สะเก็ดไฟ
ในบรรยากาศเเห่งการเเสดงความอาลัย ถนนทุกสายที่มุ่งหน้าสู่พระบรมมหาราชวังเนืองเเน่นไปด้วยรถรา คราคร่ำไปด้วยประชาชนชาวไทยทุกเชื้อสาย ทุกศาสนา ไม่เว้นเเม้เเต่ชาวต่างชาติ
เเม้ฝนกระหน่ำเเต่ไม่มีใครถอยหนี ยังแน่วแน่ทั้งบรรดาจิตอาสา วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่างสละเวลามาคอยรับส่งพี่น้องเดินทางเข้าออก โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายสักสตางค์เเดงเดียว
สิ่งเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย หรือแม้แต่เกิดขึ้นในสากลโลก ความเศร้าโศกอาดูรของราษฎร ค่อย ๆ หลอมรวมเป็นพลังสามัคคีดังที่เห็นเช่นกันกับรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำโดย “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. สั่งการให้ทุกภาคส่วนอำนวยความสะดวกเต็มกำลัง
ขณะที่สถานการณ์การเมือง ในห้วงเวลาเดียวกันเริ่มเดินหน้า เดินเครื่อง รัฐบาลทั้งนายกฯ และองคาพยพ ต่างย้ำหนักเเน่นว่าโรดเเมปที่วางไว้ ไม่มีทางเลื่อน แต่สิ่งที่น่าจับตา คือ หัวเลี้ยวหัวต่อล้อไปถึงฉากเสียวไส้ของพรรคเพื่อไทย
กรณีกระทรวงการคลัง มีคำสั่งทางปกครองให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าว กว่า 3 หมื่นล้านบาท แสงสปอตไลต์ ฉายเข้าใส่ อดีตนายกฯหญิง “ยิ่งลักษณ์” เพราะชนักที่ค้างอยู่ในกระบวนการยุติธรรม - ถูกเรียกค่าเสียหาย 3 หมื่น 5 พันกว่าล้านบาท ที่อาจส่งแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองครั้งใหญ่ เริ่มงวดเข้ามา
ล่าสุด “ฟลุ๊ค เดอะสตาร์” พชร ธรรมมล เเฟนคลับเจ้าเดิม ประกาศบริจาคเงิน 1 เเสนบาท ช่วยเหลือ หาก นายกฯหญิง ถูกสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าวจริง ๆ ทั้งยังปลุกกระเเสเรียกคะเเนนสงสาร ใครคิดเหมือนกัน ก็ขอให้ช่วย ๆ กัน
นั่นทำให้ล่าสุด มือยุทธศาสตร์คนสำคัญของพรรคเพื่อไทยอย่าง “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย ออกมาส่งเสียงสำทับสนับสนุน กวักมือเรียกให้บรรดากองเชียร์ เเฟนคลับ ใครรัก “ยิ่งลักษณ์” ต้องออกมาปกป้อง อย่าให้ถูกรังเเก
ท่องคาถาบทเดิม ๆ ในท่วงทำนองนายหญิงกำลังถูกรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ใช้อำนาจพิเศษจาก มาตรา 44 แทรกแซง สั่งกรมบังคับคดียึด และอายัดทรัพย์ บีบคั้นเอาผิด ทั้ง ๆ ที่นโยบายรับจำนำข้าวเป็นนโยบายเพื่อชาวนา และเป็นนโยบายที่แถลงไว้แล้วต่อรัฐสภาเเล้ว “ภูมิธรรม” ตั้งคำถามว่า รัฐบาลที่เกิดจากการรัฐประหารมีความชอบธรรมแล้วหรือ ที่จะชี้ผิดชี้ถูก เอากับรัฐบาลที่ถูกยึดอำนาจ
จึงถึงเวลาเเล้วที่ต้องออกมาปกป้องนายกฯหญิงให้พ้นอันตราย ออกเเนวท้าทาย ตาต่อตาฟันต่อฟัน โดยตรง
