xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ถก กรอ.เห็นชอบสร้างรถไฟเด่นชัย-เชียงของ ปี 60 ขยายถนน-ด่าน-แหล่งน้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกรัฐมนตรี ถกคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนที่ ม.แม่ฟ้าหลวง เผยที่ประชุมเห็นชอบขยายถนน 4 เลน ขยาย 3 ด่าน และพัฒนา 20 แหล่งน้ำ สร้างรถไฟสายเด่นชัย-แพร่-เชียงราย-เชียงของ เริ่มระยะแรกปี 60 รับไม่ง่ายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากหากภาพใหญ่ยังไม่แข็งแรง บอกกำลังหล่อเลี้ยงต้นไม้ไม่ให้เฉา ใส่ปุ๋ยให้ยั่งยืน บอกคุยกับ “สมคิด” หาเงินผุดโครงการมหภาค ส่วนงบปี 62 ลงกลุ่มจังหวัดเพิ่ม ก่อนไปปลูกต้นยางนา



วันนี้ (28 พ.ย.) ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เมื่อเวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะเดินทางมาร่วมการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) โดยทันทีที่เดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้สักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดยมีคณะอาจารย์และนักศึกษาให้การต้อนรับ พร้อมขอถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรีเป็นที่ระลึก ก่อนที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมายังอาคารสำนักงานอธิการบดีเพื่อเป็นประธานการประชุมทั้งส่วนกลางและ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน

จากนั้นนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์พร้อม กรอ.ส่วนกลาง และ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ว่าวันนี้มารับฟังความคิดเห็นและความต้องการของคนในพื้นที่ โดยรัฐบาลต้องการขยายศักยภาพของทุกภูมิภาคไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการทุกโครงการที่จังหวัดเสนอเข้ามา แต่ต้องกลับไปจัดทำรายละเอียดของโครงการต่างๆให้มีความชัดเจนอีกครั้ง อาทิ การขยายเส้นทางถนน 4 เลน ขยายด่าน 3 ด่าน และการพัฒนาแหล่งน้ำ 20 โครงการ อีกทั้งเห็นชอบก่อสร้างรถไฟสายเด่นชัย-แพร่-เชียงราย-เชียงของ โดยจะให้เริ่มดำเนินการในระยะที่ 1 ในปี 2560 อย่างไรก็ตาม วันนี้ต้องมาทบทวนว่าอะไรที่ทำไปแล้วและเกิดผลต่อประชาชน เพื่อให้เกิดความชัดเจนในปี 2560 และสอดคล้องกับแผนสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 และเชื่อมโยงสู่ไทยแลนด์ 4.0 รวมถึงได้หารือว่าทำอย่างไรถึงเพิ่มมูลค่าและหารายได้ให้ประชาชนมากขึ้น โดยต้องมีการเชื่อมโยงการพัฒนาเชิงอุตสาหกรรมและการเกษตรกรรมควบคู่กันไป

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ขออย่ามองว่ารัฐบาลทำแบบเดิมๆ เหมือนที่ผ่านมา แต่ต้องทำในเชิงโครงสร้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากหากเศรษฐกิจในภาพใหญ่ยังไม่แข็งแรง วันนี้จึงเป็นเสมือนการหล่อเลี้ยงต้นไม้ไม่ให้เหี่ยวเฉาและใส่ปุ๋ยให้ยั่งยืน เพราะนี่คือประเทศไทยของเรา และยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังคะแนนเสียง แต่มุ่งหวังเพียงให้ทุกคนมีอนาคต มีอาชีพและรายได้ ซึ่งได้หารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ว่าในปีหน้าจะหาเงินจำนวนหนึ่งเพื่อให้ทุกอย่างเกิดขึ้นในระดับมหภาคและเชื่อมโยงกับสิ่งที่ทำไปแล้ว อีกทั้งงบประมาณในปี 2562 จะทำในส่วนของกลุ่มจังหวัดมากขึ้น ขณะเดียวกันในการช่วยเหลือชาวนา ไม่ใช่เพียงทำให้มีรายได้ดีขึ้นแล้วจะจบ แต่ต้องดูทั้งระบบ เช่นเดียวกับที่รัฐบาลวางยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งไม่ใช่คิดเพื่อการเมือง แต่คิดว่าเป็นการบ้านว่าจะสำเร็จหรือไม่ในอีก 20 ปี ซึ่ง 3 ปีที่ผ่านมาตนไม่อยากให้มุ่งหวังแต่เรื่องการเมือง เพราะวันนี้ต้องเอาประเทศชาติมาก่อน อย่างไรก็ตามต่อไปจะไม่มีใครแยกประเทศได้อีกแล้ว แต่ต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียว เพราะเรามีสถาบัน มีหัวใจเดียวกันคือ หัวใจของคนไทย

ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาข้อเสนอของ คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) และมีผลการพิจารณา ดังนี้

ด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ การเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว ไทย-ลาว-จีน ผ่านเส้น R3A โดยที่ประชุมเห็นชอบโครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว และมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยว ดำเนินงานโครงการดังกล่าว พร้อมกับให้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพื้นที่ที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการดำเนินงาน ทั้งนี้ คาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวในพื้นที่เขตล้านนาเพิ่มขึ้น ร้อยละ 20 ต่อปี

