุนมานานจนถึงขั้นติดลบ ก็จะมีความมั่นใจและกล้าลงทุนมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลได้เริ่มลงทุนในโครงการขนาดใหญ่จำนวนมาก โดยเฉพาะในปีหน้าจะมีการประมูลและลงนามในสัญญาก่อสร้างจำนวนมาก ทั้งถนน ราง น้ำและอากาศ เรียกว่าปีหน้า “จัดชุดใหญ่” กันเลยทีเดียว

ขณะเดียวกัน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่วชาติได้ปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ หรือที่เรียกว่า “ประยุทธ์ 4” จำนวน 12 ตำแหน่ง ซึ่งมีทั้งตั้งเข้ามาใหม่และสับเปลี่ยนเก้าอี้ในตำแหน่งสำคัญ แต่ที่น่าจับตาก็คือ นี่คือ การปรับคณะรัฐมนตรีแบบที่เรียกว่า การปรับแบบ “กระชับอำนาจ” กระชับเก้าอี้ของนายกรัฐมนตรีมีเป้าหมายหวังผลในการสร้างผลงานด้านเศรษฐกิจให้เห็นผลในช่วงเวลาที่เหลืออย่างจำกัด นั่นคือ ประมาณอีกปีเศษเท่านั้น

สังเกตให้ดีในระดับตัวหลักจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านความมั่นคงที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังมั่นคงในตำแหน่งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง รวมไปถึงทีมเศรษฐกิจ ก็ยังมี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกฯ เป็น “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” เหมือนเดิม รวมไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ยังเป็น อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ เช่นเดิม

ที่บอกว่าการปรับคณะรัฐมนตรีคราวนี้ มีเป้าหมายเพื่อเน้นการขับเคลื่อนทางด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก ก็คือ นอกเหนือจากยังใช้ทีมเศรษฐกิจชุดเดิมแล้ว ยังมีการเสริมทีมเข้ามาให้เพื่อให้การทำงานเข้าขากันมากขึ้น

ตำแหน่งหลักๆ เริ่มจาก อุตตม สาวนายน มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นี่ก็ถือว่าอยู่ในทีมเศรษฐกิจเดียวกัน สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่เลื่อนชั้นมาจากที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มานั่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่จะมาช่วยกันขับเคลื่อนในเรื่องโครงการนวัตกรรม โครงการเอสเอ็มอี การประสานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมที่มี พิเชษฐ ดุรงคเวโรจน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการ เพื่อก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิตอล ผลักดัยประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 ตามแผน

รวมไปถึง สุวิทย์ เมษินทรีย์ ที่ข้ามมาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ หากคาดเดาไม่ผิดพลาดเขาน่าจะได้รับมอบหมายให้กำกับดูแล “กองทุนหมู่บ้าน” ซึ่งนาทีนี้ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

ส่วนอีกทีมก็คือ “ทีมนายกฯ” ที่มี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คราวนี้ก็มีรัฐมนตรีช่วยว่าการคนใหม่ ก็คือ นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ซึ่งหากพิจารณาจากแบ็กกราวนด์ก่อนหน้านี้เธอเคยเป็นปลีดกระทรวงพาณิชย์ที่เพิ่งเกษียณมาไม่กี่วัน แน่นอนว่า จากตำแหน่งดังกล่าวก็ย่อมเคยประสานงานทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรฯมาก่อนในเรื่องสินค้าเกษตรก็ย่อมเข้าใจและรู้งานกันดี

ดังนั้น หากบอกว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวมาทั้งหมดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล้วนมีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างผลงานในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังต้องลุ้นกันหนักในปีหน้าด้วยเวลาอันจำกัด แต่ขณะเดียวกัน นี่เป็นการ “กระชับอำนาจ” เป็นทางเลือกเดี่ยวที่ต้องทำ หากต้องการไว้ซึ่งชื่อให้จดจำในวันหน้า สร้างความประทับใจให้ชาวบ้าน เนื่องจากเวลานี้ชื่อชั้นของเขาติดลมบน เพียงแต่ว่าหากสามารถสร้างผลงานในเรื่องปากท้องได้ดีก็จะพุ่งทะยานไปอีกหลายเท่า ยาวไป !!
กำลังโหลดความคิดเห็น