สมาคมต้านโลกร้อนนำชาวบ้านซอยมหาดเล็กหลวง 2 ฟ้องศาลปกครอง เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างอาคารโครงการฯ ของสำนักงานพระคลังข้างที่ ระบุทำลายพื้นที่สีเขียว กทม.อนุมัติสุ่มเสี่ยงผิด กม.เหตุอาจเกรงใจมือที่มองไม่เห็น
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมด้วยชาวบ้านที่พักอาศัยในซอยมหาดเล็กหลวง 2 และซอยชิดลม เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เข้ายื่นฟ้องผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-3 ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีเพิกถอนใบอนุญาตการก่อสร้างอาคารโครงการ มหาดเล็กหลวง 2 เรสซิเดนเซส ของสำนักงานพระคลังข้างที่ และหรือบริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) รวมทั้งสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีหรือหัวหน้าหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวกำหนด และระหว่างการพิจารณาคดีขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวสั่งระงับการก่อสร้างโครงการไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่า ชาวบ้านในซอยหลังสวนได้รับความเดือดร้อนจากกรณีที่สำนักงานพระคลังข้างที่ได้ให้บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) เช่าใช้พื้นที่รกร้างว่างเปล่าเดิมเนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน 28 ตารางวา ภายในซอยมหาดเล็กหลวง 2 ถ.ราชดำริ แขวงลุมพีนี เขตปทุมวัน ซึ่งเป็นเหมือนสวนสาธารณะของคนในพื้นที่ในการก่อสร้างอาคารสูง 41 ชั้น ชั้นใต้ดิน 1 ชั้นจำนวน 1 หลัง เป็นอาคารขนาดใหญ่พิเศษพื้นที่ 44,618 ตารางเมตร เพื่อใช้อยู่อาศัยรวม 145 ห้อง ภายใต้ชื่อโครงการ “มหาดเล็กหลวง 2 เรสซิเดนเซส” ภายใต้สัญญาเช่าใช้ประโยชน์มีกำหนด 30 ปี โดยสำนักงานพระคลังข้างที่เป็นผู้ยื่นขออนุญาตในการก่อสร้างและได้รับอนุมัติจากผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสาม
การดำเนินโครงการดังกล่าวชาวบ้านได้พยายามคัดค้าน และร้องเรียนไปยัง ผอ.เขตมาตอลด เนื่องจากเห็นว่าในบริเวณดังกล่าวมีอาคารสูงอยู่หนาแน่น จึงควรมีพื้นที่สีเขียวไว้บ้าง ขณะเดียวกัน เดิมนั้นบริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม ได้ยื่นรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ก็ไม่ผ่าน แต่มาผ่านในภายใน หลังเมื่อมีการไปขอใช้พื้นที่ของบริษัทอื่นมาเป็นพื้นที่สาธารณะ เชื่อว่าเป็นการกระทำขัดต่อกระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยชาวบ้านก็ได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองไว้แล้วเป็นคดีหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าวเดิมเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า มีสภาพทั่วไปเป็นธรรมชาติมากมีต้นไม้ใหญ่ปกคลุม เป็นแหล่งออกซิเจน พักอาศัยหากินของนกในเมือง มีสัตว์ป่าสงวน และคุ้มครองตามกฎหมายทั้งนกคัดคู นกเค้า นกขมิ้นท้ายทอยดำ กระรอก กระแต ที่ถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎกระทรวง และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 เมื่อมีการก่อสร้างดังกล่าวว ซึ่งเวลานี้เริ่มตอกเสาเข็มแล้ว ก็มีการตัดทำลายต้นไม้น้อยใหญ่โดยที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามไม่เข้าไปควบคุม หรือตรวจสอบให้มีการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
“ผู้ที่ยื่นขออนุญาตก่อสร้างโครงการเป็นสำนักงานพระคลังข้างที่ ก็อาจจะมีผู้มีบารมี หรือมือที่มองไม่เห็นที่ทำให้หน่วยราชการเกรงอกเกรงใจ เพราะแม้เป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายก็อนุมัติอนุญาตกัน พอชาวบ้านสอบถามไปยังสำนักงานเขต ก็อ้างว่าสำนักงานพระคลังข้างที่ ขออนุญาตมาถูกต้องแล้วก็มีรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมถูกต้อง ทั้งที่เรื่องอีไอเอชาวบ้านก็ยื่นฟ้องศาลปกครองขอเพิกถอน เมื่อคดียังไม่ถึงที่สุด ผู้ถูกฟ้องคดีก็ยังกลับอนุมัติ และเวลานี้ที่เริ่มก่อสร้างมีการตอกเสาเข็มดูแล้วก็ไม่เป็นไปตามหลักวิศวกรรมการก่อสร้าง ที่ปกติต้องมีวัสดุในการป้องกันเสียงดัง แต่อาจจะเห็นว่าเป็นการก่อสร้างโครงการของผู้มีบารมีจึงไม่มีการปกป้องดูแผลกระทบให้กับชาวบ้าน”
center>
