“บิ๊กป้อม” โวยสื่อกุข่าวไขก๊อกหวังให้ รบ.พัง ลั่นอยู่ต่อ ต้อนรับตัวแทนแคนาดา-จีน

“ประวิตร” ต้อนรับ ทูตแคนาดา แจงข้อมูลโรดแมป ยินดีขยายการลงทุน ก่อนพบรมช.วิเทศสัมพันธ์จีน ย้ำ การปฏิรูป ชมไทยสงบสุข - ย้อนสื่อกุข่าวเอง ยันไม่ลาออก รับคุยนายกฯแล้ว ปัดเครียด ลั่นไม่ป่วยคงทำงานต่อ ไม่ไหวนายกฯก็ปลดเอง ชินเจอกระแสข่าว แต่ ปชช. ตจว. ไม่ชินด้วย ชี้ นี้เป็นเหตุต้องปฏิรูปสื่อ ติงเสนอข่าวไม่สร้างสรรค์ ซัดบางสื่อขายข่าวแบบนี้ใช้ไม่ได้ ชี้หวังให้รบ. พัง

วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. นี้ เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ต.รังสรรค์ เยาวรัตน์ ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า นาง Donica Pottie (โดนิกา พอตตี) เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคำนับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ทั้งนี้ ได้กล่าวขอบคุณแคนาดาที่มีสาส์นแสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และแสดงความยินดีต่อการขึ้นทรงราชย์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และกล่าวย้ำว่า ความพร้อมของไทยในการดำเนินความร่วมมือกับแคนาดาในทุกระดับ และหวังให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือน และการหารือในระดับสูง เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน พร้อมยินดีที่จะขยายความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน ทั้งนี้ รอง นรม. และ รมว.กห. ได้ให้ข้อมูลการดำเนินการตาม Roadmap ของรัฐบาล และแนวทางการปฏิรูปประเทศ เพื่อให้แคนาคาเข้าใจถึงเหตุผลของการออกกฎระเบียบต่างๆ ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้น เพื่อให้การขับเคลื่อนการปฏิรูปเดินหน้าไปได้

พล.อ.ต.รังสรรค์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ เอกอัครราชฑูตแคนาคา กล่าวว่า แคนาดามีความเข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทย และรัฐบาลแคนาดาปัจจุบันให้ความสำคัญในประเด็นระหว่างประเทศ โดยพร้อมที่จะปรับความร่วมมือและพัฒนาความสัมพันธ์กับไทย พร้อมทั้งชื่นชมและยินดีที่ไทยมีพัฒนาการที่ดีและยึดมั่นในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาผู้ลี้ภัย การทำประมง ขณะที่แคนาดาก็เผชิญกับปัญหาต่างๆ เช่นเดียวกัน จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกัน และเห็นว่าทั้งสองฝ่ายควรแสวงโอกาสที่จะพัฒนาความร่วมมือในเรื่องที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในเวทีระหว่างประเทศให้มากขึ้น

พล.อ.ต.รังสรรค์ กล่าวอีกว่า จากนั้น เวลา 10.45 น. นาย Zheng Xiaosong (เจิ้ง เสี่ยวซง) รมช.กระทรวงวิเทศสัมพันธ์ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคำนับ พล.อ.ประวิตร ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและมิตรภาพที่ดีของทั้งสองประเทศที่มีมายาวนาน และผลการเดินทางเยือนจีน ระหว่างวันที่ 12 - 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ นาย หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน พล.อ.ฉาง ว่านฉวน รมว.กลาโหมจีน และนายเมิ่ง เจี้ยนจู้ สมาชิกกรมการเมือง หน.คณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมาย คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยครั้งนั้นได้มีการหารือในหลายประเด็น ทั้งเรื่องการท่องเที่ยว สินค้าการเกษตร ปัญหาการก่อการร้าย ซึ่งได้รับผลสำเร็จเป็นอย่างดี

