คปต.ส่วนหน้า เผยแผนงานพัฒนาสามเหลี่ยม ศก.คืบหน้าไปมาก รอนายกฯ ตั้งคนรับผิดชอบแทน “สุวพันธุ์” แจงชงโรดแมปแก้ไฟใต้ ครม. เชื่อทุกอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นในไตรมาส 2 ปี 60 มุ่งสร้างบรรยากาศให้ออกจากความขัดแย้ง แก้ช่องว่าง รบ.-ปชช. แย้มคงมีข่าวดีความสงบ หลังเห็นการทำงาน วางแผนให้ ปชช.ดูแลครบทุกตำบลและถอนกำลังทหาร
วันนี้ (22 ธ.ค.) นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขานุการคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดภาคใต้ หรือ คปต.ส่วนหน้า กล่าวว่า แผนงานพัฒนาสามเหลี่ยมเศรษฐกิจคืบหน้าไปมาก ได้รับรับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ มีหน่วยงานนำเสนอแล้ว 89 โครงการ ใช้งบประมาณ 1,700 ล้านบาทในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจพร้อมตั้งคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่พิเศษนี้ โดยรอนายกรัฐมนตรีตั้งคนรับผิดชอบแทนนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ อดีต รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ไปเป็น รมว.ยุติธรรมแล้ว ซึ่งตนเป็นรองประธานคณะกรรมการชุดดังกล่าว
นอกจากนี้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ได้ตรวจเยี่ยมการทำงานครบทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมให้มีการจัดตั้งอนุกรรมการในพื้นที่เป็นพิเศษ เพื่อกำหนดแผนงานในพื้นที่ให้สอดคล้องแนวพัฒนาของคณะกรรมการ ปรับเปลี่ยนงบประมาณให้ทันในแผนพัฒนาปี 2560 ทั้งนี้ โรดแมปของ คปต.ส่วนหน้า ได้มีการประชุมในพื้นที่กับภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้อยู่ช่วงปลายทางแล้ว เพื่อนำเสนอ ครม.ต่อไป เพื่อให้แผนงาน 7 ภารกิจ ที่ช้าทำให้เร็วขึ้น ยากทำให้ง่าย ไม่เกิดก็ทำให้เกิดซึ่ง คปต.ส่วนหน้า เป็นหน่วยงานเสริม มีอำนาจคุมแผนงานและงบประมาณของแต่ละกระทรวงในภารกิจชายแดนภาคใต้ ต้องให้คณะผู้แทนอนุมัติ
พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล กล่าวว่า ตนดูแลงานแสวงหาทางออกความขัดแย้ง ให้สูญเสียน้อยที่สุด ร่วมกับ พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อนสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีภารกิจสร้างบรรยากาศให้ออกจากความขัดแย้ง อีกทั้งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบให้กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติสุขที่บ้าน อยู่ดีกินดี มีความยุติธรรม และแก้ปัญหาช่องว่างระหว่างรัฐกับประชาชนในการดำเนินงานต่างๆ จะต้องมีการพัฒนาสัมพันธ์ รัฐต้องฟังคนในช่องว่างถึงการแก้ปัญหา
โดยงานในส่วนนี้คืบหน้าไปมาก คงจะมีข่าวดีทยอยออกมาถึงความสงบสันติที่กำลังคืบคลานออกจากความไม่สงบ ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ข่าวดีจากสัญญาณ คือ เด็กๆ ที่ชอบวาดรูปยิงปืนใส่ทหาร ความขัดแย้ง เกลียดชังในพื้นที่ การพยายามต่อสู้ ช่วงสมัยตนเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 โดยหลังได้แต่งตั้งเป็นคณะผู้แทนกลับไปไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ ประชาชนที่เห็นการทำงานของภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนา โดยการพูดคุยสันติสุขในการสร้างบรรยากาศที่ทุกคนได้มาระบายความอึดอัดบนเวทีโดยภายใต้กฎหมายในรัฐธรรมนูญ
พล.อ.ปราการ ชลยุทธ ผู้แทนพิเศษของ คปต.กล่าวว่า ตนดูแลส่วนรักษาความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน ได้มีการถ่ายโอนทหารไปยังประชาชนหรือกำลังพลกึ่งทหาร โดยตั้งแต่ปี 2556 ได้ตั้งชุดคุ้มครองประจำตำบลขึ้น 3 ปีที่ผ่านมาเป็นที่ยอมรับในพื้นที่ การทำงานมีประสิทธิภาพ ดูแลร่วมกับกำลังในพื้นที่ได้ 80% แต่อีก 20% ต้องทำแผนงานเพิ่ม ขณะนี้ได้รับความไว้วางใจ 109 ตำบล จาก 177 ตำบล โดยจะตั้งให้ครบทุกตำบล ให้ประชาชนดูแลพื้นที่ และถอนกำลังทหารประจำการในพื้นที่ออก
ทั้งนี้ ปัญหายาเสพติดมีการตั้งหมู่บ้านต้นแบบ ชุมชนเข้มแข็งแล้ว 300 หมู่บ้าน 20 ตำบล โดยมีแผนสร้างหมู่บ้านต้นแบบอีก 200 หมู่บ้าน มีจิตอาสาในพื้นที่ 400 คน
พล.อ.สุทัศน์ จารุมณี หัวหน้าสำนักงานผู้แทนพิเศษ กล่าวว่า ตนได้จัดทำโรดแมปตามนโยบายนายกรัฐมนตรี และ คปต. โดยได้รับคำแนะนำจากคณะผู้แทนทุกคน ส่งให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.)
หากพิจารณาจากคำสั่ง คสช. 51/2559 หน้าที่ของ คปต.ส่วนหน้า จะทำหน้าที่บูรณาการความมั่นคง การพัฒนา และความเข้าใจของประชาชนครอบคลุม เข้มข้นเฉพาะพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนเข้มแข็ง เรียกว่า 3 ข. โดยโรดแมปจะเป็นการบูรณาการจาก 7 แผนงาน เชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นรูปธรรมมากขึ้นในไตรมาส 2 ปี 2560 โดยเฉพาะแผนพัฒนาสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ หนองจิก-เบตง-สุไหงโก-ลก