“ประยุทธ์” แนะ ปชช. อ่านหนังสือ อย่าเสพแต่ข่าวโซเชียล ชี้ ครูต้องสอนคิดวิเคราะห์ อย่าให้แต่ท่องจำ ส่วน ปชต. ต้องเป็นแบบอัตลักษณ์ของไทย ยัน พ.ร.บ. คอมพ์ ไม่ใช่ ซิงเกิล เกตเวย์ แจงออกมาเพื่อปกป้องสิ่งผิด กม. จาก ตปท. ไม่ได้นำเครือข่ายทั้งหมดเข้ามาในกล่องเดียวกัน ไม่ได้ดูทุกคน ดูเฉพาะเรื่อง ขออย่าบิดเบือนปลุกระดมผิด กม. เจอคดี อวยพรให้ทัพช้างศึกพลิกกลับมาชนะอินโดฯ
วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่ จ.สงขลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวกับประชาชนชาว จ.สงขลา และใกล้เคียง ที่มาต้อนรับระหว่างลงพื้นที่ ว่า ทุกวันนี้ที่สามารถพูดได้ทุกเรื่อง เพราะอ่านหนังสือทุกชนิด แต่หากคนไม่อ่านหนังสือ เสพเฉพาะข่าวในโซเชียลมีเดียคงไม่พอ เพราะผ่านการกลั่นกรองที่น้อยเกินไป ดังนั้น จึงอยากให้ทุกคนอ่านหนังสือทุกหน้า ทุกเล่ม เพราะคนเขียนหนังสือถ่ายทอดเรื่องราวออกมาจากจิตวิญญาณ กลั่นกรองออกมาจากสมอง ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการคิดวิเคราะห์ดีขึ้น คนเป็นครูจะต้องสอนให้นักเรียนคิดวิเคราะห์ให้ได้ อย่าสอนเพียงการท่องจำ เพราะจบมาจะไม่มีงานทำ วันนี้ป้าๆ ลุงๆ ทั้งหลายเป็นกำลังให้ลูกหลานอยู่แล้ว ตนหวังว่า ท่านจะอยู่เห็นสิ่งที่ผมพูดนั้นสำเร็จ การเป็นประชาธิปไตยก็ต้องเป็นแบบอัตลักษณ์ของเรา มีความสงบเรียบร้อยสันติ เผื่อแผ่แบ่งปัน มีธรรมาภิบาล โปร่งใส ยุติธรรม เหล่านี้คืออัตลักษณ์ประเทศไทยที่เคยมีมาตลอด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกัถึงกรณีที่มีการคัดค้านการออก พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ว่า อีกเรื่องหนึ่งคือ เรื่อง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ที่เป็นประเด็นหลักอยู่วันนี้ ยืนยันว่า ไม่ใช่ซิงเกิล เกตเวย์ และไม่ใช่อะไรทั้งสิ้น เพราะการบริการของเครือข่ายเหล่านี้มาจากต่างประเทศ เมื่อเข้ามาอยู่ในประเทศไทย แล้วมีปัญหา เช่น ผิดกฎหมายมีเว็บไซต์ที่ไม่ถูกต้อง ขายของที่เป็นอันตรายต่อเด็ก แล้วจะทำอย่างไร เพราะเครือข่ายมาจากต่างประเทศ ซึ่งพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ออกมาเพื่อปกป้องสิ่งเหล่านี้ ถ้าเกิดปัญหาขึ้น เจ้าหน้าที่ก็จะไปเฉพาะเจาะจงว่ามีที่มาอย่างไร จำเป็นจะต้องเพื่อป้องกันปัญหาในวันหน้า เช่น ก่อการร้าย แฮกเกอร์ ฉ้อโกง ถ้าเป็น ซิงเกิล เกตเวย์ ก็หมายความว่า เครือข่ายทั้งหมดเข้ามาในกล่องเดียวกัน แต่รัฐบาลไม่ได้ทำตรงนั้นเลย วันนี้มีการบิดเบือน ขอให้เข้าใจด้วย