ทำให้ “หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม” อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ไม้เบื่อไม้เมากับเจ้าของโครงการรับจำนำข้าว และพรรคเพื่อไทย ออกมาปรามว่า ไม่ใช่เวลาที่ “ภูมิธรรม” ซึ่งเป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ออกมากวนน้ำให้ขุ่นในบรรยากาศแห่งความอาลัยโศกเศร้าเยี่ยงนี้
คดีรับจำนำข้าวแม้จะแถลงไว้ต่อรัฐสภาแล้วดำเนินการได้นั้น ไม่ผิด มันผิดตรงที่พอดำเนินการเเล้ว เงินไม่ถึงมือชาวนาทุกบาททุกสตางค์ ระหว่างหนทาง และขั้นตอนมีการปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตต่างหาก ดังนั้น “ยิ่งลักษณ์” ในฐานะหัวขบวนของนโยบายจึงต้องรับผิดชอบไปเต็ม ๆ
แถม “หมอวรงค์” ยังโดดป้องรัฐบาล คสช. ว่า ไม่ได้ใช้อำนาจพิเศษกลั่นแกล้ง แต่การดำเนินการทุกประการเป็นไปตาม พ.ร.บ. รับผิดทางละเมิดปี 2539 ชัดเจน ไม่มีบิดพลิ้ว และถ้าพรรคเพื่อไทยปลุกพลังแฟนคลับปกป้องนายกฯหญิง “หมอวรงค์” ก็ขอปลุกพลังประชาชนขึ้นมาปกป้องกระบวนการยุติธรรมไทยเช่นกัน เรียกว่า ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!
ขณะเดียวกัน หลานสาวสุดรัก “แพทองธาร ชินวัตร” หรือ “อุ๊งอิ๊ง” บุตรสาวหัวแก้วหัวเเหวนของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ โพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมส่วนตัวขณะกำลังทำงาน พร้อมข้อความระบุว่า “ทำงานสิคะ รออะไร ?? จะโดนปล้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้”
ทว่า “บิ๊กตู่” กลับเล่นบทไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว เลี่ยงการตอบโต้ ไม่หือ ไม่อือ เพียงผิวปากสวนเบา ๆ เรื่องดังกล่าวตนเองนั้นไม่เคยชี้ถูกชี้ผิด และจะไม่ต่อล้อต่อเถียงตามหน้าสื่ออีกเเล้ว ขอให้ไปสู้กันในชั้นศาล
เรียกว่า “นิ่ง สงบ สยบความเคลื่อนไหว” ทำเอาลิ่วล้อพลพรรคเพื่อไทย ไม่สนุกสนานดังที่จินตนาการกันไว้
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ขณะนี้ต้องจับตาห้ามกะพริบ หลังจากนี้ “ยิ่งลักษณ์” และทีมงาน จะยื่นเรื่องภายใน 30 วัน ขอใช้สิทธิยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่อศาลปกครองตามสิทธิที่พึงมีหรือไม่ ถ้ายื่นจะเป็นอย่างไรต่อ เพราะถ้ายื่นสู้จนสุดทางเเล้วยังไม่พ้นต้องข้อครหา ต้องถูกยึด และอายัดทรัพย์อีก คงจบแห่ลิเกเลิก ตามเสียงบ่นของลิ่วล้ออย่าง “สมคิด เชื้อคง” บอก ต่อให้ใช้เงินที่ยิ่งลักษณ์เก็บหอมรอมริบเอาไว้ทั้งชีวิตมา ก็คงไม่พอจ่ายค่าเสียหาย
