“สมชัย” เผย กกต.เตรียมทำหนังสือคัดค้านผู้ตรวจการเลือกตั้งให้ กรธ.พิจารณา ระบุไม่ตอบโจทย์การเมืองแทรกแซงไม่ได้ แนะควรมี กกต.จังหวัดเช่นเดิม เผยทาบตัวแทน 3 องค์กรอิสระเป็นกรรมการสอบจริยธรรม “ธีรวัฒน์”
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารกลาง กล่าวว่า ในการประชุม กกต.วันที่ 20 ธ.ค.ที่ประชุมได้มีการหารือถึงร่าง พ.ร.ป.กกต. โดยจะให้ทางสำนักงาน กกต.ทำความเห็นอย่างเป็นทางการกลับไปยังคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในประเด็นผู้ตรวจการเลือกตั้งเพียงประเด็นเดียว โดยเห็นตรงกันว่ายังควรเป็นรูปแบบของ กกต.จังหวัด แต่ให้เป็นเบี้ยประชุมไม่ใช่เงินเดือนประจำ มีที่มาจากองค์ประกอบหลากหลาย เน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนแต่ละจังหวัด และวาระอาจจะสั้น 4 ปี
นายสมชัยกล่าวด้วยว่า กรณีที่มีการกล่าวหาว่า กกต.จังหวัดเอนเอียงการเมืองท้องถิ่นเป็นการพูดแบบลอยๆ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ส่วนผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ว่าจะไม่เชื่อมโยงการเมืองก็เป็นการคาดหวังที่ไม่รู้ว่าความจริงแล้วจะเป็นอย่างไรเพราะฝ่ายการเมืองที่คิดเอาประโยชน์ก็สามารถแทรกแซงได้อยู่แล้ว จึงไม่สามารถรับประกันได้ว่าผู้ตรวจการเลือกตั้งจะปลอดการเมือง
ส่วนที่ตั้งมาทำงานชั่วคราวแค่สองเดือนทำให้ความรับผิดชอบที่จะทำงานอย่างต่อเนื่องไม่มีและไม่มีความผูกพันกับองค์กร อาจกลายเป็นช่องทางให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาเสนอประโยชน์โดยมองประโยชน์เฉพาะหน้าเพราะไม่มีการลงโทษทางวินัย หากออกก็ไม่เสียหายเพราะทำงานแค่สองเดือนไม่เกิดผลกับตัวเอง ทำให้กลไกดังกล่าวอาจไม่ตอบโจทย์ว่าการเมืองจะไม่เข้ามาแทรก ในทางตรงกันข้ามการจะหาคน 400-500 คนมาทำงานจะเป็นได้ยากยิ่งโดยเฉพาะคนที่มีงานประจำ และคนเหล่านี้ไม่อยู่ประจำในพื้นที่ไม่รู้จักพื้นที่อาจไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งจะเป็นปัญหาในเชิงปฏิบัติ แต่ก็แล้วแต่ กรธ.ว่าจะรับฟังหรือไม่ หากยืนยันแนวคิดเดิม กกต.ก็พร้อมรับไปปฏิบัติ โดยงบประมาณจัดการเลือกตั้งปีหน้าได้เตรียมส่งกรอบงบประมาณไปให้สำนักงบประมาณแล้ว มียอดรายการเกี่ยวข้องกับผู้ตรวจการเลือกตั้งเข้าไปแล้วด้วย ทั้งนี้จะทำประเด็นงบประมาณเปรียบเทียบระหว่าง กกต.จังหวัดกับผู้ตรวจการเลือกตั้งไปให้ กรธ.พิจารณาด้วย
นายสมชัยยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการตั้งคณะกรรมการสอบจริยธรรมนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองว่า มีการทาบทามตัวบุคคลที่จะทำหน้าที่เป็นกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว โดยตามกฎหมายต้องมีตำแหน่งเทียบเท่า หรือสูงกว่าบุคคลที่จะถูกสอบข้อเท็จจริง ดังนั้นจึงทาบทามกรรมการองค์กรอิสระอื่นมาทำหน้าที่เป็นกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง 3 คน ซึ่งมีการยอมรับโดยวาจาครบถ้วนแล้ว รอกระบวนการทางธุรการในเชิงจดหมายตอบรับอย่างเป็นทางการจากองค์กรอิสระเหล่านั้น ซึ่ง กกต.ไม่สามารถเร่งรัดได้ว่าจะเมื่อใด แต่เมื่อได้จดหมายตอบกลับมาครบถ้วนแล้ว ประธาน กกต.จะลงนามแต่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงต่อไป