xs
xsm
sm
md
lg

ตามดู รมต.หน้าใหม่ บิ๊กตู่ 4 “วีระศักดิ์ ฟูตระกูล” รมช.บัวแก้ว เคยยื่น ป.ป.ช.รวย 68 ล้าน-ส่วน 8 รมต.หน้าเก่ารวยกว่าร้อยล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตามดูรัฐมนตรีหน้าใหม่ ที่เคยยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินกับ ป.ป.ช. พบ “วีระศักดิ์ ฟูตระกูล” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เคยยื่นสมัยเป็น สนช. มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 84 ล้านบาท เคยนั่งที่ปรึกษาเซเว่นอีเลฟเว่น รับเงินเดือนปีละ 9.6 แสนบาท มีทรัพย์สินเป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดัง “โรงเรียนธำรงวิทย์” ย่านพญาไท ส่วนอีก 3 ราย ยังไม่เคยยื่น เผย 8 รัฐมนตรีหน้าเก่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินเหยียบร้อยล้าน

ภายหลัง มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี และแต่งตั้งรัฐมนตรี ส่งผลให้มีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยพบว่า เป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่ 4 คน นอกจากนี้ ยังเป็นรัฐมนตรีหน้าเดิมที่โยกสลับเก้าอีถึง 8 คน

ทั้งนี้ พบว่า มีรัฐมนตรีหน้าใหม่ที่เคยยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบกรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพียง 1 ราย ก่อนนั่งตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และ รัฐมนตรีหน้าเก่า 8 คน ที่สลับเก้าอี้ก็เคยยื่นบัญชีทรัพย์สินมาแล้ว ประกอบไปด้วย

นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ลาออก 11 ธันวาคม 2549 ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี 1 ตุลาคม 2557 (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) และ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ (นายดอน ปรมัตถ์วินัย) 15 กันยายน 2558 และ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ (นายดอน ปรมัตถ์วินัย) 20 กันยายน 2559 การศึกษา B.A. (Political Science), University of Washingtonประเทศสหรัฐอเมริกา, M.A. (Foreign Affairs), University of Virginia ประเทศสหรัฐอเมริกา และนักบริหารระดับสูง รุ่นที่ 6, หลักสูตร วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปรอ.)

ทั้งนี้ เคยแจ้งทรัพย์สินก่อนดำรงตำแหน่ง สนช. เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2557 พบว่า มีรายได้ต่อปีจากเงินบำนาญ 566,823.60 บาท เป็นที่ปรึกษาบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร เซเว่นอีเลฟเว่น (7-Eleven) มีรายได้ 960,000 บาท ไม่มีรายจ่าย พบว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 84,872,669.91 บาท โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่อยู่ในบัญชีเงินฝาก 17 บัญชี มีโฉนดที่ดินกว่า 27 แห่ง ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล นอกจากนั้น ยังมีทรัพย์สินเป็นโรงเรียนเอกชน ชื่อ โรงเรียนธำรงวิทย์ ตั้งอยู่ในเขตพญาไท กทม.

นอกจากนี้ การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีหน้าเดิมในครั้งนี้ ที่โยกสลับกระทรวงกัน ยังพบว่า มีการรายงานทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. ในวาระต่างๆ จำนวน 8 ราย ประกอบด้วย

1. นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี มาจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม พบว่า ได้แจ้ง ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง รมช.คมนาคม เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 58 และแจ้งว่า คู่สมรส ที่มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 68,294,221 บาท ซึ่งทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุน ที่ดิน โรงเรือน และสิ่งปลูกสร้าง เงินฝาก น่าสังเกตว่า นายออมสิน และคู่สมรส ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินว่าไม่มีเงินสด เงินให้ กู้ยืม ยานพาหนะ สิทธิสัมปทาน ทรัพย์สินอื่นๆ เลย แต่แจ้งว่ามีหนี้สินเป็นเงินกู้สินเชื่อบ้านจากธนาคารกสิกรไทย มูลค่า 2,367,475 บาท

2. นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี มาจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พบว่า ได้แจ้ง ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 58 แจ้งว่า ตนและคู่สมรสมีทรัพย์สินเบ็ดเสร็จ 106,079,903 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 8,742,777 บาท โดยมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 97,337,126.10 บาท มี บ้าน 2 หลัง (บางแค - ป้อมปราบศัตรูพ่าย) 11.428,000 บาท สิทธิและสัมปทาน (ประกันชีวิต) 15,815 บาท ทรัพย์สินอื่น 26,525,000 บาท มีหนี้สิน 8,742,777 บาท มีรายได้ 8,807,565 บาท เป็นเงินเดือน 3,254,240 บาท ค่าเบี้ยประชุม/โบนัส 5,446,297 บาท ฯลฯ นอกจากนี้ ยังแจ้งว่า มีวัตถุโบราณ 139 ชิ้น รวมมูลค่า 22,975,000 บาท เช่น กลองลองซอง 5 แสนบาท หินแกะสลัก 1 แสนบาท เสาหินจีน 1 แสนบาท กระเบื้องเขมร 2 แสนบาท ชิ้นส่วนเสลี่ยงโบราณ 2 แสนบาท ครุฑเขมร 2.5 แสนบาท หนุมานเขมร 5 แสนบาท เทวรูปเขมร 3 แสนบาท พระพิฆเนศเขมร 1 แสนบาท ราชรถศิลปาชีพ 3 แสนบาท ปลาไม้โบราณจากพม่า 1 แสนบาท เป็นต้น

3. นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มาจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยพบว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2557 แจ้งกับ ป.ป.ช. ว่า มีทรัพย์สิน 68,436,865 บาท เป็นของนายพิเชฐ 51,424,398 บาท ของคู่สมรส 16,959,115 บาท ของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 53,351 บาท ไม่มีหนี้สิน มีทรัพย์สินอื่นๆ เช่น สร้อยคอทองคำ 47 เส้น สร้อยข้อมือ 11 เส้น

4. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มาจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยพบว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2557 แจ้งกับ ป.ป.ช. ว่า มีรายได้พร้อมกับคู่สมรสจากเงินค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง 492,000 บาท เงินประจำตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง 252,000 บาท เงินตอบแทนพิเศษของข้าราชการผู้ได้รับเงินเดือนขั้นสูง 31,103 บาท เงินค่าตอบแทนรายเดือนสำหรับข้าราชการเท่ากับอัตราเงินประจำตำแหน่งตามระเบียบฯ 252,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากเงินเดือน 837,720 บาท เงินเพิ่มพิเศษสำหรับการสู้รบ 35,040 บาท เงินปันผลหุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์ (สขช.) 22,600 บาท และเงินเฉลี่ยคืนเงินกู้พิเศษเพื่อการเคหะสงเคราะห์ 5,701 บาท ขณะที่คู่สมรส ไม่ได้แจ้งรายได้ โดยพบว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน จำนวน 21,568,860.10 บาท ในจำนวนนี้ นายสุวพันธุ์แจ้งอย่างละเอียดด้วยว่า มีไอโฟน 4 1 เครื่อง ไอโฟน 5 เอส 2 เครื่อง และไอแพดมินิ 1 เครื่อง

5. นางอรรชกา สีบุญเรือง แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มาจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม โดยถูกเปลี่ยนมานั่ง รมว.วิทย์ หลังจาก นายกรัฐมนตรีใช้ ม.44 จัดการกับเมืองแร่ทองคำ ไม่กี่วัน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2558 แจ้ง ป.ป.ช. ว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 78,135,266 บาท พบว่า ทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นเงินให้กู้ยืม จำนวน 39,333,333 บาท ที่ปล่อยกู้ให้กับบริษัทรุ่งเรืองมหาเศรษฐี จำกัด เลขที่ 951 หมู่ 7 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เพียงรายเดียว อย่างไรก็ตาม นางอรรชกา ได้แจ้งทรัพย์สินซึ่งเป็นบ้านเลขที่ 915 หมู่ 7 ซอยแบริ่ง 6 ถ.สุขุมวิท 107 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ (ใช้เป็นที่ตั้งโรงแรมมนต์มณี ของบริษัท รุ่งเรืองมหาเศรษฐี) ขณะที่ทรัพย์สินอื่นๆ ซึ่งเป็นเครื่องประดับ อาทิ กำไรข้อมือบุษราคัม เข็มกลัดเพชร เข็มกลัดพลอยสี แหวนล้อมเพชร ตุ้มหูล้อมเพชร ทั้งสิ้น 31 รายการ โดยไม่ได้แจ้งมูลค่า แต่ระบุว่า เครื่องประดับเหล่านั้นไม่ได้ประเมินค่า เพราะเป็นมรดกจากมารดา

6. หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2557 แจ้ง ป.ป.ช. ว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,315,332,228 บาท ในจำนวนนี้มีที่ดินมูลค่าสูงถึง 1,152,473,825 บาท ซึ่งอยู่ในย่านนางเลิ้ง เขตดุสิต ย่านคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ อ.ปากพลี จ.นครนายก เงินฝาก 90,126,364 บาท นอกจากนี้ ยังมีของโบราณอีกหลายรายการ อาทิ กระดุมเสื้อโบราณ สิงโตทอง ชุดพระเครื่อง - พระหยกล้อมเพชร กำไลแกะลายลงยา ตลับแกลายลงยา - รูปผลไม้

7. นายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยเมื่อคราวเข้ารับตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ แจ้ง ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2558 มีทรัพย์สินพร้อมคู่สมรส มีทรัพย์สิน 38,619,713 บาท หนี้สิน 736,548 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 37,883,183 บาท ทั้งนี้ นายธีระเกียรติ ยังเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์จิตวิทยาเพื่อการศึกษา มูลนิธิยุวสถิรคุณ

8. นายอุตตม สาวนายน แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อดีตเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปลี่ยนชื่อมาเป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในปัจจุบัน ซึ่ง นายอุตตม ได้ลาออกไปก่อนหน้านี้ โดยล่าสุดพบว่า แจ้งทรัพย์สินหนี้สิน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2559 กับ ป.ป.ช. หลังพ้นจากตำแหน่ง มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินจำนวน 207,044,135.24 บาท โดยส่วนใหญ่เป็นเงินฝากกว่า 10 บัญชี เฉพาะบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาทองหล่อ กทม. มีถึง 16,766,153.62 บาท มีโฉนดที่ดินย่านตลาดนางเลิ้ง เขตป้อมปราบ กทม. มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท จำนวน 1 งาน 23 ตารางวา มีรถสปอร์ตหรู มูลค่า 15 ล้านบาท อยู่ 1 คัน ยังพบว่ามีการร่วมลงทุนทำธุรกิจที่ดินบริเวณเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 59 นายอุตตม สาวนายน แจ้งก่อนนั่ง รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 168,550,175 บาท โดย นายอุตตมะ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 38,493,960 บาท

ทั้งนี้ ก็ต้องดูว่าทรัพย์สินอดีตรัฐมนตรี ทั้ง 8 คน ก่อนจะถูกสลับมานั่งรัฐมนตรีใหม่ จะมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นหรือลดลงเท่าไร??ที่จะต้องยื่นต่อ ป.ป.ช. ในเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีหน้าใหม่อีก 3 คน ที่ยังไม่เคยยืนบัญชีทรัพย์สินก็ต้องยื่นในคราวที่จะเข้าดำรงตำแหน่งในเร็วๆ นี้ ประกอบไปด้วย

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นอดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ และกรรมการในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นชาวลำปาง วัย 58 ปี ชื่อเล่นว่า “ปาน” จบคณะรัฐศาสตรบัณฑิต (การคลัง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท MA (Econs.) Western Michigan University จากสหรัฐอเมริกา รับราชการมาตั้งแต่ปี 2525 ตำแหน่งเศรษฐกร 3 กองนโยบายการพาณิชย์ เคยประจำอยู่ที่นครเจนีวา และ กรุงบรัสเซลล์ ชำนาญด้านการเจรจาระหว่างประเทศ ปี 2557 ในรัฐบาลที่แล้วเลยถูกเด้งเข้ากรุเป็นผู้ตรวจกระทรวง หลัง คสช. ทำรัฐประหาร คสช. จึงแต่งตั้งเป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ โดยงานสำคัญคือ “ตรวจสอบคดีทุจริตจำนำข้าว” ของรัฐบาลชุดก่อน และเป็นผู้ลงนามคำสั่งยึดทรัพย์ในคดีนี้ ก่อนมารับตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในครั้งนี้

นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เคยเป็นประธานบอร์ด ร.ฟ.ท. ประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ อดีตประธานกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย และ ประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ การศึกษา ปริญญาตรี เศรษฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ปริญญาโท บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ปริญญาเอก ด้านเศรษฐศาสตร์ University of Texas at Austin ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็น ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาตลาดหุ้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ปี 2537, กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี, ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นางอรรชกา สีบุญเรือง) ที่ปรึกษาคณะสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน และสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) 5 ตุลาคม 2558, กรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ 11 พฤศจิกายน 2558 เริ่มต้นทำงานกับบริษัท ไวท์กรุ๊ป จำกัด(มหาชน), ด้านการตลาดบริษัท ไทยโมเดิร์น พลาสติก (มหาชน) จำกัด, กรรมการผู้จัดการบริษัท ธันยธร จำกัด, ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะไรท์ พาวเวอร์ จำกัด (ธุรกิจขายตรง MLM), ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ข้าวกล้องสด จำกัด ผู้จัดจำหน่ายข้าวกล้องสดที่ใช้ชื่อแบรนด์ว่า ไวทาไรซ์ (VITA Rice ไวทาไรซ์), เลขาธิการสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร, อุปนายกสมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย, ประธานสมาคม Y-ME สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย, นายกสโมสรไลออนส์เมืองเอก, ที่ปรึกษาโรงพยาบาลยันฮี, สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ด้านสังคม, กรรมาธิการปฏิรูปสังคม ชุมชน เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส และกรรมาธิการปฏิรูปค่านิยม ศิลปะ วัฒนธรรม จริยธรรม และการศาสนา


กำลังโหลดความคิดเห็น