สถานการณ์ฝ่ายตั้งรับมีน้อยนิด ทางเดินบนกระดานเหลือแต่แต้มถอยเข้ามุมอับ จังหวะขยับจากแดนไกลจึงเริ่มเคลื่อนไหว เตรียมเเผนสำรอง หัวกะทิเเกนนำเพื่อไทยทุกสายสุมหัวกระซิบกระซาบกันที่ดูไบ นายใหญ่แจกการบ้าน จากการประเมินว่าจะมีการเลือกตั้งในเร็ววัน สั่งเตรียมการศึกษาทางหนีที่ไล่ เเละหนทางเอาชนะศึกในกติการัฐธรรมนูญใหม่
แต่ทุกอย่างยังไม่เเน่นอนเสมอไปภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ จากสถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องร่างรัฐธรรมนูญที่อยู่ในชั้นการเเก้ไขคำปรารภ เล่นเเร่แปธาตุ ระหว่าง ศาลรัฐธรรมนูญ และ กรธ. รวมไปถึงกฎหมายลูก ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับ ก็ยังไม่มีใครเห็นหน้าตา ทิศทาง
ระหว่างที่หลายฝ่ายกำลังลุ้น ว่า จะได้เลือกตั้งกันเมื่อไหร่ หรือว่าอดีตนายกฯหญิง จะเพลี่ยงพล้ำช้ำชอกเเพ้คดีถูกยึดทรัพย์หมดตัวอย่างไร
พลุไฟสว่างวาบถูกจุดขึ้นจากน้ำเสียงของ “นิคม ไวยรัชพานิช” อดีตประธานวุฒิสภา ในฐานะหนึ่งในศิษย์ก้นกุฏิสำนักชินวัตร จี้รัฐบาล คสช. ใช้โอกาสที่คนไทยกำลังมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รักชาติ รักสถาบัน เร่งสร้างปรองดอง อย่าชักช้า ประหนึ่งว่ามีนัยยะใจความสำคัญ ลบรอยแผล สร้างความเป็นธรรม ประสานรอยร้าวนับหนึ่งก้าวไปสู่ความเป็นชาติไทยถิ่นเมืองทองอย่างที่เคยเป็น
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ฉวยโอกาสดีลีตข้อมูล รีสตาร์ทกันใหม่ !
ในบรรยากาศเเห่งการเเสดงความอาลัย ถนนทุกสายที่มุ่งหน้าสู่พระบรมมหาราชวังเนืองเเน่นไปด้วยรถรา คราคร่ำไปด้วยประชาชนชาวไทยทุกเชื้อสาย ทุกศาสนา ไม่เว้นเเม้เเต่ชาวต่างชาติ
เเม้ฝนกระหน่ำเเต่ไม่มีใครถอยหนี ยังแน่วแน่ทั้งบรรดาจิตอาสา วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่างสละเวลามาคอยรับส่งพี่น้องเดินทางเข้าออก โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายสักสตางค์เเดงเดียว
สิ่งเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย หรือแม้แต่เกิดขึ้นในสากลโลก ความเศร้าโศกอาดูรของราษฎร ค่อย ๆ หลอมรวมเป็นพลังสามัคคีดังที่เห็นเช่นกันกับรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำโดย “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. สั่งการให้ทุกภาคส่วนอำนวยความสะดวกเต็มกำลัง
ขณะที่สถานการณ์การเมือง ในห้วงเวลาเดียวกันเริ่มเดินหน้า เดินเครื่อง รัฐบาลทั้งนายกฯ และองคาพยพ ต่างย้ำหนักเเน่นว่าโรดเเมปที่วางไว้ ไม่มีทางเลื่อน แต่สิ่งที่น่าจับตา คือ หัวเลี้ยวหัวต่อล้อไปถึงฉากเสียวไส้ของพรรคเพื่อไทย
