xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ลงพื้นที่ปทุมฯ ย้ำไทยประเทศเกษตรกรรมต้องปลูกข้าว แต่บริหารจัดการให้ดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ปทุมธานีตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำ ย้ำไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมต้องปลูกข้าว แต่ต้องบริหารจัดการให้ดี เผยน้ำไม่ท่วมเหมือนปี 2554 เพราะรัฐบาลไม่ปล่อยปละละเลย บอกไทยเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุด แค่อย่าตีกัน ยันเข้ามาทำการเปลี่ยนผ่านตรงนี้ให้ดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.50 น. วันนี้ (18 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายรอยล จิตรดอน ผอ.สถาบันสารนิเทศน้ำและการเกษตร (สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและในฐานะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิผู้ว่าฯ กทม. และนายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่คลองระพีพัฒน์แยกตก บริเวณประตูน้ำที่ 8 อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่การเกษตร พร้อมพบปะประชาชนและรับฟังปัญหา โดยมีนายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการ จ.ปทุมธานี ให้การต้อนรับ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับประชาชนว่า วันนี้คนไทยกว่า 70 ล้านคนลำบากกว่าเราเยอะ จะทำอย่างไรให้ทุกอย่างไปด้วยกันได้ ก็ต้องฟังที่ตนพูด ต้องดูสิ่งที่รัฐบาลทำ ถ้าประชาชนมีปัญหาอะไรก็ส่งขึ้นมา และสร้างความร่วมมือกับประเทศต่างๆ บนต้นทุนความแตกต่าง อย่างข้าวหอมมะลิและข้าวพันธุ์อื่นๆ ที่มีความแตกต่างกัน แต่วันนี้โลกไปมองว่าต้องกินข้าวหอมมะลิ นี้คือสิ่งที่เป็นปัญหาของพันธะสัญญาโลก เพราะเขาตีว่าข้าวหอมพันธุ์ไหนต้องเหมือนกันหมด ราคาต้องเท่ากันหมด แต่ของเราคุณภาพดีกว่า วันนี้เราไม่ได้อยู่คนเดียว ถ้าอยู่คนเดียวจะสร้างอะไรก็สร้างได้

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องของน้ำที่ปี 2559 น้ำไม่ท่วม เพราะรัฐบาลบริหารจัดการน้ำ จากข้างบนลงข้างล่าง ถ้าปล่อยปะก็ท่วมเหมือนเดิม ถ้าเราปล่อยให้ข้างล่างทำอะไรก็ได้ ก็จะท่วมเหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นชาวบ้านได้ตะโกนถามนายกฯ ว่าน้ำจะมาแบบปี 54 หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ วันนี้โลกเปลี่ยนแปลง ในหลวงได้ทรงสร้างเขื่อนด้านบนไว้แล้ว ฝนตกเหนือเขื่อนจำนวนมากทำให้น้ำไหลลงข้างล่าง แต่ตอนบนแล้ง รัฐบาลกำลังจะแก้ปัญหาจะทำอย่างไรให้สามารถเก็บน้ำไว้ตอนกลางของประเทศได้ ขณะนี้แต่ละพื้นที่มีการบริหารจัดการน้ำที่ดี สามารถเชื่อมต่อน้ำจากคลองต่างๆ รวมถึงการใช้น้ำในการปลูกพืช

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนไม่โทษใคร ขอเพียงทุกคนต้องคิดร่วมกันและหาทางออกให้ได้ อย่าเอาความขัดแย้งทั้งหมดขึ้นมา ไม่อย่างนั้นจะทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าในสิบอย่างเห็นตรงกันสาม ขอให้หยิบสามอย่างมาทำก่อน ส่วนอีกเจ็ดอย่างวางไว้ข้างๆ ก่อน เดี๋ยวจะมาด้วยกันเอง โครงการทุกโครงการมีปัญหา เพราะเป็นโครงการใหญ่ เช่นสร้างอ่างเก็บน้ำ สร้างแก้มลิง แต่ทำแน่นอนทั้งหมด ให้เห็นเป็นตัวอย่าง ไม่อย่างนั้นจะติดกันหมด ทั้งปัญหาพลังงาน ขยะ น้ำ หลายอย่างที่เราคิดทำไว้ต้องทำให้ทันต่อโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง อย่างโรงไฟฟ้าถ้าเราไม่สร้างก็จะไม่มีความมั่นคงทางด้านไฟฟ้า เราต้องมีไฟฟ้าของเราเอง 60-70% ส่วนอีก 30% ก็ไปซื้อเขา แต่ถ้าเราซื้อเกิน 50% วันหน้าอาจจะเกิดอะไรไม่รู้ และถ้าไม่มีไฟฟ้าใช้จะทำอย่างไร

นายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม อย่างไรก็ต้องทำนาปลูกข้าว แต่ต้องทำอย่างไรไม่ให้ปลูกกันตอนน้ำท่วม ซึ่งพื้นที่ตรงไหนที่เป็นแก้มลิง ต้องมีการเสียสละกันได้หรือไม่ รัฐบาลจะชดเชยให้ แต่ถ้าทุกคนต้องการปลูก พอน้ำท่วมรัฐบาลก็ต้อง มันก็จะท่วมอยู่แบบนี้ แต่รัฐบาลเสียเงิน ท่านก็ต้องเสีย แล้วคุ้มกันหรือไม่ ถ้าไม่ปลูกข้าว หรือปลูกพืชอื่น ถ้าน้ำท่วมก็เสียหายน้อยลง รัฐบาลก็ยังดูแลให้ อย่างนี้เรียกว่าช่วยกันทั้งสองฝ่าย เราเข้าใจทุกคนมีปัญหาหมด ทั้งปัญหาหนี้สิน เฉพาะชาวนามีมากกว่างบประมาณแผ่นดินอีก ซึ่งรัฐบาลก็กำลังดำเนินการแก้ไขอยู่ แล้วมีใครเคยมาทำให้ท่านหรือไม่ ไม่มี เพราะเขาไม่คิดหรอก เขาไม่รบกับใคร แต่ตนรบกับทุกคน รบเพื่อใคร ก็เพื่อคนทุกคน เพื่อเด็กๆที่วันหน้าจะเป็นผู้ใหญ่ จะให้เขาลำบากยากจนอย่างเราหรือ ตนกำลังคิดวิธีทำให้คนรุ่นหลังสบายขึ้น

“ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก จำไว้ ไม่ต้องตีกันแค่นั้นแหละ มีความสุขแล้ว อย่างมาบอกว่ายากจน เพราะระบบมันไม่เกิด ผ่านมากี่ปีแล้วประชาธิปไตย 80 กว่าปี ระบบมันยังไม่เกิด แต่มันต้องเกิด และมันต้องมีประชาธิปไตย เข้าใจไหม ผมเข้ามาทำการเปลี่ยนผ่านตรงนี้เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นก็ขึ้นอยู่กับท่านแล้วว่าจะเอาอย่างที่ผมพูด หรือจะเอาแบบเดิม ว่ายังไง จะเอาแบบไหน” เมื่อนายกฯ พูดจบ ชาวบ้านได้ตอบกลับมาว่า “เอาอย่างที่นายกฯ พูด เอาอนาคตฝากไว้กับนายกฯ” ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวทันทีว่า “โน่นไปฝากกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. เพราะเขามาจากการเลือกตั้งทั้งสิ้น ทำให้เขาเข้มแข็ง เอาคนดีมาทำงาน เราต้องมีความคิดเป็นของตัวเอง”

จากนั้น นายกฯ ได้เดินข้ามสะพานไปเพื่อตรวจดูระดับน้ำในคลองรพีพัฒน์ ก่อนที่จะเดินไปทักทาย เด็กนักเรียนขั้นอนุบาล จากโรงเรียนลำพระยา ที่มารอต้อนรับประมาณ 20 คน โดยนายกฯ ได้พูดคุยหยอกล้อกันเด็กอย่างเป็นกันเองซึ่งนายกฯ แกล้งถามเด็กๆ ว่า “รู้จักผมมั้ย” เด็กๆ ได้ตอบกลับมาว่า “รู้จัก นายกรัฐมนตรี” นายกฯ จึงสอนเด็กๆ ว่า “ต้องพูดครับ-ค่ะด้วย เป็นคนไทยต้องพูดให้ไพเราะ ครับ ค่ะ ขอโทษ ขอบคุณ และการไหว้ นี่คือความเป็นไทย และขอให้เป็นคนดีด้วย”


กำลังโหลดความคิดเห็น