“ใครไม่เข้าใจกดไลก์เป็นแสน ไม่เข้าใจกลับไปเป็นเครื่องมือ ผมเช็กแล้วว่าไม่เคยมีนโยบายให้ไปทำ ซิงเกิล เกตเวย์ คือ เอาใส่กล่องเดียวกัน ประเทศเราทำไม่ได้ มีเพียงว่า ผิดตรงไหนก็ต้องไปดูตรงนั้น จะได้ระงับเพราะมันเร็ว เพราะไม่กี่วินาทีมันไปทั้งโลก ทั้งเว็บไซต์ละเมิด เว็บโป๊ ไปดูสิ ถ้าไม่ทำ มันจะแพร่หลายขึ้น เป็นอันตรายกับท่านและลูกหลาน เช่น กินยาผิดบ้าง สังคมเสื่อมโทรม แต่หากท่านใช้ถูกต้องคุยกับคนโน้นคนนี้ใครจะไปคุมท่าน ไม่ใช่ว่าจะไปดูคนทั้ง 70 ล้านคน แต่จะดูเฉพาะเรื่อง ถ้าแค่นี้ทำไม่ได้แล้วจะอยู่กันอย่างไร เพราะวันนี้ก็รู้อยู่แล้ว ว่า มีเว็บละเมิดอยู่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีกฎหมายแบบนี้ และเราปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า การคัดค้าน พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ซึ่งอยู่ในชั้นการพิจารณาของ สนช. นั้น ขออย่าบิดเบือนกันและถ้าทุกคนเข้าใจว่ามันคืออะไร กฎหมายเขียนมาเพื่ออะไรใครจะต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งไม่ใช่ทุกคนและไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะไปล้วงความลับจากใครได้ทุกคน มันต้องมีเหตุผล และขอให้เลิกพูดเรื่องซิงเกิลเกตเวย์ เพราะไม่เกี่ยวกัน ยืนยันว่า รัฐบาลยังไม่ได้ทำซิงเกิล เกตเวย์ เพราะหากกระทำต้องเอาอย่างมารวมในกล่องเดียว แต่หาข้อมูลตรงไหนที่เข้ามาแล้วเป็นพิษภัยต่อสังคมก็ต้องดูต้นทางมาอย่างไรมาจากไหน ไม่เช่นนั้น เราจะเช็กอะไรไม่ได้เลย แล้ววันหน้าถ้ามีการยุยงปลุกปั่น มีการสนับสนุนการก่อเหตุรุนแรง ซึ่งวันนี้โลกกำลังแคบลง จะไปอยากรู้ทำไม อย่าคิดว่าจะไปละเมิดต้องคิดว่าผู้ละเมิดกฎหมายจะดีกว่า ผู้ไม่ละเมิดจะไปเดือดร้อนทำไม และหากปลุกระดม โดยผิดกฎหมายก็จะต้องดำเนินการซึ่งต้องดูที่เจตนาด้วยวันนี้โซเชียลมีเดียอันตรายมาก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการแข่งขันฟุตบอลรายการซูซูกิคัพ 2016 ระหว่างไทย - อินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา ว่า ได้ดูการแข่งขัน เห็นตอนแรกเห็นนำ 1-0 ก็เชียร์ แต่ทีมเพื่อนบ้านเราแข็งแรง แต่ไม่เป็นไรช้างต้องอดทน และการแข่งขันในรอบต่อไปที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ก็ขอให้ไทยชนะ ขอให้ตั้งใจชนะไว้ก่อน ต้องชนะให้ได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกำลังพัฒนาด้านการกีฬาให้เป็นระบบ โดยตนคิดว่าควรมีการตั้งมหาวิทยาลัยกีฬา รวมวิทยาลัยพลศึกษา เข้ามา