กรณีกระทรวงการคลัง มีคำสั่งทางปกครองให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าว กว่า 3 หมื่นล้านบาท แสงสปอตไลต์ ฉายเข้าใส่ อดีตนายกฯหญิง “ยิ่งลักษณ์” เพราะชนักที่ค้างอยู่ในกระบวนการยุติธรรม - ถูกเรียกค่าเสียหาย 3 หมื่น 5 พันกว่าล้านบาท ที่อาจส่งแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองครั้งใหญ่ เริ่มงวดเข้ามา
ล่าสุด “ฟลุ๊ค เดอะสตาร์” พชร ธรรมมล เเฟนคลับเจ้าเดิม ประกาศบริจาคเงิน 1 เเสนบาท ช่วยเหลือ หาก นายกฯหญิง ถูกสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าวจริง ๆ ทั้งยังปลุกกระเเสเรียกคะเเนนสงสาร ใครคิดเหมือนกัน ก็ขอให้ช่วย ๆ กัน
นั่นทำให้ล่าสุด มือยุทธศาสตร์คนสำคัญของพรรคเพื่อไทยอย่าง “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย ออกมาส่งเสียงสำทับสนับสนุน กวักมือเรียกให้บรรดากองเชียร์ เเฟนคลับ ใครรัก “ยิ่งลักษณ์” ต้องออกมาปกป้อง อย่าให้ถูกรังเเก
ท่องคาถาบทเดิม ๆ ในท่วงทำนองนายหญิงกำลังถูกรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ใช้อำนาจพิเศษจาก มาตรา 44 แทรกแซง สั่งกรมบังคับคดียึด และอายัดทรัพย์ บีบคั้นเอาผิด ทั้ง ๆ ที่นโยบายรับจำนำข้าวเป็นนโยบายเพื่อชาวนา และเป็นนโยบายที่แถลงไว้แล้วต่อรัฐสภาเเล้ว “ภูมิธรรม” ตั้งคำถามว่า รัฐบาลที่เกิดจากการรัฐประหารมีความชอบธรรมแล้วหรือ ที่จะชี้ผิดชี้ถูก เอากับรัฐบาลที่ถูกยึดอำนาจ
จึงถึงเวลาเเล้วที่ต้องออกมาปกป้องนายกฯหญิงให้พ้นอันตราย ออกเเนวท้าทาย ตาต่อตาฟันต่อฟัน โดยตรง
ทำให้ “หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม” อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ไม้เบื่อไม้เมากับเจ้าของโครงการรับจำนำข้าว และพรรคเพื่อไทย ออกมาปรามว่า ไม่ใช่เวลาที่ “ภูมิธรรม” ซึ่งเป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ออกมากวนน้ำให้ขุ่นในบรรยากาศแห่งความอาลัยโศกเศร้าเยี่ยงนี้
คดีรับจำนำข้าวแม้จะแถลงไว้ต่อรัฐสภาแล้วดำเนินการได้นั้น ไม่ผิด มันผิดตรงที่พอดำเนินการเเล้ว เงินไม่ถึงมือชาวนาทุกบาททุกสตางค์ ระหว่างหนทาง และขั้นตอนมีการปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตต่างหาก ดังนั้น “ยิ่งลักษณ์” ในฐานะหัวขบวนของนโยบายจึงต้องรับผิดชอบไปเต็ม ๆ
แถม “หมอวรงค์” ยังโดดป้องรัฐบาล คสช. ว่า ไม่ได้ใช้อำนาจพิเศษกลั่นแกล้ง แต่การดำเนินการทุกประการเป็นไปตาม พ.ร.บ. รับผิดทางละเมิดปี 2539 ชัดเจน ไม่มีบิดพลิ้ว และถ้าพรรคเพื่อไทยปลุกพลังแฟนคลับปกป้องนายกฯหญิง “หมอวรงค์” ก็ขอปลุกพลังประชาชนขึ้นมาปกป้องกระบวนการยุติธรรมไทยเช่นกัน เรียกว่า ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!
