“บิ๊กป้อม” หารือ รมว.กลาโหมจีน ขยายความร่วมมือให้คลอบคลุมด้านต่างๆ ให้มากขึ้น ขณะที่จีนแบะท่าตั้งโรงงานอุตสาหกรรมซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์ทางทหารในไทย พร้อมหนุนฝึกร่วมของสองประเทศ
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม (กห.) แถลงผลการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน (สปจ.) ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะว่า ในการเข้าพบ พล.อ.ฉาง ว่านฉวน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สาธารณรัฐประชาชนจีน ของ พล.อ.ประวิตร ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันถึงการขยายความร่วมมือทางทหารระหว่างสองประเทศให้มีขอบเขตครอบคลุมความร่วมมือด้านต่างๆ ให้มากขึ้น
“พล.อ.ประวิตร เสนอความเป็นไปได้ถึงความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ที่ประสงค์ให้จีนสนับสนุนการจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์ทางทหารในไทย พร้อมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีและขีดความสามารถในการพัฒนาและดูแลอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผลิตในจีนที่มีประจำการในประเทศไทย และภูมิภาค พร้อมกับเชิญชวนและเสนอให้จีนพิจารณาความพร้อมในการเข้าร่วมฝึก Cobra Gold ผ่านความร่วมมือด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การบรรเทาภัยพิบัติ และความร่วมมือทางการแพทย์ทหาร ขณะเดียวกันได้แสดงถึงความพร้อมของไทย ที่จะทำหน้าที่ร่วมกับจีนในฐานะประธานร่วมคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการก่อการร้ายภายใต้กรอบการประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน และ รมว.กลาโหม ประเทศคู่เจรจาในวงรอบ ปี 60-62”
โดย พล.อ.ฉาง ว่านฉวน ได้กล่าวแสดงความขอบคุณและพร้อมสนับสนุนให้กองทัพของทั้งสองประเทศแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางทหารในสาขาต่างๆ ให้มากขึ้น โดยเสนอให้มีการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน 3 ประการ ประกอบด้วย 1. ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับต่างๆ 2. ความร่วมมือในการฝึกร่วม ทั้งทวิภาคี ไตรภาคี และพหุภาคี 3. ความร่วมมือกันด้านการป้องกันประเทศ พร้อมทั้งแสดงท่าทีเชิงบวกและการสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อข้อเสนอของไทยทุกเรื่องโดยเฉพาะการจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์ทางทหารในไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผลิตในจีนที่มีประจำการในไทยและภูมิภาค โดยสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดตั้งคณะทำงาน ประสานงานและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ผ่านกลไกทางการทูตทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตรเดินทางเข้าเยี่ยมคำนับนายเมิ่ง เจี้ยนจู้ง สมาชิกกรมการเมือง หัวหน้าคณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมาย คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ที่ทำการ จงหนานไห่ โดยได้แลกเปลี่ยนหารือกันถึงความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข่าวกรองเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติระหว่างไทยกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายมีความกังวลร่วมกันในประเด็นความมั่นคงทั้งการก่อการร้าย แนวคิดความรุนแรงสุดโต่ง
สำหรับความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) ถือเป็นภัยคุกคามที่สามารถสร้างความเสียหายทั้งระบบเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงได้เป็นวงกว้าง ไทยเสนอขอให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ร่วมกัน สำหรับความร่วมมือในการดูแลผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนั้น หน่วยงานความมั่นคงสองฝ่ายจะร่วมประสานงานกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะด้านการข่าวเพื่อการเฝ้าระวังและแจ้งเตือน และเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการสกัดกั้นตามแนวชายแดน ทั้งนี้ ไทยพร้อมให้การดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชนควบคู่กับความมั่นคงของรัฐ