พร้อมกันนี้ ได้กล่าวยืนยันถึงการเดินหน้าขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศของรัฐบาล เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ทั้งนี้ นาย Zheng ได้กล่าวขอบคุณที่ไทยส่งเสริมความร่วมมือทางทหารและความมั่นคง และเห็นว่า ประเทศไทยภายใต้การบริหารของรัฐบาลปัจจุบัน มีความสงบสุข จีนในฐานะเพื่อนบ้านที่ดีมีความยินดีต่อสถานการณ์ที่สงบสุขของไทยในปัจจุบัน แม้ทั้งสองประเทศจะมีการปกครองที่แตกต่างกัน แต่ที่ผ่านมาไทยและจีนต่างมีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกระแสข่าวลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า สื่อเป็นคนเขียนข่าวเอง จะมาถามตนได้อย่างไร เพราะก่อนที่ตนจะเข้ามาดำรงตำแหน่งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นคนมาถามตน และตนก็อาสาเข้ามาทำงาน แล้วอยู่ดีๆ จะมาลาออกได้อย่างไร ไม่มีเหตุผลเลย อีกทั้งตนก็ไม่เคยทะเลาะกับนายกฯ เพราะเราได้ทำงานร่วมกันมา แต่สื่อชอบเอาไปเขียนกัน อยากให้รัฐบาลพัง ใช่หรือไม่

“ก่อนหน้านั้น ผมไม่เคยป่วยก็ไปลงข่าวว่าป่วย เอาไปเขียนกันไม่เห็นเป็นเรื่องเลย มันไม่มีอะไร ซึ่งผมทำงานทุกอย่างตามที่ นายกฯสั่ง โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงก็มีความก้าวหน้าที่เรื่อง รวมถึงเรื่องพิเศษ ผมก็เป็นประธานทั้งนั้น” พล.อ.ประวิตร กล่าว

เมื่อถามว่าได้คุยกับนายกฯถึงกระแสข่าวดังกล่าว หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าว ตนคุยกับนายกฯทุกวัน เรื่องข่าวนี้ก็คุย เมื่อถามย้ำว่า นายกฯยืนยันใช่ไหมว่าไม่ให้ลาออก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คงไม่ต้องให้นายกฯยืนยัน เพราะไม่ได้มีอะไร จะมายืนยันทำไม ถ้าตนไม่ไหวก็จะบอกนายกฯเอง รวมถึงบอกผู้สื่อข่าวด้วยว่าตนไม่ไหวแล้ว แต่ข่าวดังกล่าวทำให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะที่อยู่ต่างจังหวัดที่ไม่ทราบข้อเท็จจริง เข้าใจผิด อย่างไรก็ตามตนพูดแต่เรื่องจริง

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ส่วนที่มองว่าตนเป็นเป้า หากไม่อยู่ จะทำให้รัฐบาลอ่อนแอนั้น คิดว่าคงไม่ถึงขนาดนั้นว่าตนเก่ง แต่ทำงานมานานประมาน 50 ปี ตั้งแต่จบโรงเรียนนายร้อย ตนทำงานมาทุกเรื่อง เจอคนมาทุกอย่าง พร้อมทั้งยืนยันว่า ตนไม่ได้เครียดถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่าจะออกหรือไม่ออก เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับตน ถ้าแข็งแรงและไม่ป่วยก็จะทำงานต่อ แม้ว่าอายุจะ 72 ปีแล้วก็ตาม ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า จะทำงานต่อ หากยังอ่านหนังสือ และยังสามารถเดินทางไปพูดคุย เจรจากับต่างประเทศได้

เมื่อถามอีกว่ารู้สื่อน้อยใจหรือไม่ ที่โดนกระแสข่าวให้ลาออก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่น้อยใจ และตกใจกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะทราบดีว่าสื่ออยากขายข่าว ซึ่งตนชินกับข่าวลักษณะนี้ แต่คนอื่นเขาไม่ชินด้วย โดยเฉพาะประชาชนตามต่างจังหวัด อีกทั้งไม่มองว่าเป็นเรื่องการเมือง แต่มองว่าคนที่เป็นเป้าโดยโจมตีไม่ใช่ตนเพียงคนเดียว แต่คนอื่นๆ ก็โดนเช่นกัน เพียงแต่ตนโดนหนักหน่อยเท่านั้น เพราะมองว่าตนทำงานมาก หรือมีอำนาจมากไปหรือไม่ อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่าตนไม่ใช้อำนาจอะไรเลย