ขณะเดียวกัน หลานสาวสุดรัก “แพทองธาร ชินวัตร” หรือ “อุ๊งอิ๊ง” บุตรสาวหัวแก้วหัวเเหวนของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ โพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมส่วนตัวขณะกำลังทำงาน พร้อมข้อความระบุว่า “ทำงานสิคะ รออะไร ?? จะโดนปล้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้”
ทว่า “บิ๊กตู่” กลับเล่นบทไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว เลี่ยงการตอบโต้ ไม่หือ ไม่อือ เพียงผิวปากสวนเบา ๆ เรื่องดังกล่าวตนเองนั้นไม่เคยชี้ถูกชี้ผิด และจะไม่ต่อล้อต่อเถียงตามหน้าสื่ออีกเเล้ว ขอให้ไปสู้กันในชั้นศาล
เรียกว่า “นิ่ง สงบ สยบความเคลื่อนไหว” ทำเอาลิ่วล้อพลพรรคเพื่อไทย ไม่สนุกสนานดังที่จินตนาการกันไว้
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ขณะนี้ต้องจับตาห้ามกะพริบ หลังจากนี้ “ยิ่งลักษณ์” และทีมงาน จะยื่นเรื่องภายใน 30 วัน ขอใช้สิทธิยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่อศาลปกครองตามสิทธิที่พึงมีหรือไม่ ถ้ายื่นจะเป็นอย่างไรต่อ เพราะถ้ายื่นสู้จนสุดทางเเล้วยังไม่พ้นต้องข้อครหา ต้องถูกยึด และอายัดทรัพย์อีก คงจบแห่ลิเกเลิก ตามเสียงบ่นของลิ่วล้ออย่าง “สมคิด เชื้อคง” บอก ต่อให้ใช้เงินที่ยิ่งลักษณ์เก็บหอมรอมริบเอาไว้ทั้งชีวิตมา ก็คงไม่พอจ่ายค่าเสียหาย
สถานการณ์ฝ่ายตั้งรับมีน้อยนิด ทางเดินบนกระดานเหลือแต่แต้มถอยเข้ามุมอับ จังหวะขยับจากแดนไกลจึงเริ่มเคลื่อนไหว เตรียมเเผนสำรอง หัวกะทิเเกนนำเพื่อไทยทุกสายสุมหัวกระซิบกระซาบกันที่ดูไบ นายใหญ่แจกการบ้าน จากการประเมินว่าจะมีการเลือกตั้งในเร็ววัน สั่งเตรียมการศึกษาทางหนีที่ไล่ เเละหนทางเอาชนะศึกในกติการัฐธรรมนูญใหม่
แต่ทุกอย่างยังไม่เเน่นอนเสมอไปภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ จากสถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องร่างรัฐธรรมนูญที่อยู่ในชั้นการเเก้ไขคำปรารภ เล่นเเร่แปธาตุ ระหว่าง ศาลรัฐธรรมนูญ และ กรธ. รวมไปถึงกฎหมายลูก ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับ ก็ยังไม่มีใครเห็นหน้าตา ทิศทาง
ระหว่างที่หลายฝ่ายกำลังลุ้น ว่า จะได้เลือกตั้งกันเมื่อไหร่ หรือว่าอดีตนายกฯหญิง จะเพลี่ยงพล้ำช้ำชอกเเพ้คดีถูกยึดทรัพย์หมดตัวอย่างไร
พลุไฟสว่างวาบถูกจุดขึ้นจากน้ำเสียงของ “นิคม ไวยรัชพานิช” อดีตประธานวุฒิสภา ในฐานะหนึ่งในศิษย์ก้นกุฏิสำนักชินวัตร จี้รัฐบาล คสช. ใช้โอกาสที่คนไทยกำลังมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รักชาติ รักสถาบัน เร่งสร้างปรองดอง อย่าชักช้า ประหนึ่งว่ามีนัยยะใจความสำคัญ ลบรอยแผล สร้างความเป็นธรรม ประสานรอยร้าวนับหนึ่งก้าวไปสู่ความเป็นชาติไทยถิ่นเมืองทองอย่างที่เคยเป็น
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ฉวยโอกาสดีลีตข้อมูล รีสตาร์ทกันใหม่ !