ด้านการค้าการลงทุน ได้แก่ 1. การติดตามความคืบหน้าการพัฒนาด่านชายแดนสากลห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน เพื่อการพัฒนาด้านชายแดนสากลห้วยโกร๋น ให้เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนทางการค้า การลงทุน ศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้มาตรฐานสากล รองรับการขยายตัวทางการค้าชายแดน 2. การยกระดับจุดผ่อนปรนการค้า ด้านบ้านฮวก อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา เพื่อยกระดับจุดผ่อนปรนบ้านฮวก ให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร และเพื่อเพิ่มช่องทางในการขนส่งสินค้าไทยจำนวนหลากหลายมากขึ้นไปยัง สปป.ลาว รวมทั้งเพื่อรองรับการขยายตัวของการค้าชายแดนและการค้าข้ามแดนของประเทศไทยสู่ภูมิภาค ลุ่มแม่น้ำโขงและจีนตอนใต้ ที่ประชุมเห็นชอบให้เร่งรัดปรับปรุง พร้อมพัฒนาทั้ง 2 ด่านตามที่หอการจังหวัดได้นำเสนอ โดยเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จเป็นรูปธรรม สำหรับการสร้างถนนจุดผ่อนปรนการค้า ด้านบ้านฮวก อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา กระทรวงคมนาคมจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2560 ให้สอดคล้องกับการพัฒนาจุดผ่านแดนทางฝั่ง สปป.ลาว 3. การจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร ในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 2 โดยขอรับสนับสนุนงบประมาณในการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรมฯ จำนวน 5,000,000 บาท เพื่อสร้างฐานข้อมูลโครงการของอุตสาหกรรมในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ที่ประชุมเห็นชอบสนับสนุนงบประมาณที่ตามเสนอขอรับการสนับสนุน โดยมอบหมายให้มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเป็นหน่วยงานในการจัดทำแผนแม่บทฯ พร้อมมอบหมายให้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดจัดทำความเชื่อมโยง ชูจุดเด่นด้านวัตถุดิบเรื่องอาหารของแต่ละจังหวัด พร้อมกับให้ต่อยอดโครงการพระราชดำริในพื้นที่ให้ขยายต่อไป

ด้านโครงสร้างพื้นฐานและลอจิสติกส์ ได้แก่ การเร่งรัดขยายทางหลวงหมายเลข 103 (อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่-อำเภองาว จังหวัดลำปาง) โดยขอให้สนับสนุนงบประมาณอย่างต่อเนื่องให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ทำให้ประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงเดินทางสัญจรไปมาอย่างสะดวก ลดระยะเวลาในการเดินทาง รวมถึงลดความแออัดของการจราจรในเส้นทางหลวงกรุงเทพ-ลำปาง-เชียงใหม่ ที่ประชุมเห็นชอบให้เร่งรัดดำเนินการก่อสร้างถนน พร้อมสนับสนุนงบประมาณให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องให้แล้วเสร็จภายในปี 2562

ด้านการบริหารจัดการน้ำ ได้แก่ การบริหารจัดการน้ำจังหวัดแพร่ โดยขอรับงบประมาณในการสนับสนุนโครงการก่อสร้างและปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตรจังหวัดแพร่ จำนวน 244 โครงการ งบประมาณรวมทั้งสิ้น 68,344,800 ล้านบาท ที่ประชุมเห็นชอบสนับสนุนงบประมาณและการดำเนินโครงการดังกล่าว โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับแผนการบริหารจัดการให้สามารถดำเนินการ เน้นการดำเนินโครงการต้องแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้

ทั้งนี้ ระหว่างการประชุม นายกรัฐมนตรีได้กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า รัฐบาลจำเป็นต้องนำปัญหา อุปสรรคที่ผ่านมาของประเทศมาดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปข้างหน้าได้ โดยจะมองจากศักยภาพภายในสู่ภายนอก ผ่านการทำงานจากข้างบนลงข้างล่าง และจากข้างล่างขึ้นข้างบน ซึ่งรัฐบาลและประชาชนต้องร่วมมือกันทำงานภายใต้รูปแบบของประชารัฐ โดยรัฐบาลพร้อมเสริมสร้างศักยภาพ และทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ประชาชนมีความเข้มแข็ง นอกจากนี้จะต้องมีการสร้างเครือข่ายพร้อมกับการบูรณาการการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อดูแลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลประโยชน์โดยตรง
สำหรับการใช้จ่ายงบประมาณ นอกเหนือจากการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีแล้ว งบประมาณตามยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานจะต้องนำเสนอเป็นกลุ่มการทำงานเพื่อลดความซ้ำซ้อนการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งจะต้องมีการจัดทำแผนและหารือก่อนนำเสนอแผนการของบประมาณเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง โดยเฉพาะงบประมาณที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2560 ซึ่งรัฐบาลจะมีการปรับแผนงบประมาณค้างจ่ายแต่ละกระทรวงมาดำเนินการให้เกิดรูปธรรมภายในปี 2560 ให้มากที่สุด

จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางไปปลูกต้นยางนา เยี่ยมชมโครงการสวนพฤกษศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พร้อมรับฟังบรรยายสรุปโครงการสนับสนุนเชียงรายเมืองสมุนไพร และการต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเพื่อสุขภาพ อาทิ มะเกลือ ผักปั๋ง มะแขว่น มะขามป้อม ฟ้าทะลายโจร และขมิ้นชัน

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าต้องการให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้ประชาชนเข้าถึงการใช้สมุนไพร ก่อนที่จะใช้ยาแผนปัจจุบัน ขณะที่อยากให้นำแนวคิดของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในเรื่องการปลูกต้นไม้สองข้างทางของท้องถนนให้สวยงาม และให้ออกดอกพร้อมๆ กัน เช่นเดียวกับดอกซากุระที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกทาง

หลังเสร็จสิ้นการเยี่ยมชมโครงการสวนพฤกษศาสตร์ นายกรัฐมนตรีออกจากเดินทางจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง เพื่อเดินทางกลับกลับกรุงเทพฯ









กำลังโหลดความคิดเห็น