หน.คสช. ใช้ ม.44 สั่ง “ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์” พ้นตำแหน่ง ผอ.สมศ. ไปประจำสำนักนายกฯ ต่อ หลังโยกเข้ากรุเมื่อ 8 เดือนที่แล้ว ส่วน “คมศร วงษ์รักษา” รักษาการ ผอ.สมศ. ให้พ้นตำแหน่งหลังเกษียณอายุราชการ พร้อมสั่ง บอร์ด สมศ. เร่งสรรหาและแต่งตั้งผู้อำนวยการ คาดปม “ประเมินมหาวิทยาลัย” ต้นตอถูกเด้ง
วันนี้ (13 ธ.ค.) ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๗๓/๒๕๕๙ เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษา (เพิ่มเติม) ความว่า
ตามที่มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๓/๒๕๕๙ เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ลงวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ ให้ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ การศึกษา ระงับการปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว และกำหนดผู้รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงาน รับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา จนกว่าหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะมีคำสั่ง เป็นอย่างอื่น นั้น
โดยที่ข้อเท็จจริงขณะนี้ปรากฏว่า นายคมศร วงษ์รักษา รองผู้อำนวยการสำนักงาน รับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษา จะพ้นจากตำแหน่งรองผู้อำนวยการเพราะเหตุอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ จึงจำเป็นที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะได้มีคำสั่งเพิ่มเติมเพื่อให้การบริหารงานภายในสำนักงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อันจะเป็นประโยชน์ต่อความต่อเนื่องในการปฏิรูปการศึกษาของประเทศ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ นายชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา พ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา นับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับโดยไม่มีความผิดตามผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ที่แต่งตั้งตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ ๖๙/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๒๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ และให้ไปเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๖๘/๒๕๕๙ เรื่อง มาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานอื่นของรัฐและการกำหนด กรอบอัตรากำลังชั่วคราว ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๙
ข้อ ๒ ให้นายคมศร วงษ์รักษา รองผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา พ้นจากการรักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษาเพราะเหตุอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ ในวันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
ข้อ ๓ ให้คณะกรรมการบริหารสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา ดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาขึ้นแทน ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๔๓
ข้อ ๔ ในกรณีเห็นสมควรนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบ แห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้
ข้อ ๕ คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ ๑๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
อนึ่ง เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีประกาศคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 23/2559 เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ว่า เพื่อให้การพัฒนาระบบการประเมินคุณภาพภายนอกและการประเมินผลการจัดการศึกษา อันเป็นกลไกสำคัญของการตรวจสอบคุณภาพของสถานศึกษาในแต่ละระดับ เป็นไปตามความมุ่งหมายและหลักการตามที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปการศึกษาของประเทศ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ นายชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ระงับการปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวจนกว่าหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ข้อ 2 ให้ นายคมศร วงษ์รักษา รองผู้อำนวยสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) จนกว่าหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ข้อ 3 คำสั่งให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มีรายงานว่า การตั้งข้อสังเกตถึงคำสั่งตาม ม.44 ครั้งนั้น ว่า ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มีความเห็นว่า สมศ. ควรหยุดประเมินมหาวิทยาลัยชั่วคราวแล้วมาคิดประเมินใหม่ จึงเสนอ รัฐมนตรีให้เห็นตรงกับมหาลัย แต่ สมศ. ไม่ยินยอม ทั้งนี้ ปัญหาการประเมินของ สมศ. คือ สร้างภาระให้มหาวิทยาลัยมากขึ้น, กฎเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินมีปัญหา และคุณภาพมหาวิทยาลัยไม่ได้ดีขึ้น จึงคาดว่าทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา จึงเสนอให้เปลี่ยนผู้อำนวยการ สมศ. ในครั้งนั้น