ทีมงานโฆษกรัฐบาลนำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแจงจัดระเบียบสื่อทำเนียบฯ ระบุเพื่อความเรียบร้อย เป็นไปตามแผนแม่บท ย้ำเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยปกติ ไม่เกี่ยวเรื่องภัยคุกคาม “วีรชน” กำชับนักข่าวจะทำงานสบายๆ เหมือนก่อนไม่ได้ ใครเหยียบชั้น 1 ตึกบัญชาการ เพื่อสัมภาษณ์แหล่งข่าวต้องประสานสำนักงานโฆษกฯ
ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (4 พ.ย.) ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำโดย พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมข้าราชการและเจ้าหน้าที่ระดับสูง เช่น นายธีรวุฒิ กลั่นเลี้ยง ผู้อำนวยการกองสถานที่ยานพาหนะและรักษาความปลอดภัย พ.ต.อ.เกียรติ กาบบัว ผู้กำกับการตำรวจสันติบาล 3 และนายอภิรัตน์ ใยศิริ นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ ระดับ 8 สำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุรพล บานชื่น ผู้อำนวยการกลุ่มรักษาความปลอดภัย ได้ชี้แจงทำความเข้าใจข้อสงสัยของสื่อมวลชนในการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในทำเนียบรัฐบาล
โดยนายนายธีรวุฒิกล่าวชี้แจงว่า ตามระเบียบรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล มีแผนแม่บทฉบับปรับปรุงเมื่อปี 2556 กำหนดให้พื้นที่ตึกบัญชาการ 1 ชั้น 1 เป็นเขตหวงห้ามเฉพาะ จะเข้าได้เฉพาะผู้มีภารกิจเท่านั้น ส่วนสื่อมวลชนจะสามารถเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ได้เมื่อมีการประสานกับสำนักโฆษกฯ แล้วเท่านั้นว่าสามารถมารอทำข่าวในจุดใดจุดหนึ่งเท่านั้น การมาดักรอสัมภาษณ์แหล่งข่าว ให้รอภายนอกตึกบัญชาการ 1 เท่านั้น ส่วนชั้น 2 เป็นต้นไปเป็นเขตหวงห้ามเด็ดขาด สามารถเข้าได้เฉพาะผู้ที่มาติดต่อกับทางราชการที่มีการแลกบัตรจากชั้น 1 มาแล้ว อย่างไรก็ตาม กรณีที่แหล่งข่าวเชิญนักข่าวมาทำข่าวเองนั้น ทางแหล่งข่าวต้องมีการประสานกับสำนักโฆษกฯ เพื่อให้มีการตรวจสอบก่อน
ด้านนายสุรพลกล่าวชี้แจงว่า สำหรับรูปแบบบัตรสื่อมวลประจำทำเนียบปี 2560 จะเป็นรูปแบบใหม่เป็นบัตรอิเล็กทอนิกส์มีความสวยงามและทนทาน ส่วนสาเหตุที่ต้องให้ไปถ่ายรูปติดบัตรที่สำนักโฆษกฯ ในครั้งนี้ เพื่อให้รูปติดบัตรที่มีความสุภาพและเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศ
ขณะที่ พล.ท.วีรชนกล่าวว่า ตนเข้าใจการทำงานทั้งสองฝ่าย เราเคยอยู่แบบสบายๆ มานาน พอมีระเบียบก็อาจมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากขึ้น เนื่องจากทางสำนักโฆษกฯ ได้รับการเน้นย้ำให้มีมาตรการที่เป็นระบบ ส่วนการให้สัมภาษณ์ของแหล่งข่าวนั้นเราจะการประสานกับแหล่งข่าวที่จะให้สัมภาษณ์ว่าต้องมีขั้นตอนมีระบบยืนยันมาตรการดังกล่าวไม่ใช่เพื่อให้มีอุปสรรคกับการทำงานของสื่อมวลชน แต่อยากให้มองว่าทำเนียบรัฐบาลเป็นที่บริหารราชการแผ่นดินต้องมีการรักษาความปลอดภัยในระดับสูง ทั้งนี้ ตนเดินทางไปปฏิบัติราชการมาหลายประเทศ ได้เห็นทำเนียบรัฐบาลของแต่ละประเทศล้วนมีมาตรการเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยมากกว่าประเทศเรามาก
อย่างไรก็ตาม เราก็จะรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อนำไปพิจารณาหาจุดลงตัวในการทำงานของทั้งสองฝ่ายให้ราบรื่นมากที่สุด ยืนยันมาตรการรักษาความปลอดภัยดังกล่าว ไม่ได้เกิดจากเหตุผลเรื่องภัยคุกคาม แต่เป็นเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยที่ควรจะเป็น
ขณะที่นายอภิรัตน์ชี้แจงว่า การทำงานของสื่อมวลชนอิสระ (ฟรีแลนซ์) ที่นานๆ ทีถึงจะเข้ามาทำข่าวในทำเนียบรัฐบาล หากทำข่าวส่งให้กับต้นสังกัดใดก็ควรให้ต้นสังกัดออกใบรับรอง ถึงจะมีการออกบัตรผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลให้ได้ แต่ใครที่มาทำข่าวเพียงเดือนละ 1-2 ครั้ง การแลกบัตรเพื่อเข้ามาทำข่าวในทำเนียบฯ จะเป็นวิธีที่สะดวกมากกว่า
ขณะที่ พ.ต.อ.เกียรติกล่าวว่า สำหรับผู้สื่อข่าวที่จะผ่านเข้าออกทำเนียบฯ ไม่สามารถใช้เส้นทางด้านที่ติดกับสะพานชมัยมรุเชฐได้ เนื่องจากถือเป็นเส้นทางเข้าออกของนายกฯ คณะทูตานุทูต และแขกสำคัญระดับสูงทั้งในและต่างประเทศ ส่วนผู้สื่อข่าวที่ไม่มีบัตรประจำตัวทำข่าวภายในทำเนียบฯ หากต้องการเข้ามาทำข่าวจะต้องแลกบัตรเฉพาะที่ประตู 1 ทำเนียบฯ ซึ่งต้องใช้เส้นทางเข้าออกเฉพาะประตูฝั่งสะพานอรทัยเท่านั้น