“มีกระแสข่าวว่า ผมลาออกก็มีคนโทร.มาหาผม มาถามว่าจะลาออกทำไม จะออกเรื่องอะไร แต่ก็ยังมีคนที่ไม่เชื่อข่าวดังกล่าว และเมื่อเช้าผมก็ไม่ได้เดินทางไปพบนายกฯ เพราะไม่มีเหตุผลที่ต้องไปพบ สื่อก็ไปคิดกันเอง เพราะเป็นแบบนี้ไงถึงต้องปฏิรูปสื่อมวลชนไปในทางที่สร้างสรรค์ เพราะเสนอข่าวแบบนี้ไม่สร้างสรรค์ หาก ครม. ประกาศออกมา ไม่มีชื่อตนใน ครม. โดยมีคนอื่นมาทำหน้าที่แทน แบบนี้ถึงจะเสนอข่าวได้ แต่ข่าวนี้ยังไม่มีอะไรเลย มีเพียงกระดาษเปล่าๆ ก็พูดได้” รองนายกฯ ประวิตร กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า มีการเมืองเกี่ยวข้องหรือไม่ หาก พล.อ.ประวิตร ไม่อยู่จะทำให้นายกฯ ไม่มั่นคง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามอีกว่า ยังยืนยันว่า ทำงานในตำแหน่งรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนคงไม่บอกว่าทำไหว หรือไม่ไหว ถ้านายกฯเห็นว่าตนทำอะไรไม่สำเร็จ ทำไม่ไหว นายกฯคงปลดตนเอง

“เขาก็จะบอกว่าพี่ เรื่องนี้ให้คนนั้นทำ แต่ตอนนี้ นายกฯยังไม่ได้พูดอะไร ผมก็คุยกับนายกฯทุกวัน ก็ไม่ได้พูดเรื่องพวกนี้เลย มีแต่คุยเรื่องงาน สำหรับการปรับครม.ต้องไปถามนายกฯ ถ้าผมทราบก็ไม่สามารถบอกได้” พล.อ.ประวิตร กล่าว และว่า ส่วนที่นายกฯจะมาเยี่ยมกระทรวงกลาโหมนั้น คงไม่ต้องเตรียมการอะไร

ก่อนหน้านั้น พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ว่า ข่าวมั่ว เขียนได้อย่างไรว่า นายกฯปรับ ครม. และ พล.อ.ประวิตร ปิ๋ว สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการตัดขาตน และจะทำให้รัฐบาลอ่อนแอ อยากให้ตนออก เล่นกันแบบนี้ได้อย่างไร ความจริงแล้ว ไม่มีอะไรเลย ตนยังทำงานได้แม้อายุมากแล้วก็ตาม

“เพราะผมแข็งใช่ไหม ถึงเกิดเรื่องแบบนี้ ถ้าผมอ่อน สื่อจะมาสนใจผมไหม สิ่งที่เกิดขึ้น เอาผมไปขายข่าวกัน ตอนนี้ลือกันทั่วประเทศ ผมอยากถามใครเขียนและพาดหัวข่าวนี้ ใช้ไม่ได้ ผมอยากพูดบ้าง สื่อบางสำนักใช้ไม่ได้ หาข่าวกันไม่ได้ ก็มาเล่นผม สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการขายข่าว ทำอย่างนี้ได้ไง ผมทำงาน ครั้งก่อนก็ลือว่า ผมป่วยเข้าโรงพยาบาล เอาผมทุกเรื่อง มีผมคนเดียวโดน คนอื่นไม่โดน เล่นผมกับนายกฯ 2 คน” พล.อ.ประวิตร กล่าว

เมื่อถามถึงกระแสข่าวปรับ ครม. พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ปรับ ครม. ไม่กี่คน ก็ว่ากันไป ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีผู้พิจารณา ตอนนี้ทำงานเหลืออีก 1 ปี เมื่อถามว่า จะฟ้องหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ฟ้อง ตนจะดูเองทั้งหมด ใครเขียนข่าวโจมตีตน เบื้องต้นทราบแล้วว่าข่าวออกมาจากไหนแล้วมาประโคมข่าวว่าตนจะลาออกจาก ครม.

เมื่อถามย้ำ จะอยู่ในตำแหน่งครบตามโรดแมป คสช. ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ผมไม่ยืนยัน เรื่องของผม ไม่ต้องยืนยันกับใคร ผมทำงานของผม ทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ออก เท่านั้นเอง แต่ผมยังทำได้และทำได้เยอะมาก ผมทำงานเยอะ จึงทำให้คนไปเขียนว่า ผมกับนายกฯขัดกัน เป็นวิธีการของสื่อในการขายข่าว ครั้งก่อนทีหนึ่งลือว่าผมป่วยเข้าโรงพยาบาล แล้วผมเป็นอะไร ก็ไม่เป็นอะไรเลย สิ่งที่เกิดขึ้น ผมมองว่าอยากให้รัฐบาลพัง ถ้าผมออกสักคน ก็หลุดไปเยอะ เพราะผมดูแลทั้งทหารและตำรวจ” พล.อ.ประวิตร กล่าว